ยูโอบีซื้อกิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปในไทย

ยูโอบีได้ดำเนินการอย่างเสร็จสมบูรณ์ในการเข้าซื้อกิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปในมาเลเซียและประเทศไทย

2 พฤศจิกายน 2565 – ยูโอบีประกาศว่ายูโอบีได้ดำเนินการเข้าซื้อกิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปในมาเลเซียและไทยอย่างเสร็จสมบูรณ์ตามกฎหมายแล้วในวันนี้ ส่วนในอินโดนีเซียและเวียดนามคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 กิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยนี้ประกอบด้วยกลุ่มลูกค้าสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันและมีหลักประกัน ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง และธุรกิจเงินฝากรายย่อย

การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ธนาคารในการขยายธุรกิจธนาคารลูกค้ารายย่อยในภูมิภาคอาเซียน นอกจากธุรกิจหลักของธนาคารในประเทศสิงคโปร์ หลังเสร็จสิ้นกระบวนการเข้าซื้อกิจการแล้ว คาดว่าขนาดธุรกิจธนาคารลูกค้ารายย่อยในทั้ง 4 ประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า มีการให้บริการลูกค้าจำนวน 5.3 ล้านคน และเสริมทีมงานให้แกร่งขึ้นด้วยพนักงานอีก 5,000 คน

มร.วี อี เชียง รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารยูโอบี กล่าวว่า “กระบวนการเข้าซื้อกิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยที่แล้วเสร็จในมาเลเซียและไทยถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่สำคัญ ในขณะที่เรายังคงมุ่งมั่นลงทุนในเครือข่ายสาขาในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง การซื้อกิจการนี้นอกจากจะเป็นการขยายธุรกิจที่มีความสำคัญอย่างยิ่งแล้วยังสนับสนุนความมุ่งมั่นในการก้าวขึ้นเป็นธนาคารที่ลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนนึกถึงในการใช้บริการเป็นอันดับแรก

“วันนี้เรายินดีต้อนรับเพื่อนพนักงานและลูกค้ารายใหม่สู่ครอบครัวยูโอบี การรวมพนักงานซิตี้กรุ๊ปเข้าสู่ทีมงานที่มีคุณภาพของยูโอบีในทั้งสองประเทศ จะช่วยให้เรามีศักยภาพและความสามารถในการดำเนินการให้สำเร็จตามแผนการเติบโตทางธุรกิจในภูมิภาคนี้ให้เจริญเติบโตก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เรามุ่งมั่นให้ลูกค้าซิตี้กรุ๊ปได้สัมผัสประสบการณ์การโอนย้ายธุรกิจแบบราบรื่น ด้วยเครือข่ายการให้บริการ สาขาและเครือข่ายพันธมิตรที่หลากหลาย จากการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพให้เรานำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่มากยิ่งขึ้นแก่กลุ่มลูกค้าที่ขยายเพิ่มขึ้นกว่าเดิม”

ยูโอบีจะยังคงให้ความสำคัญกับการโอนย้ายธุรกิจธนาคารลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปให้เป็นไปอย่างราบรื่นในทั้ง 4 ประเทศ โดยหวังว่าการโอนย้ายลูกค้าทั้งระบบจะแล้วเสร็จในอีก 12 ถึง 18 เดือนข้างหน้า

นอกจากนี้ ยูโอบียังได้ประกาศแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง 4 ท่านเพื่อเป็นผู้นำธุรกิจธนาคารลูกค้ารายย่อยที่ขยายตัวขึ้นในมาเลเซียและไทย ได้แก่ Ms Elaine Fan, Head of Retail and Brand ธนาคารยูโอบี มาเลเซีย
Mr Ronnie Lim, Head of Personal Financial Services ธนาคารยูโอบี มาเลเซีย คุณวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล Head of Retail and Brand ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย คุณยุทธชัย เตยะราชกุล Head of Personal Financial Services ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย

มร. ตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “กระบวนการเข้าซื้อกิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปในประเทศไทยที่เสร็จสมบูรณ์แล้วนั้น ช่วยผลักดันเป้าหมายของเราในการก้าวสู่การเป็นธนาคารในประเทศไทยที่ผู้บริโภคเลือกใช้บริการ ตลอดจนสะท้อนถึงคำมั่นสัญญาของธนาคารในการยืนหยัดเคียงข้างลูกค้าชาวไทยและพันธสัญญาที่ยูโอบีให้ไว้ต่อประเทศไทย ธุรกิจธนาคารลูกค้ารายย่อยในประเทศไทยของซิตี้กรุ๊ป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน จะเข้ามาช่วยเสริมกลุ่มลูกค้าของยูโอบี ประเทศไทย ที่เน้นกลุ่มลูกค้าด้านสินเชื่อที่มีหลักประกันได้อย่างลงตัว การรวมธุรกิจครั้งนี้จะเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินชั้นเยี่ยม รวมถึงเครือข่ายพันธมิตรและสาขาตลอดจนช่องทางการให้บริการที่ขยายเพิ่มขึ้นกว่าเดิม”

