'รัชดา' แจง 'ธ.ก.ส.'ขานรับนโยบายรัฐบาลแก้หนี้ภาคครัวเรือน ช่วยเหลือเกษตรกร เดินหน้าโครงการชำระดีมีคืน-ลดดอกเบี้ย
22 มิ.ย.2565 – น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน รวมทั้งกำหนดประเด็นต่างๆ ในการแก้ปัญหา โดยหน่วยงานต่าง ๆ ได้นำนโยบายไปปฏิบัติเกิดผลเป็นรูปธรรมผ่านโครงการ และมาตรการต่าง ๆ ส่งผลให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลือ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน คลายความกังวล และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
น.ส.รัชดากล่าวว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) เป็นอีกสถาบันการเงินของรัฐที่เดินหน้าขับเคลื่อนมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน ซึ่งได้จัดตั้งคณะกรรมการบริหารหนี้ในระดับจังหวัดและสาขา เพื่อเข้าไปดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดโครงการชำระดีมีคืน โดยคืนดอกเบี้ย 20% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง วงเงินรวม 2,000 ล้านบาท และโครงการลดดอกเบี้ยแก้หนี้ภาคครัวเรือน ปีบัญชี 2565 เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่มีหนี้สินเป็นภาระหนักโดยลดดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกินร้อยละ 50 เพื่อเสริมสภาพคล่องในการใช้จ่ายให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและ COVID-19
น.ส.รัชดา กล่าวว่า สำหรับปีบัญชี 2565 โครงการฯมุ่งเน้นเกษตรกร บุคคล กลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ นิติบุคคล รวมถึงกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ซึ่งเป็นลูกค้าที่สามารถชำระต้นเงินหรือดอกเบี้ยได้ปกติหรือมีหนี้ค้างชำระ ไม่เกิน 3 เดือน ที่มีหนี้คงเหลือ ณ วันที่ 30 เมษายน 2565 (ยกเว้นหนี้เงินกู้โครงการที่ได้รับชดเชยดอกเบี้ยตามนโยบายรัฐบาล) ให้มีแรงจูงใจในการชำระหนี้ตามกำหนดเวลา โดยธนาคารจะคืนดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากลูกค้าโดยตรงในวันถัดไป วงเงินรวม 2,000 ล้านบาท สำหรับเกษตรกรบุคคล รับดอกเบี้ยคืน อัตรา 20% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง ไม่เกินรายละ 1,000 บาท และกลุ่มเกษตรกร นิติบุคคล กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง รับดอกเบี้ยคืน อัตรา 10% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง สะสมไม่เกิน 3,000 บาท และกรณีกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ สะสมรายละไม่เกิน 10,000 บาท
น.ส.รัชดา กล่าวอีกว่า ส่วนโครงการลดดอกเบี้ยแก้หนี้ภาคครัวเรือน มุ่งเน้นให้เกษตรกรและบุคคล กลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ นิติบุคคล รวมถึงกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ที่เป็นหนี้ด้อยคุณภาพ (Non - Performing Loan - NPL) หรือหนี้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่มีสถานะรับรู้รายได้ดอกเบี้ยค้างรับเกณฑ์เงินสด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 หรือลูกหนี้ที่ออกจากโครงการพักชำระหนี้โครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลที่ครบกำหนด โดยมีอัตราในการลดดอกเบี้ย ได้แก่ 1.ลดดอกเบี้ยไม่เกิน 50% ของดอกเบี้ยค้างชำระทั้งหมด เมื่อชำระหนี้เสร็จสิ้นเป็นรายสัญญา 2. กรณีชำระดอกเบี้ยได้เสร็จสิ้น ลดดอกเบี้ย 30% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง 3. กรณีชำระดอกเบี้ยบางส่วน ลดดอกเบี้ย 20% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง สำหรับเกษตรกรและบุคคล ในกรณีที่เป็นลูกหนี้กลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ นิติบุคคล รวมถึงกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ลดดอกเบี้ย 10% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถตรวจสอบสิทธิ์ในการเข้าร่วมโครงการฯ ได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับโครงการเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02 555 0555 ทั้งนี้ ระยะเวลาเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เศรษฐา' ขายฝัน 'IGNITE THAILAND' ให้ 'UN- ESCAP'
นายกฯ หารือรองเลขาธิการสหประชาชาติ และเลขาธิการบริหาร ESCAP ย้ำศักยภาพไทย ในการขับเคลื่อน SDGs อย่างเป็นรูปธรรม เสริมสร้างความร่วมมือและการพัฒนาที่ยั่งยืนให้แก่ประชาชนในภูมิภาค
'เศรษฐา' บอก 'ไทย-อังกฤษ' มีสัมพันธ์มาอย่างยาวนาน
นายกฯ เผย 'ไทย-สหราชอาณาจักร' มีความสัมพันธ์กันยาวนาน การลงทุนระหว่างประเทศมีเยอะวีซ่าฟรี-เอฟทีเอ
นายกฯ เมินตอบต้นตอย้าย 'บิ๊กต่อ' เข้ากรุสำนักนายกฯ
นายกฯ ปัดตอบหลังสื่อจี้ถามย้าย 'บิ๊กต่อ' พัวพันรับส่วยหรือไม่ บอกแจงเหตุผลไปแล้ว ขอใจเย็นๆให้เวลาคณะกรรมการเก็บข้อมูลก่อน
รับไม่ได้ติดตามข่าวจักรภพ! แต่เมื่อกลับไทยก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
นายกฯ ชี้ 'จักรภพ' กลับไทยมอบตัว ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ถูกต้อง
นายกฯ ย้ำใช้งบประมาณปี 67 ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
'เศรษฐา' ยันใช้งบปี 2567 อย่างเหมาะสม ทุกโครงการต้องคุ้มค่า หลังสภาผ่านงบ
เลิกสังคมอีแอบ! เศรษฐาแบไต๋ผุดกาสิโน
'เศรษฐา' หนุนกาสิโนถูกกฎหมาย ลั่นต้องยกเศรษฐกิจสีเทาขึ้นมาบนพื้น เพื่อกำกับควบคุม ดีกว่าปล่อยให้เป็นสังคมอีแอบ