'บิ๊กตู่' ดันพัฒนาเกษตรพื้นที่อีอีซีหวังเป็นหมุดหมายการเกษตรสมัยใหม่!

รัฐบาลเดินหน้าพัฒนาการเกษตรพื้นที่อีอีซี ตั้งเป้ารายได้เกษตรกรในพื้นที่โต 6.5% ต่อปี หวังเป็นต้นแบบพัฒนาด้านการเกษตรสมัยใหม่

18 ส.ค.2565 - น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อเป็นพื้นที่ต้นแบบที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบนำไปสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพียงพอที่จะก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลางสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายในปี 2575 ทั้งนี้ แนวทางในการพัฒนา มิได้จำกัดอยู่ที่ภาคอุตสาหกรรมและภาคการบริการเท่านั้น แต่รวมถึงภาคการเกษตรด้วย ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบ แผนพัฒนาการเกษตรในพื้นที่อีอีซี (พ.ศ.2566-2570) เป้าหมายยกระดับภาคการเกษตรโดยใช้เทคโนโลยีให้ผลการผลิตสูงขึ้น เข้าถึงตลาดสินค้ามูลค่าสูง ยกระดับรายได้เกษตรกรให้เทียบเท่าภาคอุตสาหกรรมและบริการพัฒนาพื้นที่กลุ่มคลัสตอร์ทางการเกษตรที่มีศักยภาพตามความต้องการของตลาด ประกอบด้วย 5 คลัสเตอร์ คือ ผลไม้ประมง เกษตรมูลค่าสูง พืชสมุนไพร และพืชสำหรับอุตสาหกรรมชีวภาพ โดยคาดหวังอัตราการขยายตัวมูลค่าผลผลติมวลรวมภาคเกษตรของอีอีซี 3.5% ต่อปี และอัตราการขยายตัวรายได้เกษตรต่อแรงงานเกษตรของอีอีซี 6.5% ต่อปี

น.ส.รัชดา กล่าวว่า สำหรับการส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพรสอดรับนโยบายรัฐบาลที่ตั้งเป้าให้ประเทศสู่เป็นศูนย์กลางการผลิตพืชสมุนไพร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้ลงนามความร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) พัฒนาพืชสมุนไพรครบวงจรในเขตปฏิรูปที่ดิน มีกฎหมายรองรับ สร้างวิสาหกิจชุมชนที่มีความพร้อมนำเทคโนโลยีมาใช้ สร้างเครือข่ายงานวิจัย พัฒนาสินค้าสมุนไพรให้ตรงตามความต้องการตลาด ขณะนี้ อยู่ระหว่างการพัฒนาสารสกัดและผลิตภัณฑ์จากพืชสมุนไพร ได้แก่ ฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน ไพล ว่านนางคำและขิง และเพิ่มมูลค่าเปลือกทุเรียนมังคุดและเงาะ โดยวิธีสกัดสารออกฤทธิ์สำคัญสามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เวชสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

น.ส.รัชดา กล่าวต่อถึงกลุ่มสินค้าผลไม้ ทาง สกพอ. และบริษัท ปตท. ได้ร่วมกันดำเนินโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก Eastern Fruit Corridor : EFC) ซึ่งคือโครงการลงทุนตลาดกลางผลไม้และดิจิตอลแพลตฟอร์ม ครอบคลุมการบริหารจัดการกระบวนการผลิต การทำแพลตฟอร์ม e-commerce และ e- auction การรับรองมาตรฐานเพื่อรองรับการซื้อขายกับต่างประเทศ พร้อมทั้งระบบการขนส่งสินค้าโดยกำหนดพื้นที่ตั้งโรงงานซึ่งมีขนาดห้องเย็นจุผลไม้ได้ถึง10,000 ตันอยู่บริเวณใกล้แหล่งปลูกทุเรียน เพื่อเป็นกลไกในการรักษาสมดุลด้านราคาของตลาดผลไม้ (ทุเรียน) อย่างยังยืนคาด ว่าจะเปิดดำเนินการในเดือนธันวาคมปีนี้ 2565

“รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะพัฒนาภาคการเกษตรให้มีรายได้เทียบเท่าภาคอุตสาหกรรมและบริการ ซึ่งนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องการให้พื้นที่อีอีซีเป็นต้นแบบการพัฒนาด้านการเกษตรสมัยใหม่ของประเทศ ตามกรอบแนวคิดตลาดนาการผลิต และการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี เพื่อแก้ปัญหารากเหง้าการเกษตร โดยสนับสนุนการพัฒนาคลัสเตอร์สินค้าสาคัญ ได้แก่ผลไม้ ประมง พืชสาหรับอุตสาหกรรมชีวภาพ พืชสมุนไพร และสินค้าเกษตรมูลค่าสูง เพื่อเชื่อมโยงอุตสาหกรรม S-Curve และ New S-Curve ต่อไป” น.ส.รัชดา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'คารม' เตือน ปปง.ไม่เคยมีเพจให้ร้องเรียนผ่านสื่อสังคมออนไลน์

'คารม' ยืนยัน เพจแจ้งความออนไลน์ ชื่อ 'ศูนย์รับเรื่อง-ลงทะเบียนและตรวจสอบเพื่อรับเงินคืนจากคดีออนไลน์' ไม่ใช่ของ ปปง. ย้ำเตือน ปชช. อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม

'เกณิกา' ชูผลงานแก้หนี้นอกระบบมั่นใจจบภายใน 4 ปี

'เกณิกา' เผยผลงานแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาล สามารถไกล่เกลี่ยได้ครบ 100% มูลหนี้ลดลง 1.2 พันล้านบาท ด้านหนี้ กยศ.ยอดหนี้ต้องชำระลดลง 2.8 ล้านราย มั่นใจแก้หนี้นอกระบบจบภายในรัฐบาล

เร่งขยายผลแก๊งพาคนไทยไปเก็บผลไม้ที่ฟินแลนด์ผิดกฎหมาย

'คารม' เผยกรมการจัดหางาน เร่งขยายผลขบวนการนำพาคนหางานเก็บผลไม้ป่าฟินแลนด์ผิดกฎหมาย ย้ำขณะนี้ยังชะลอจัดส่งแรงงานไทยทำงานเก็บผลไม้ป่า แนะผู้สนใจไปทำงานต่างประเทศปฏิบัติตามกฎหมาย

รัฐบาลชวนปชช. จอง-แลกเหรียญเฉลิมพระเกียรติ 'ในหลวง' เริ่ม 24 ก.ค.

รัฐบาลเชิญชวนประชาชน จอง-แลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เหรียญที่ระลึก และเหรียญเฉลิมพระเกียรติ 'ในหลวง' เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ตั้งแต่ 24 ก.ค.นี้

'ภูมิธรรม' ยันยังไม่เลิก 'ไร่ละพัน' แจง 'ปุ๋ยคนละครึ่ง' หวังช่วยชาวนาอีกทาง

'ภูมิธรรม' แจงไม่ได้ยกเลิกไร่ละพัน พร้อมดึงกลับมาใช้ถ้าราคาข้าวตก ย้ำคนละส่วนกับปุ๋ยคนละครึ่ง ชี้ สส. รุมค้าน เหตุไม่เข้าใจถ่องแท้ไปฟังเกษตรกรมา