'จุรินทร์' ตั้งอนุ กก.ปาล์ม 5 ฝ่าย คุมราคา-เช็กสต๊อกไม่ให้ขาดตลาด

‘จุรินทร์’ ตั้งอนุกรรมการปาล์ม 5 ฝ่าย ย้ำดูแลผู้บริโภคในประเทศก่อน เข้มทั้งระบบ ดูราคา-เช็กสต๊อกไม่ให้ขาดแคลน

30 พ.ค. 2565 – เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงประเด็นราคาน้ำมันปาล์มว่า สำหรับประเด็นราคาน้ำมันปาล์มตอนนี้มีคณะอนุกรรมการขึ้นมาแล้ว (คณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม) จัดตั้งขึ้นโดยมติของคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ซึ่งประกอบด้วย 5 ฝ่าย มีทั้งตัวแทนเกษตรกร ตัวแทนโรงงานสกัด ตัวแทนโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มขวดบริโภคและตัวแทนผู้ส่งออก รวมทั้งตัวแทนภาครัฐที่เกี่ยวข้อง

ซึ่งคณะอนุกรมการชุดนี้จะเป็นผู้พิจารณาดู 2 เรื่องสำคัญ 1.เพื่อให้ราคาเป็นธรรม 2.เพื่อไม่ให้ปริมาณน้ำมันปาล์มบริโภคขาดแคลนในประเทศ ซึ่งปริมาณและราคาที่เป็นธรรมนั้นจะมีการพิจารณาความเหมาะสม ว่าต้นทุนราคาการผลิตน้ำมันปาล์มขวดบริโภคนั้นสูงขึ้นมากน้อยเพียงใด เพราะขณะนี้ราคาผลปาล์มดิบซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตสำคัญราคาสูงขึ้นมากเฉลี่ยกิโลกรัมละ 10 บาท หรือ 9 – 11 บาทต่อกิโลกรัม โดยประมาณ ซึ่งสูงกว่า 2-3 ปีที่แล้วที่กิโลกรัมละ 2 บาทกว่า ต้นทุนผลปาล์มดิบเพิ่มขึ้นหลายเท่า ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มขวดบริโภคต้นทุนสูงขึ้นประกอบกับราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนการขนส่ง พื้นที่ห่างไกลราคาน้ำมันปาล์มขวดจะสูงขึ้นตามไปด้วยตามระยะทาง เป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันขวดบริโภคเพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้กรมการค้าภายในพยายามเจรจาและได้มีการทำโครงสร้างราคาชัดเจน ถ้าผลปาล์มกิโลกรัมเท่านี้ราคาน้ำมันปาล์มบริโภคจะต้องขวดละไม่เกินเท่าไหร่ แต่คณะอนุกรรมการชุดนี้จะเข้ามาดูอีกส่วนหนึ่ง เพราะประกอบด้วยทุกฝ่ายที่จะทำให้ราคาอยู่ในราคากำกับตามโครงสร้าง แต่ขณะนี้ราคากำกับตามโครงสร้างสูงกว่าราคาขายจริง เพราะกระทรวงพาณิชย์ประชุมขอความร่วมมือว่าราคาต้องอยู่ในเกณฑ์ราคาที่เหมาะสม แม้จะต่ำกว่าโครงสร้าง ซึ่งได้รับความร่วมมือด้วยดี ขณะนี้ราคาขวดละ 66 – 68 บาท ต่ำกว่าราคาตามโครงสร้าง แต่อนุกรรมการชุดนี้จะเข้ามาช่วยดูด้วย รวมทั้งดูปริมาณว่าประเทศต้องมีสต๊อกน้ำมันปาล์มสำหรับบริโภคเพียงพอไม่ให้ขาดแคลนกำหนดเกณฑ์ว่าสต๊อกไม่ต่ำกว่าเท่าไหร่ ถ้ามีเกินจำนวนเท่าไหร่ จะต้องมีมาตรการมีเกณฑ์เรื่องส่งออกด้วยหรือไม่ โดยใช้เกณฑ์สต๊อกที่เพียงพอเป็นตัวตั้ง คำนึงถึงผู้บริโภคในประเทศก่อน ซึ่งจากนี้ไปคณะอนุกรรมการชุดนี้จะสามารถดำเนินการได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลลุยต่อยอด 'ผ้าขาวม้าไทยฟีเวอร์' ขยายตลาดช่วยชุมชนโกยรายได้

รัฐบาลเดินหน้าส่งเสริมต่อยอด 'ผ้าขาวม้าไทยฟีเวอร์' เพิ่มมูลค่าขยายตลาด ช่วยผู้ประกอบการชุมชนโกยรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น

ก.ก.แตะ'ทักษิณ'แค่ผิว ปชป.ติดหล่มร่วมรัฐบาล

การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ระหว่างวันที่ 3-4 เม.ย. ถือเป็นเวทีของฝ่ายค้าน นำโดย พรรคก้าวไกล และ พรรคประชาธิปัตย์ สังคมคาดหวังจะมีการเปิดแผลให้รัฐบาลก่อนปิดสมัยประชุม 9 เม.ย.นี้

รัฐบาลช่วย SME ไทย เข้าถึงแหล่งเงินทุน ผ่านมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ

รัฐบาลบูรณาการความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับ SME ไทย ผ่านการจัดงานมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ

'พาณิชย์' ลุยต่อ จัดธงฟ้าราคาประหยัด ลดภาระค่าครองชีพให้พี่น้องประชาชน ชาว จ.สุรินทร์ และ จ.อุบลราชธานี

“พาณิชย์” เดินหน้าลดค่าครองชีพให้พี่น้องประชาชน จัดงานธงฟ้าราคาประหยัด ทั้งที่จ.สุรินทร์ และจ.อุบลราชธานีนำสินค้าจากผู้ประกอบการ ห้าง เกษตรกร SMEs วิสาหกิจชุมชน เครือข่ายรุ่นใหม่ YEC และ Young Smart Farmer รวม 10 หมวดสินค้า กว่า 1,000 รายการ ลดสูงสุด 60%

'ภูมิธรรม' ชื่นชมคอร์สสอนทำอาหารไทยในฮ่องกงกำลังเป็นที่นิยม ช่วยดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเปิดงาน Thai Food Festival ที่โรงแรม Hotel ICON