
การทางพิเศษฯเตรียมชงบอร์ด 24 พ.ค.นี้ เข็นโครงการทางด่วน ‘ฉลองรัช – นครนายก – สระบุรี’ ประเดิมเฟสแรกทุ่ม 1.9 หมื่นล้านบาท สร้าง 17 กิโลเมตรเชื่อมวงแหวนรอบที่ 3 คาดเสนอ ครม.อนุมัติกลางปีนี้ เปิดประมูลปี66 ปักหมุดเปิดใช้ปี69 หวังแก้รถติด
23 พ.ค.2565 – นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี โดยระบุว่า ขณะนี้โครงการดังกล่าวมีความพร้อมที่จะผลักดันอย่างมาก เนื่องจากผ่านการพิจารณรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และทำการศึกษาออกแบบรายละเอียดโครงการแล้วเสร็จ กทพ.จึงอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) อนุมัติในวันที่ 24 พ.ค.นี้ เพื่อเริ่มต้นเดินหน้าลงทุนโครงการ
“ตอนนี้ภาพรวมโครงการมีความพร้อมหมดแล้ว มีการจัดรับฟังความคิดเห็นภาคประชาชนและส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ติดปัญหาอะไร ทุกฝ่ายพร้อมสนับสนุนให้พัฒนาโครงการนี้ เบื้องต้นการทางฯ คาดว่าหากบอร์ดพิจารณาอนุมัติในการเสนอครั้งนี้ ก็จะสามารถเสนอโครงการเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือน ส.ค.ปีนี้ หรืออย่างช้าปลายปีนี้”นายสุรเชษฐ์ กล่าว
แหล่งข่าวจาก กทพ.ระบุว่า แผนพัฒนาโครงการทางพิเศษสายดังกล่าว แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 4 ระยะ โดยระยะที่ 1 จะเริ่มจากจุดเชื่อมต่อจากทางพิเศษฉลองรัช (อาจณรงค์-รามอินทรา-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร) บริเวณด่านจตุโชติมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก-ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตัดถนนหทัยราษฎร์และถนนนิมิตใหม่ และถนนลำลูกกา ซึ่งจะสิ้นสุดบริเวณถนนวงแหวนรอบที่ 3 ของกรมทางหลวง (ทล.) มีระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร
ทั้งนี้โดยเบื้องต้นงานก่อสร้างระยะแรกนั้น กทพ.จะดำเนินการลงทุนพัฒนาเอง จัดใช้วงเงินลงทุนราว 1.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งปรับลดจากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีการปรับแบบก่อสร้าง และลดระยะทางไปได้ราว 2 กิโลเมตร ส่งผลให้วงเงินดังกล่าวเหลือแบ่งเป็น วงเงินค่าก่อสร้าง 1.74 หมื่นล้านบาท เป็นส่วนที่ กทพ.จะลงทุนเอง และค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 1.6 พันล้านบาท ที่ต้องขอสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล
สำหรับรูปแบบการลงทุนนั้น อาจจะใช้รูปแบบการออกพันธบัตรวงเงิน 1.74 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำที่สุดในขณะนี้ โดยประเมินว่าจะมีอัตราดอกเบี้ยเพียง 2-3% ส่วนเงินทุนที่ระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์ (TFFIF) ปัจจุบันได้นำมาใช้จ่ายดำเนินโครงการอื่นๆ แล้ว
ทั้งนี้ส่วนแผนพัฒนาในระยะต่อไป กทพ.จะทยอยลงทุนเมื่อมีการเปิดให้บริการระยะแรกแล้วและมีปริมาณการใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็น ระยะที่ 2 มีแนวเส้นทางเริ่มจากบริเวณถนนวงแหวนรอบที่ 3-ทางหลวงชนบท นย.3001 ไปยังถนนรังสิต-นครนายก บริเวณด้านหลังศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร
สำหรับระยะที่ 3 แนวเส้นทางจะเริ่มต้นจากถนนรังสิต-นครนายก ขึ้นไปทางเหนือ ตัดผ่านทางหลวง 33 (ถนนสุวรรณศร) บริเวณ กม.116+000 ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร และระยะที่ 4 เริ่มต้นจากถนนสุวรรณศร-ทางเลี่ยงเมืองสระบุรี สิ้นสุดโครงการที่ถนนมิตรภาพ บริเวณ กม.10+700 อำเภอแก่งคอย สระบุรี ระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร รวมวงเงินลงทุนทั้ง 4 ระยะประมาณ 8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้าง 7.3 หมื่นล้านบาท และค่าเวนคืนประมาณ 7 พันล้านบาท
“โครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี หากได้รับการอนุมัติจาก ครม.ในเดือน ส.ค.นี้ คาดว่าจะสามารถเริ่มขั้นตอนเปิดประมูลหาผู้รับจ้างก่อสร้างได้ในช่วงกลางปี 2566 หลังจากนั้นจะเริ่มงานก่อสร้างโครงการในปี 2567 และเปิดให้บริการในปี 2569 ซึ่งล่าช้ากว่าแผนเดิมที่ตั้งเป้าเปิดให้บริการในปี 2568″แหล่งข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตามโครงการนี้ถือเป็นโครงข่ายทางพิเศษที่สำคัญ และมีความจำเป็นในการพัฒนา เนื่องจากจะเป็นโครงการที่ช่วยเพิ่มความสะดวก ปลอดภัย และประหยัดเวลาแก่ผู้ใช้เส้นทางที่เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และถนนพหลโยธิน รวมไปถึงระบบโครงข่ายถนนปัจจุบันที่แนวเส้นทางโครงการตัดผ่าน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
LH Bank จับมือ การทางพิเศษฯ ส่งฟีเจอร์ใหม่ “เติมเงิน Easy Pass” ผ่านแอป LHB You พิเศษลูกค้าใหม่ เพียงเปิดบัญชีมียอดฝากเงินและเติมเงิน รับเงินคืนสูงสุด 300 บาท
LH Bank ร่วมกับ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ออกฟีเจอร์ใหม่ บริการเติมเงินบัตร Easy Pass ผ่านแอปพลิเคชัน LHB You เพื่อมอบความสะดวกสอดรับกับทุกไลฟ์สไตล์ทางการเงิน พร้อมมอบโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ รับเงินคืนสูงสุด (Cash Back)
ข่าวดี 'วันพืชมงคล' 9 พ.ค. ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ 3 สาย
'วันพืชมงคล' 9 พฤษภาคม 2568 กทพ. ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ 3 สาย 'เฉลิมมหานคร ศรีรัช และบางปะอิน-ปากเกร็ด' รวม 61 ด่าน
BEMจับมือกทพ. จัด'ฟุตบอลปันสุข สนุกรอบสายทาง' นำน้องๆเยาวชนรับประสบการณ์
BEM และกทพ. ส่งมอบความประทับใจในโครงการ “ฟุตบอลปันสุข สนุกรอบสายทาง” เปลี่ยนพื้นที่ใต้ทางด่วนเป็นลานสร้างแรงบันดาลใจกลางเมือง พาเยาวชนกว่า 300 คน พบประสบการณ์ตรงชมการแข่งขันฟุตบอลไทยลีกแบบติดขอบสนาม พร้อมขนเหล่าไอดอลขวัญใจเยาวชน ตอง-กวินทร์ จีโน่-ต้องซุย แม็ก โยนเหรียญ และอีกมากมาย ร่วมสร้างสีสันตลอดงาน


