
1 ก.ย. 2565 – นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจาของนายนพพล เหลืองทองนารา ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถึงนโยบายประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 4 ที่รัฐสภา ว่า ได้ยืนยันนโยบายประกันรายได้เกษตรกร มีความชัดเจนมาตั้งแต่ต้น เป็นนโยบายที่ดำเนินการต่อเนื่อง และนโยบายนี้ ได้ประกาศเป็นนโยบายของรัฐบาลที่แถลงไว้ต่อที่ประชุมรัฐสภาแห่งนี้ ผูกพันรัฐบาล และรัฐบาลดำเนินนโยบายนี้มาตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา และปีนี้กำลังขึ้นสู่ปีที่ 4 จึงขออนุญาตเรียนว่าไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้ รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งมีพืช 5 ชนิด คือ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมันและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
โดยการประกันรายได้ข้าว ขณะนี้ได้ผ่านที่ประชุมคณะอนุกรรมการด้านการตลาดแล้ว กำลังจะเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ในวันที่ 8 ก.ย.2565 ถ้าผ่านจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป และโครงการนี้ จะเริ่มจ่ายเงินส่วนต่างตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.2565 ซึ่งเหลือเวลาอีกประมาณหนึ่งเดือนครึ่ง กระบวนการเป็นไปตามนี้ มีความชัดเจน และทันเวลาอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการคู่ขนานที่ดำเนินการมาโดยต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเก็บสต๊อกข้าว ที่เรียกว่าชะลอขายของเกษตรกร ตันละ 1,500 บาท รวมทั้งช่วยดอกเบี้ย 3% ให้กับเกษตรกร กลุ่มสหกรณ์เกษตรกร ที่เก็บสต๊อกข้าวไว้ในช่วงที่ข้าวออกเยอะ และช่วยโรงสี ดอกเบี้ย 3% เช่นเดียวกัน และยังจะจ่ายไร่ละ 1,000 บาท ครอบครัวละไม่เกิน 20 ไร่ ซึ่งได้ผ่านที่ประชุมอนุกรรมการด้านการตลาดแล้วเช่นเดียวกัน รอที่จะเข้าสู่การพิจารณาของ นบข. และ ครม. เช่นเดียวกัน
“ตอนนี้ ผ่านคณะอนุกรรมการ ที่มีผมเป็นประธานไปแล้ว ส่วนที่ประชุม นบข. จะเห็นอย่างไร ไม่อยู่ในฐานะจะไปตอบ แต่โดยส่วนตัว นโยบายประกันรายได้ข้าว ควรจะต้องผ่าน เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาลที่แถลงไว้กับรัฐสภา และวงเงินงบประมาณทั้งหมดที่เสนอไป 150,000 ล้านบาทโดยประมาณ ใช้เงินไม่น้อยในการตั้งใจช่วยเหลือเกษตรกร ขึ้นอยู่กับนโยบายการเงินการคลัง ซึ่งมีประกาศกำหนดเพดานไว้ว่าต้องไม่เกิน 35% ซึ่งกระทรวงการคลัง มีระบบบริหารจัดการเช่นทุกปีที่สามารถจัดสรรให้ผ่านพ้นไปได้ แม้บางช่วงอาจจะขลุกขลักบ้าง เพราะอาจติดเรื่องเพดาน 30% และ 35% แต่สุดท้ายชาวนาก็จะได้รับเงินส่วนต่างจากโครงการประกันรายได้ และเงินไร่ละ 1,000 บาท ตามที่ได้กำหนดไว้” นายจุรินทร์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ก้องศักด'ยันทุกสนามซีเกมส์ มาตรฐานพร้อมใช้แข่ง จับมือก.พาณิชย์จัด'ชิม-ช็อป -เชียร์'
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ยืนยันทุกสนามซีเกมส์ ครั้งที่ 33 มาตรฐาน พร้อมใช้แข่งขัน และต้อนรับแฟนกีฬา ขณะเดียวกัน กกท. ร่วมกับ กระทรวงพาณิชย์ จัดโครงการ “ชิม ช็อป เชียร์” ในทุกสนาม นำอาหาร-ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นทั่วประเทศ ให้บริการประชาชนที่มาชมกีฬา พร้อมกับโชว์ให้ชาวอาเซียนได้เห็นของดีของไทย
จดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่ตุลาคม 2568 ยอด 7,165 ราย สะสม 10 เดือน 74,510 ราย ด้านต่างชาติลงทุนไทย รอบ 10 เดือนพุ่ง 2.76 แสนล้านบาท โต 72%
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยเดือนตุลาคม 2568 มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ 7,165 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 21,778 ล้านบาท แม้ทุนจดทะเบียนจะลดลงจากปีก่อน แต่ทุนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน ก.ย. 68
พาณิชย์ หารือ 4 สมาคมข้าวและพืชไร่ รับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะ เตรียมมาตรการดูแลราคาข้าวและพืชผลทางการเกษตร ก่อนเข้า นบข. 18 พ.ย.นี้
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ณ ห้อง กิติยากรวรลักษณ์ ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือร่วมกับ 4 สมาคมภาคการเกษตร ได้แก่ สมาคมโรงสีข้าวไทย
FTA หนุนส่งออกยอดใช้สิทธิทะลุเฉียด 2 ล้านล้าน
FTA หนุนส่งออก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย มูลค่าใช้สิทธิทะลุ 1.94 ล้านล้านบาท


