ทอท.ร่ายยาวปมโอน3สนามบินยันสร้างรายได้ให้ประเทศ 5 หมื่นล้าน

ทอท.เผยกรณีโอน 3 สนามบิน ‘กระบี่ อุดร บุรีรัมย์’ รับผู้โดยสารได้ประโยชน์ มั่นใจสร้างรายได้ให้แผ่นดิน 5 หมื่นล้าน หนุนเป็นเกทเวย์เดินทางเชื่อมประเทศเพื่อนบ้าน ลุยเดินหน้าปั๊มผู้โดยสาร ย้ำคิดค่าบริการตามมาตรฐาน ICAO

5 ก.ย.2565 – นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ ทอท. รับริหารจัดการ 3 ท่าอากาศยานได้แก่ กระบี่ อุดรธานีและบุรีรัมย์ ว่า การโอน 3 สนามบินเป็นยุทธศาสตร์การขนส่งทางอากาศของกระทรวงคมนาคมเพื่อพัฒนาศูนย์กลางการบินของประเทศ (Hub) เชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้านฝั่ง สปป.ลาว-กัมพูชา สอดรับกับข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการเห็นการเชื่อมต่อระบบขนส่งในรูปแบบเกทเวย์ต้อนรับการเดินทางจากประเทศเพื่อนบ้าน

ทั้งนี้ ทอท.เชื่อว่าภายใต้ระยะเวลาของสิทธิ์การบริหาร 30 ปี จะสามารถสร้างรายได้ให้กับรัฐบาลราว 49,000-50,000 ล้านบาท เป็นผลตอบแทนคืนในรูปแบบภาษีและเงินปันผลตามสัญญาที่รัฐกำหนด อีกทั้งยังมีความคล่องตัวด้านการลงทุนที่ไม่ต้องรองบประมาณรายปีของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว

นายนิตินัย กล่าวต่อว่า กระทรวงคมนาคมเห็นถึงความพร้อมของ ทอท. ที่ถือครองสัดส่วนผู้โดยสารทางอากาศอยู่มากถึง 85% ด้วยปริมาณผู้โดยสารสูงสุด 142 ล้านคน/ปี ประกอบกับมีความพร้อมทางเงินลงทุน ด้วยข้อได้เปรียบของศักยภาพในการควบคุมดีมานต์จึงทำให้ ทอท. สามารถให้สิทธิประโยชน์ (Incentive) เพื่อจูงใจในการเดินทางและเพิ่มปริมาณผู้โดยสารที่สนามบินปลายทางได้ ซึ่งล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการ ทอท.เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ได้มีมติเห็นชอบให้สิทธิพิเศษลดค่าธรรมเนียมลง 95% ในปีแรก

สำหรับค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยาน (Landing Charge) และค่าบริการที่เก็บอากาศยาน (Parking Charge)  ให้กับสายการบินใหม่ที่จะทำการเปิดเส้นทางใหม่มายังสนามบินของ ทอท.ถือเป็นความร่วมมือของสนามบินกับสายการบิน โดยใช้ค่าธรรมเนียมบริการสนามบินมาทดแทนรายได้ที่ขาดหายไปดังกล่าว ดังนั้นด้วยข้อได้เปรียบทางดีมานต์ ทอท.จึงมีความพร้อมที่จะใช้เครื่องมือแคมเปญการตลาด (Marketing campaign) มากระตุ้นยอดผู้โดยสารที่สนามบินใหม่ที่รับโอนมาได้

อย่างไรก็ตามจากการศึกษาของ ทอท.พบว่าท่าอากาศยานทั้ง 3 แห่ง มีอุปสงค์เงา (Shadow demand) สัดส่วนมากถึง 20% ซึ่งอุปสงค์ดังกล่าวคือจำนวนผู้โดยสารที่ต้องการบินตรงไปยังสนามบินปลายทางทั้งสามแห่ง แต่ยังคงต้องเสียเวลามาต่อเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อเปลี่ยนเป็นเที่ยวบินภายในประเทศ

นายนิตินัย กล่าวถึงกรณีข้อสังเกตุในกรณีที่รับโอน 3 สนามบินแล้วจะส่งผลให้ค่าธรรมเนียมสนามบิน (Passenger Service Charge : PSC) แพงขึ้น ระบุว่า การรับโอน 3 สนามบินจะทำให้ค่า PSC ถูกลงเนื่องจากไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อนกันหลายสนามบิน เช่น ชาวต่างชาติจะเดินทางจากจังหวัดอุดรธานีไปยังยุโรป สามารถบินตรงกลับไปได้เลยโดยไม่ต้องไปเสียเวลาต่อเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นอกจากจะสะดวกสบายแล้วยังเสียค่า PSC แค่ครั้งเดียวอีกด้วย

นอกจากนี้การกำหนดค่า PSC ยังต้องอิงมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งกำหนดให้สนามบินต้องคิดค่าบริการตามต้นทุนในรูปแบบที่ไม่มีกำไรมากนัก ประกอบกับประเทศไทยมีหน่วยงานกลางของรัฐบาลอย่างสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กำกับดูแลอีกชั้นนึงด้วย ดังนั้นไม่ว่าใครจะเข้ามาบริหารสนามบินจะต้องอยู่ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน ต้องแจกแจงต้นทุนบริหารเพื่อยึดเป็นแนวทางการคำนวณค่า PSC เช่นเดียวกัน

“การพัฒนาท่าอากาศยานให้ได้มาตรฐานการบินสากลเป็นเรื่องที่ใช้งบประมาณลงทุนสูงเพื่อให้สามารถรับเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศได้ มาตรฐานสนามบินที่ดีขึ้นจึงมาพร้อมค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ทอท.จึงมีความพร้อมด้านเงินทุนและเครื่องมือในการบริหาร สามารถเริ่มพัฒนาสนามบินได้โดยไม่ต้องรองบประมาณของรัฐบาล อีกทั้งยังนำส่งผลตอบแทนกลับเข้าแผ่นดินในรูปแบบภาษีและเงินปันผลตามสัญญาที่รัฐกำหนด” นายนิตินัย กล่าว

นายนิตินัย กล่าวต่อว่า การโอน 3 สนามบินเป็นไปตามยุทธศาสตร์แนวทางพัฒนาการขนส่งทางอากาศของประเทศ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากมายร่วมตัดสินใจ อาทิ กพท. สำนักงบประมาณ สำนักงานกฤษฎีกา กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น ซึ่งภาพรวมมองว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีสนามบินที่เป็น Hub ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อพัฒนาให้สามารถรับเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการลดความแออัดภายในสนามบินหลัก ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ต้องทำไม่ว่าจะเป็นใครเข้ามาลงทุนก็ตาม ปัจจุบันน่านฟ้าที่อีสานมีที่ว่างเพียงสองแห่งนั้นคือ จังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดอุดรธานี จึงมีศักยภาพจะพัฒนาเป็นเกทเวย์เพื่อยกระดับไปสู่ฮับการบินในอนาคต

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เทศกาลสงกรานต์ พวงมาลัยดอกมะลิ ปรับขึ้นราคา อากาศร้อนทำคนซื้อน้อย

ใกล้ถึงวันสงกรานต์ที่จังหวัดบุรีรัมย์ แล้วกลับพบว่ามีประชาชน ออกมาเลือกซื้อหา พวงมาลัยดอกมะลิ เพื่อนำไปกราบไหว้รดน้ำขอพรผู้ใหญ่ ไม่ค่อยคึกคักเท่าที่ควรเหมือนทุกปี

แบงค็อก ชน อุดร, ดีพีกาญฯ ดวล สมุทรสาคร รอบรองฯ'ช้าง เอฟเอ คัพ'

น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง ร่วมกับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ระเบิดศึกฟุตบอลถ้วยประวัติศาสตร์ ที่ไม่มีที่ว่างสำหรับผู้แพ้ รายการ ช้าง เอฟเอ คัพ 2023/24 ซึ่งได้มีพิธีจับสลากประกบคู่การแข่งขันฟุตบอลช้าง เอฟเอ คัพ 2023/24 รอบรองชนะเลิศ ในวันที่ 11 เมษายน 2567 ณ ห้องเมต้า 1 สโมสรราชพฤกษ์ โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ , คุณทรงวิทย์ ศรีธรรม ผู้บริหารสูงสุดผลิตภัณฑ์น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง, คุณนิตรา ปิยะชัยสวัสดิ์ Sponsorship Manager บริษัท วอริกซ์สปอร์ต จำกัด (มหาชน) และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมพิธีจับสลากในครั้งนี้

'คิม มิน ฮยอค'ช่วยบุรีรัมย์ ดับ'ประจวบ'1-0นำจ่าฝูงต่อ 'เมืองทอง'ชนะต่อเนื่อง

การแข่งขันฟุตบอลไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก 2023/24 เมื่อวันเสาร์ที่ 6 เมษายน 2567 ณ ช้างอารีนา “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงที่มี 50 คะแนน เปิดรังเหย้า รับการมาเยือนของ “ต่อพิฆาต” พีที ประจวบ เอฟซี ทีมอันดับ 14 ที่มี 23 คะแนน จากการลงสนาม 23 นัดเท่ากัน

'บุรีรัมย์'เปิดช้างอารีนา สยบ'เชียงราย'2-1 รั้งจ่าฝูงไทยลีกต่อไป

การแข่งขันฟุตบอลไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก 2023/24 เกมบิ๊กแมตช์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2567 ณ ช้างอารีนา “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงที่มี 46 คะแนน เปิดรังเหย้า รับการมาเยือนของ “กว่างโซ้งมหาภัย” เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 8 ที่มี 26 คะแนน จากการลงสนาม 21 นัดเท่ากัน