เมื่อเดือนที่ผ่านมา ยูโอบีได้เปิดตัวแคมเปญรีเฟรชแบรนด์ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงเจตจำนงในการตอกย้ำคุณค่าที่ธนาคารตั้งใจส่งมอบให้ลูกค้ารายย่อยของธนาคารโดยยึดหลักลูกค้าเป็นศูนย์กลางของธนาคาร แคมเปญการสื่อสารล่าสุดแสดงให้เห็นว่าลูกค้าแต่ละรายมีความต้องการ ความชอบ และเป้าหมายที่แตกต่างกันอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่ผลักดันให้ธนาคารสร้างผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ทันสมัย และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นรายบุคคลได้เป็นอย่างดี

แคมเปญนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงกลยุทธ์ของธนาคารในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งที่เติบโตขึ้นในภูมิภาคอาเซียน การหาลูกค้ารายใหม่และให้บริการลูกค้าผ่านแอปพลิเคชัน UOB TMRW แพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัล และการตอบโจทย์ทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้าผ่านช่องทางแบบ Omni-channel

นอกจากนี้ ยูโอบีมีแผนในการดำเนินการเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินใหม่ๆ เพื่อรองรับฐานลูกค้าที่ขยายใหญ่ขึ้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยูโอบีได้ประกาศเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ชั้นนำระดับภูมิภาคหลายแห่ง รวมถึงสิงคโปร์แอร์ไลน์, ‘มิชลิน ไกด์’, Club21 และ Shopee ซึ่งถือเป็นการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าในการแลกรับของรางวัล โดยลูกค้าสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เทนนิสโลก'วางใจประเทศไทย ไฟเขียวจัดแข่งหวดนานาชาติอีก

นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้ สมาคมฯ ได้จัดการแข่งขันเทนนิสผ่านไปแล้วเกือบ 30 รายการ เพื่อให้นักกีฬาทุกระดับได้มีเวทีในการแข่งขัน โดยเฉพาะระดับอาชีพ ซึ่งมีทั้งรายการนานาชาติ และภายในประเทศ ล่าสุด สมาพันธ์นักเทนนิสชาย หรือ เอทีพี ยังได้ไว้วางใจมอบให้สมาคมฯ จัดการแข่งขันเทนนิสอาชีพชาย เอทีพี ชาลเลนเจอร์ ระดับ 100 รายการ Bangkok Challenger (บางกอก ชาลเลนเจอร์) ชิงเงินรางวัลรวม 133,250 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,863,625 บาท ณ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี จ.นนทบุรี ระหว่างวันที่ 22-29 ก.ย. 2567

ไทยคว้ารางวัลจัดงาน 'เวิลด์ ยูธ'ยอดเยี่ยม 'บัวขาว'หนุน'มวยไทย'บรรจุโอลิมปิก

ประเทศไทยคว้ารางวัลจัดงาน "เวิลด์ ยูธ เฟสติวัล แบงค็อก 2022" ยอดเยี่ยมจนได้รับคำชมทั่วโลกในงาน "สปอร์ต แอคคอร์ด เวิลด์ สปอร์ต แอนด์ บิสซิเนส ซัมมิท" ที่เมืองเบอร์มิ่งแฮม ประเทศอังกฤษ ขณะที่บูธ มวยไทย ชาวต่างชาติให้ความสนใจคึกคัก ด้านโคตรมวยอย่าง "บัวขาว บัญชาเมฆ" ประทับใจเชียร์กีฬามวยไทย บรรจุชิงชัยโอลิมปิกเกมส์ ส่วนกีฬาทหารโลกอ้าแขนรับ "มวยไทย" เข้าบรรจุชิงชัย

ตรวจเข้ม! แรงงานไทยแห่กลับจากมาเลย์ ฉลองวันฮารีรายอ

ชาวไทยมุสลิมที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งได้เดินทางข้ามแดนไปขายแรงงานตามเมืองต่างๆ ของมาเลเซีย ได้ทยอยเดินทางกลับบ้าน

ปี 2566 ไทยมีคุณภาพอากาศแย่ติด 1 ใน 5 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

รายงานคุณภาพอากาศโลกปี 2566 ของ IQAir ระบุว่าประเทศไทยมีคุณภาพอากาศในระดับที่แย่เป็นอันดับที่ 5 จากทั้งหมด 9 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวัน