6 พ.ย.2564 - นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้เห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เพื่อสร้างความแน่นอนในเรื่องรายได้ ดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวครอบคลุมกว่า 4.68 ล้านครัวเรือน โดยประกันรายได้ให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 (รอบที่1) ซึ่งทาง ธ.ก.ส. จะดำเนินการจ่ายเงินส่วนต่างงวดแรก ในวันที่ 9 พ.ย. นี้ ซึ่งเงินส่วนต่างที่จะโอนเข้าบัญชีเกษตรกรในงวดแรกนี้ แบ่งเป็น ข้าวเปลือกหอมมะลิ 4,135.77 บาท/ตัน ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ 3,592.25 บาท/ตัน ข้าวหอมปทุมธานี 1,052.14 บาท/ตัน ข้าวเจ้า 1,934.62 บาท/ตัน และข้าวเหนียว 4337.47 บาท/ตัน ข้าวทุกชนิด ณ ความชื้น 15% จำนวนตันตามเกณฑ์ที่กำหนด พร้อมกันนี้ ก็จะเดินหน้ามาตรการคู่ขนานรักษาระดับเสถียรภาพราคา โดยทางกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า เกษตรกรที่รวมข้าวเข้าจัดเก็บในยุ้งฉาง จะได้ค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท สหกรณ์และโรงสีได้สภาพคล่องชดเชยดอกเบี้ย 3% (สหกรณ์ได้ระยะเวลา 1 ปี ส่วนโรงสีได้ระยะเวลา 6 เดือน ) ส่วนผู้ค้าข้าว ชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต๊อก 3% เพื่อเป็นการชะลอการขายข้าวสู่ตลาดในช่วงที่มีผลผลิตออกมามาก
ควบคู่กันไป กระทรวงพาณิชย์ได้เร่งระบายข้าวออกสู่ตลาดต่างประเทศผ่านมาตรการส่งเสริมการส่งออก และเมื่อผนวกกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง คาดว่าแนวโน้มในปีนี้ไทยจะสามารถส่งออกข้าวได้ตามเป้า ที่ปริมาณ 6 ล้านตัน นับตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค. เป็นต้นมา จะเห็นว่าตัวเลขส่งออกมีปริมาณมากขึ้น ตลาดหลักที่ไทยส่งออกได้เพิ่ม อาทิ จีน ฟิลิปปินส์ แคเมอรูน มาเลเซีย โมซัมบิก และสิงคโปร์ สถิติการขอใบอนุญาตส่งออกข้าว ตอนนี้เป็นเดือนละ 7-8 แสนตัน ขณะที่ครึ่งปีแรกประมาณเดือนละ 4-5 แสนตันเท่านั้น
“การส่งออกข้าวไทยที่กลับมาฟื้นตัว เป็นผลมาจากความสำเร็จจากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างภาคเอกชนของไทยและกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ข้าวไทยด้านการตลาดต่างประเทศ ดำเนินการภายใต้หลักการ “ตลาดนำการผลิต” ซึ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศ ร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และทูตพาณิชย์ในฐานะเซลส์แมนประเทศเร่งการเจรจาหารือเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า และประชาสัมพันธ์ข้าวไทยกับคู่ค้าสำคัญอย่างต่อเนื่อง เช่น ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย ทำให้คู่ค้าเชื่อมั่นในศักยภาพในการส่งออกข้าวคุณภาพของไทย แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และหันมาสนใจนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 2–3 เดือนที่ผ่านมา” นางสาวรัชดา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พาณิชย์' หารือบังกลาเทศ ชงเดินหน้าทำ FTA
“รองปลัดพาณิชย์” ต้อนรับรองปลัดพาณิชย์ บังกลาเทศ และคณะนักธุรกิจจากสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมบังกลาเทศ–ไทย หารือยกระดับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุน ไทยชงเดินหน้าทำ FTA ระหว่างกันโดยเร็ว
วัดเอื้อชุมชน เปิดให้ชาวบ้านตากข้าวเปลือกเต็มพื้นที่โดยไม่เก็บเงิน
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปีของเกษตรผู้ปลูกข้าวในเขต จ.ขอนแก่น เนื่องจากขณะนี้ทุกพื้นที่เริ่มทำการเกี่ยวข้าวและตากข้าวหลังการเก็บเกี่ยว ซึ่งก็ยังพบว่า ริมถนนสายต่างๆในพื้นที่ชุมชนหมู่บ้าน ยังคงมีการตากข้าวเปลือกกันเช่นเดิม นอกจากนี้ยังพบว่า พื้นที่หน้า อบต.โรงเรียน รวมถึงลานวัด ก็ยังเป็นสถานที่ ในการตากข้าวเปลือกของชาวบ้านในพื้นที่อีกด้วย
สายไปแล้ว! ชาวนาขอนแก่น ตะเพิด 'เศรษฐา' แก้ปัญหาไม่ได้ก็ลาออกไป ให้ลุงตู่กลับมา
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ภาย หลังจากที่ คณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67 วงเงินงบประมาณจ่ายขาด 56,321.07 ล้านบาท หรือ จ่ายเงินชาวนาไร่ละ 1,000 บาท
พณ. ต้อนรับเลขาฯพรรคคอมมิวนิสต์จีน กระชับความสัมพันธ์การค้า ความร่วมมือ EEC
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้การต้อนรับและหารือ นายอี้ เลี่ยนหง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์
ชาวนาโอดรัฐบาลอนุมัติล่าช้า ช่วยค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 1,000 บาท จำเป็นต้องขายก่อนแม้ได้ราคาต่ำ
ชาวนาใน อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ต้องนำข้าวเปลือกไปตากบนถนนทางหลวงชนบทยาวกว่า 1 กม. เพื่อไล่ความชื้น หลังนำข้าวเกี่ยวสดไปขายเพื่อนำเงินไปจ่ายค่าปุ๋ยและค่าจ้างรถเกี่ยว แต่โดนกดราคาเหลือแค่ ก.ก.ละ 8 – 10 บาท บางที่ไม่รับซื้ออ้างมีข้าวปน
ชาวนาขอนแก่น ตัดเกรดรัฐบาลเศรษฐาแพ้ยุคลุงตู่ ทำงานช้ากว่า ยังห่างไกลกันเยอะ
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นเกษตรกรในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ภายหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ 2 มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกเพื่อช่วยเหลือชาวนาในการดูดซับปริมาณข้าวออกจากตลาด แบ่งเป็น สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี