'ทิพานัน' แนะพยานคดีทุจริต 'เราเที่ยวด้วยกัน' ให้ปากคำโรงพักใกล้บ้าน

ทิพานัน” แจ้งข่าวประชาชนถูกเรียกเป็นพยานคดีทุจริต “เราเที่ยวด้วยกัน” ให้ติดต่อสถานีตำรวจเจ้าของคดีก่อน เพื่อขอให้ปากคำใกล้บ้าน ย้ำคดีเดียวไม่เกี่ยวกับคดีอื่น ยันรัฐบาลเข้มปราบทุจริตโครงการรัฐ ชี้นโยบายดีต้องมีความซื่อสัตย์ทั้งระบบ

11 ก.ย. 2565 – น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายในการปราบปรามการทุจริตโครงการรัฐ พร้อมเปิดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ โดยได้ดำเนินการอย่างจริงจังและเข้มข้น เพื่อไม่ให้เม็ดเงินงบประมาณของประเทศเกิดการรั่วไหลนั้น พบว่าการดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ผ่านมา ช่วงวันที่ 1 ก.ย. 64 – 1 ม.ค. 65 มีการดำเนินคดีอาญากับผู้ทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกันแล้ว 323 คดี

น.ส. ทิพานัน กล่าวว่า ในการดำเนินการเอาผิดกับผู้ทุจริตได้นั้น อาจมีกรณีที่ต้องขอข้อมูลจากผู้ใช้สิทธิโครงการเป็นพยานในคดี หากโรงแรมหรือที่พักที่เข้าไปใช้สิทธินั้นมีการทุจริต โดยประชาชนที่ได้รับหมายเรียกให้ไปเป็นพยานในคดีทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งอาจอยู่ในพื้นที่ห่างไกลจากสถานีตำรวจภูธรเจ้าของคดีนั้น เช่น ต้องเดินทางข้ามจังหวัด ก็ขอให้ประชาชนรีบติดต่อสถานีตำรวจตามหมายเรียก เพื่อขอคำแนะนำ และแจ้งถึงปัญหาการเดินทางในการไปเป็นพยานในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และขอให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธร หรือสถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่ที่ตนเองพักอาศัยอยู่ จากนั้นสถานีตำรวจที่ท่านให้ปากคำ จะรวบรวมข้อมูลส่งไปยังศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อส่งต่อไปยังสถานีตำรวจเจ้าของคดีนั้นๆ ต่อไป

“รัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนจะได้รับผลกระทบ ดังนั้นจึงขอประชาสัมพันธ์ให้เกิดความเข้าใจ ให้รีบติดต่อสถานีตำรวจเจ้าของคดีก่อนเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อไม่ให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเป็นพยาน สำหรับคดีทุจริตโครงการเที่ยวด้วยกันคดีเดียวเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับคดีอื่นๆ”น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ประชาชนให้ความสนใจโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 ส่วนต่อขยาย ที่รัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียน จองโรงแรม-ที่พักจำนวนสิทธิ 1.5 ล้านสิทธิโดยมียอดผู้ลงทะเบียนจองสิทธิที่พัก-โรงแรม เต็ม 1.5 ล้านสิทธิแล้วเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา สะท้อนศักยภาพของโครงการที่ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชน ผ่านการท่องเที่ยวภายในประเทศ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง สนับสนุนการสร้างงานและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยผลสำรวจของสมาคมโรงแรมไทย ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า อัตราการเข้าพักเดือนสิงหาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 48% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน และเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ขณะที่โรงแรมที่มีรายได้กลับมาเกิน 50% มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากกลุ่มโรงแรมมากกว่า 4 ดาวเป็นหลัก

“รัฐบาลพยายามแสวงหามาตรการต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ครอบคลุมทั่วถึงทุกกลุ่ม โครงการต่างๆ ที่ประชาชนพึงพอใจ แก้ไขปัญหาตรงจุดเป็นผลสำเร็จได้ จำเป็นต้องอาศัยความซื่อสัตย์และสุจริตของทุกฝ่ายและทั้งระบบ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง”น.ส.ทิพานัน กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เช็กเงื่อนไข 'ครอบครัวอุปถัมภ์' ผู้สูงอายุ รับเดือนละ 3 พัน

'รองโฆษกรัฐบาล' เผยเงื่อนไขคุณสมบัติ 'ครอบครัวอุปถัมภ์' ผู้สูงอายุ มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 3 พันบาท เริ่มยื่นเรื่องได้ตั้งแต่เดือน พ.ค.

เฮ!รัฐบาลจัดเชื่อเงินด่วนให้ 'อสม.-อสส.' กู้รายละไม่เกิน 2 หมื่นบาท

รัฐบาลจัดโครงการสินเชื่อเงินด่วนคนดี ให้สมาชิก อสม. - อสส. รายละไม่เกิน 20,000 บาท ยื่นกู้ได้ ณ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มีนาคม 2568