
บอร์ด เคที ที่ประชุมได้พิจารณาสัญญารถไฟฟ้าบีทีเอสทุกฉบับเตรียมหาทางเจรจาเปลี่ยนแปลงสัญญาเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด นัดหารือครั้งต่อไปวันที่ 2 ก.ค. นี้จ่อเชิญผู้ว่าฯ กทม.ร่วมพิจารณาข้อเสนอของบอร์ดฯ
1 ก.ค.2565-นายพิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ประธานกรรมการบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เปิดเผยภายหลังการประชุมกรรมการบริษัท (บอร์ดบริษัทฯ) ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาข้อสัญญาต่างๆ ที่กรุงเทพธนาคม (เคที) ได้ทำสัญญาว่าจ้างบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส ในการเดินรถไฟฟ้า ซึ่งในส่วนของสัญญาสัมปทานนั้นเป็นไปตามข้อกฎหมายถูกต้องไม่มีประเด็นข้อสงสัย
นายพิเศษ ธงทอง กล่าวว่า ในที่ประชุมได้ให้ความสำคัญต่อการทำสัญญาส่วนต่อขยายส่วนที่ 1 ช่วงสถานีสะพานตากสิน – บางหว้า และช่วงสถานีอ่อนนุช-แบริ่ง ซึ่งมีการจ้างเดินรถผูกพันเป็นระยะเวลายาวนาน 30 ปี (ปี 2555 – 2585) ซึ่งที่ผ่านมาในช่วง 10 ปีถึงปัจจุบันในปี 2565 จะพบว่ามีข้อเท็จจริงหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป เช่น โรคโควิด-19 สภาพเศรษฐกิจโลก วิถีชีวิต ที่เปลี่ยนแปลงไป
ทั้งนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขต่างๆ ที่เคยตกลงหรือเข้าใจในข้อสัญญานั้นเปลี่ยนแปลงไปด้วย เช่นควรจะมีการทบทวน เช่น ตัวเลขค่าบริการ ที่เทคโนโลยีต่างๆพัฒนาอย่างรวดเร็ว เช่น เดิมใช้เงินสดซึ่งมีกระบวนการจัดการทางการเงินยุ่งยาก ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทำให้ สะดวกรวดเร็วขึ้น เป็นต้น รวมทั้งพิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างรอบคอบ
นายพิเศษ กล่าวต่อว่า สำหรับส่วนต่อขยายที่2 ช่วงสถานีหมอชิต-คูคตและสถานีแบริ่ง-เคหะสมุทราปราการ ซึ่งออกไปนอกพื้นที่กทม. โดยมีเส้นทางไปถึงจังหวัดปทุมธานีและสมุทรปราการ ถือเป็นเรื่องระดับนโยบายที่เกินขอบเขตหน้าที่ของกรุงเทพมหานครและกรุงเทพธนาคม ซึ่งตั้งแต่เริ่มต้นโครงการนี้ดำเนินการก่อสร้างโดยการรถไฟฟ้าโดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่มีภารกิจในการดำเนินการเรื่องรถไฟฟ้าทั่วประเทศ
แต่ต่อมาก็มีประเด็นปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อเดินทาง ระหว่างรถไฟฟ้าที่ดำเนินการโดยรฟม. กับบีทีเอสไม่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางได้อย่างสะดวก เชื่อมต่อไม่สนิท ซึ่งคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องในขณะนั้นก็ได้มีการโยกโครงการรถไฟฟ้าส่วนนี้มาให้กรุงเทพมหานคร เนื่องจากโดยสภาพเป็นโครงสร้างในเส้นทางสายเดียวกัน เพื่อให้การเดินทางเชื่อมต่อกันได้สะดวก ซึ่งกทม.ก็ได้รับโครงสร้างรถไฟฟ้ามาพร้อมกับหนี้สิ้น
อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ก็ได้ให้โจทย์กับทางคณะกรรมการไปเพื่อไปดูตัวเลขต่างๆ ให้ตกผลึกและนำกลับมาพูดคุยอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม 2565 นี้ และมีความเป็นไปได้ว่าจะเรียนเชิญผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ของกรุงเทพธนาคม เข้ามารับฟังรายละเอียดจากทางคณะกรรมการบริษัทซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านกฎหมาย ด้านการเงิน ด้านวิศวกรรม เพื่อสอบถามรายละเอียดต่างๆ กับทางคณะกรรมการได้โดยตรง
นายธงทอง กล่าวหาคณะกรรมการชุดนี้มุ่งหวังว่าจะทำให้ข้อสัญญาและรายละเอียดต่างๆ เกิดความกระจ่าง คลายความกังวลสงสัยที่อธิบายไม่ได้มายาวนาน สิ่งสำคัญสูงสุดคือประโยชน์สาธารณะร่วมกันโดยที่ทุกฝ่ายอยู่ได้และมีความเป็นไปได้ ในการทำธุรกิจ และประชาชนผู้ใช้บริการได้รับความเป็นธรรม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โถ! เด็กเพื่อไทยตามบี้รัฐบาลลดค่ารถ ไฟฟ้า
'รองเลขาฯ เพื่อไทย' ชี้ค่ารถไฟฟ้าไทยสูงเกินจริงถึง 34% ซัดปล่อยขึ้นสายสีเขียวซ้ำเติมค่าครองชีพ เผยเพื่อไทยเตรียมกฎหมายแล้ว เร่งรัฐบาลอนุทินสานต่อทำราคากลับสู่ความเหมาะสมต่อค่าครองชีพ
ผู้ว่าฯกทม. ใช้กระสอบทราย 50,000 ลูก อุดช่องว่างใต้ดิน เผยจุดน่าห่วงถนนสามเสนทรุดตัว
ผู้ว่าฯ กทม. เร่งแก้ไขเหตุการณ์ถนนสามเสนทรุดตัว ด้วยกระสอบทราย 50,000 ลูก ขณะที่วชิรพยาบาลยืนยันอาคารปลอดภัยแต่ขอปิด OPD ชั่วคราว
ชาวบ้าน-ทหารผ่านศึก ร่วมเฝ้าสวนปาล์มกว่า 2 หมื่นไร่ ดักจับโจรนายทุนขโมยผลผลิต
ชาวบ้าน - ทหารผ่านศึก รวมพลเป็นยามเฝ้าแผ่นดิน คุมพื้นที่สวนปาล์มกว่า 2 หมื่นไร่ ดักจับโจรนายทุน "แก๊งพุงกาง" ขโมยผลผลิต หลังหมดสัมปทานนาน 10 ปี รัฐเกียร์ว่าง กอบโกยนับหมื่นล้าน


