'ส้ม’โน้มหา‘น้ำเงิน’เพื่อคว้าธงนำ ปิดประตูตาย‘แดง’รอวันยุบสภา

ในห้วงเวลาที่ ‘เก้าอี้นายกฯ’ ถูกว่างเว้น จนเป็นผลให้ “โมเมนตัมทางการเมือง” จำต้องเคลื่อนตัวอีกครั้ง 

หลัง ‘แดง-น้ำเงิน’ แตกหัก จนยากจะหาทางสมาน ด้วยการทำนิติสงคราม ทั้งพยายามช่วงชิงจังหวะนำ และฉกฉวยตัวผู้เล่นกันเอง

ภายใต้วิกฤตการณ์นี้ เป็นโอกาสให้ ‘ส้ม’ กลับมาเป็น ‘ตัวแปร’ หลัก ที่จะเติมเสียง เพื่อส่งแคนดิเดตของทั้ง 2 พรรคนั้นได้นั่ง ‘นายกฯ คนใหม่’ สมใจ 

ก่อนหน้านี้ ‘น้ำเงิน’ ได้แสดงออกอย่างเต็มตัว เร่งเครื่องเหยียบมิดไมล์ เดินทางมาสู่ขอถึงที่ทำการพรรคทันทีที่รู้ผล พร้อมตอบยอมรับทุกเงื่อนไข อย่างมีท่าทีสบายใจ ไร้กังวล 

สวนทางกับ ‘แดง’ ที่แรกเริ่มยังคงมีอีโก้ค้ำคอ รอล็อบบี้หลังบ้าน ผ่านการต่อสายตรงถึงกันของ ‘2 ผู้นำจิตวิญญาณ’ 

แต่ก็โดนดักทาง เพราะ ‘หัวหน้าเท้ง’ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน รีบออกมาบอกว่า “การให้ข่าว หรือการบอกว่า ไปแอบเจรจากับใครลับหลัง โดยที่ไม่เจรจากับตน กับผู้บริหารพรรคโดยตรง จะไม่รับข้อเสนออย่างเป็นทางการใดๆ ทั้งสิ้น”

พร้อมกับที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ต้องยอมรับว่า ได้พูดคุยกับ นายทักษิณ ชินวัตร แล้ว 

กระทั่งมีการส่ง นายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรีนำทัพ พร้อมพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่ มาหาพรรคประชาชนเอง แต่ก็ยังไร้เงา นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยอยู่ดี

ขณะที่การเปิดเผยวงหารือทางการกับส้มนั้น ฝ่าย 'แดง' บอกว่า สิ่งที่ผ่านมาเขาต้องทำในสิ่งที่เขาต้องทำ พร้อมกล่าว ขอโทษที่ทำให้เรารู้สึกแบบนั้น ส่วน ‘น้ำเงิน’ ที่ไม่พูดเยอะ ไม่ค่อยรำมวย เอาไม่เอา ตกลงกันแบบนี้นั้น 

ทำให้ถูกมองว่า ‘คนมีอำนาจตัดสินใจในพรรคประชาชน ปักธงในใจไว้อยู่แล้ว’ เพียงแต่จะยอมแพร่งพรายออกมาตอนไหน 

ในการประชุมพิเศษนัดแรกของ สส.พรรคประชาชนบางส่วน พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค ตัวแทนเครือข่าย และพนักงานของพรรค ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ทุกคนสามารถแสดงความเห็นได้

แม้ในวงถกนี้จะยังไม่ได้ดุเดือดอะไรมากนัก เนื่องจากเหมือนเป็นการแค่เปิดเวทีให้ เพราะกลัวถ้า สส.ไม่มีรูระบาย หรือไม่ได้คุยกันภายในก่อน อาจจะมีการไปแสดงความคิดเห็นของตัวเองในโซเชียลได้ ทั้งยังไม่ได้เร่งรัดให้ทุกคนต้องเลือกแนวทาง อยากให้ถามตอบกันได้ทุกประเด็นมากกว่า 

เพราะจริงๆ แล้ว สส.ในพรรคก็อยากรู้เหมือนกันว่า มีเวลาแค่ไหน จะจบเมื่อไร ใช้เงื่อนไขไหนในการตัดสินใจบ้าง เนื่องจากไม่มีข้อมูลประกอบเท่าทีมบริหารและทีมเจรจา 

ขณะบางส่วนก็มีการแสดงความเห็นว่า ถ้าไม่เลือกเลย อาจจะได้ใจฐานเสียง โกยคะแนนเสียงท่วมๆ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ก็ยังคงเป็นส่วนน้อย หรือกระทั่งคนที่บอกว่า ถ้าพรรคเลือกในสิ่งที่ตัวเองรับไม่ได้ จะประกาศลาออก

แต่สิ่งหนึ่งที่มั่นใจได้คือ สส.ในพรรคยังคงเชื่อใจในทีม แม้รู้ดีว่า “จะเลือกทางไหน ก็คงเจ็บหมด” เพราะสิ่งที่ทั้งพรรคมองตรงกันคือ ทางออกของประเทศคือการยุบสภา ดังนั้นก็คงต้องเลือก จึงเชื่อกันว่า หากมีมติออกมา ก็คงไม่ได้งอแงมากจนจะถึงจุดแตกหักกันเอง

ภายหลังการประชุม นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน จึงออกมาเปิดเผยถึงข้อกังวลว่า หากอยู่เฉยๆ แล้วงดออกเสียง ก็อาจจะทำให้แดงและน้ำเงินไหลกลับไปรวมกัน จนทำให้การเลือกตั้งล่าช้าออกไปอีก ทั้งยังอาจเกิดกรณีมีนายกรัฐมนตรีคนนอก จากนั้น จึงได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคช่วงค่ำ ก่อนร่วมถกกันในวง สส.เอง ต่อเนื่องอีกวันหนึ่ง

เมื่อมองภาพกว้าง คงไม่แปลกอะไร ที่กระแสภายนอกจะมองว่า สุดท้าย ถ้าต้องเลือกจริง ไม่ว่าส้มจะเลือกเดินไปทางไหนก็โดนด่า น้ำเงินจึงยังคงมีภาษีที่ดีกว่า เพราะจะได้มีมือไม้ ทั้งองคาพยพ อย่างองค์กรอิสระ และ สว.ที่จะสามารถเดินเข้าเงื่อนไขที่กำหนดไว้ได้มากกว่า

ยิ่งการที่แดงพยายามแก้เกม โดยการประกาศว่า จะไม่ยอมเป็นฝ่ายค้าน และอาจใช้ทางเลือกในการยุบสภา หากส้มไม่รับข้อเสนอ พ่วงกับที่นายชัยเกษมให้สัมภาษณ์ย้อนแย้งกับแกนนำพรรคตัวเอง แถมเผยไต๋อีกว่า อาจจะมีอัศวินขี่ม้าขาวเข้ามาช่วย ก็ทำให้แดงแทบไม่เหลือเครดิตอะไร ขนาดนายทักษิณ ชินวัตร เอง ยังจำต้องยอมรับกับ สส.เพื่อไทย ว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด”

อีกทางหนึ่ง ด้วยกระแสข่าวว่า ‘แดง’ ยอมยุบสภา ก็จะยิ่งเข้าทางตามที่ส้มอยากบีบให้กระบวนการเร่งรัดได้เร็วขึ้นอยู่แล้ว ทั้งยังไม่ต้องมานั่งตอบคำถามกับฐานเสียงตัวเองด้วย ณ เวลานี้ ส้มจึงมีแต่ได้กับได้

เป้าประสงค์ของส้มขณะนี้จึงเน้นหนักย้ำชัดว่า ต้องมีการรับทราบข้อตกลง และแนวทางการปฏิบัติต่อสาธารณะ อาจมีการแถลงร่วม เพื่อเอาผลหารือออกมากางให้ประชาชนเห็น และต้องเดินตามความต้องการหลัก คือ ส้มต้อง ‘ควบคุมทิศทาง’ ของ ‘รัฐบาลเสียงข้างน้อย’ ได้

เมื่อมีรายงานข่าวจากน้ำเงินว่า กรรมการบริหารพรรคได้กำหนดกรอบ และแนวทางนโยบาย ที่จะเริ่มดำเนินการภายใน 120 วัน หลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภา รวมถึงกรอบการลงพื้นที่ของฝ่ายบริหาร หรือ ครม.สัญจร ตลอดจนการดำเนินการตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงไว้กับส้ม

ภายหลังการประชุม สส.ของพรรคในวันที่ 2 ซึ่งมีเสียงแตกออกเป็น 2 ฝ่ายชัดเจน จึงยังคงไม่มีมติทางการใดๆ ออกมา เพราะต้องรอการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรคในวันนี้อีกครั้ง 

แต่ก็คงจะเดากันได้ว่า แนวโน้มน่าจะชัดเจนแล้ว รอดูกันแค่ จะเกิดการเซ็นสัญญาอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ระหว่าง ‘ส้ม-น้ำเงิน’ ในเวลากี่โมง. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โทรโข่งเพื่อไทย โจมตี 'อนุทิน' โยกย้าย ขรก.มหาดไทย ในจำนวนที่น่าตกใจมาก

"ศึกษิษฏ์" ซัด "อนุทิน" โยกย้าย ขรก.มหาดไทยไม่หยุด ตั้งข้อสังเกตโยงเครือข่ายบ้านใหญ่รับศึกเลือกตั้ง ตอก "ธนาธร" หลังออกโรงป้อง "เสี่ยหนู" เหน็บ ภท.-ปชน.ติดค้างสินน้ำใจกันอยู่หรือไม่

'สุพิศาล' อดีตแกนนำพรรคส้ม ลาออกแล้ว แฉเลือกผู้สมัคร สส. มีลับลมคมใน

พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวกรณีที่ได้ลาออกจากพรรคประชาชน ว่า เป็นเรื่องจริง ซึ่งได้ยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา

นายกฯ ทุบโต๊ะ! ประเทศมหาอำนาจกดดันไทยหยุดยิงไม่ได้ ต้องไปบอกฝ่ายกัมพูชา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนชนจีน ได้คุยโทรศัพท์กับนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

'อนุทิน' บอกถ้าได้เป็นรัฐบาล 'เอกนิติ-ศุภจี-สีหศักดิ์' ร่วมงานต่อ เดินหน้าคนละครึ่ง

"อนุทิน" ระบุแคนดิเดตนายกฯ ยังไม่ตอบรับ แต่ถ้าได้เป็นรัฐบาลยืนยัน "เอกนิติ-ศุภจี-สีหศักดิ์" ร่วมงานต่อ ส่วนจะเปิดตัววันไหนบอกยังมีเวลา ส่วนนโยบายพรรคยังไม่สะเด็ดน้ำ แต่คนละครึ่งพลัสได้ไปต่อ

'จุลพันธ์' หารือ 'เทวัญ' นำลูกพรรคชาติพัฒนา ย้ายซบเพื่อไทย

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความพร้อมภาพถ่ายร่วมกับนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา โดยระบุว่า วันนี้ผมได้พบและหารือกับท่านเทวัญ ลิปตพัลลภ