กทพ.เร่งเครื่องทางด่วน 'เมืองใหม่-กะทู้' เปิดใช้ปี 70

กทพ.ซาวด์เสียงประชาชน สร้างทางด่วน “เมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้” 3 หมื่นล้าน คาดศึกษาแล้วเสร็จ มิ.ย.66 พร้อมเปิดให้บริการปี 70

20 ธ.ค. 2565 – นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) เปิดเผยว่าได้ประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 งานศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการทางพิเศษ(ด่วน) สายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ จ.ภูเก็ต (ผลการคัดเลือกรูปแบบทางเลือกที่เหมาะสม) โดย กทพ. มี 2 โครงการใหญ่ที่จะดำเนินการใน จ.ภูเก็ต ได้แก่ ทางด่วนสายกะทู้-ป่าตอง โดยขณะนี้ กทพ. ได้ประกาศเชิญชวนเอกชนมาร่วมลงทุน ในวันที่ 26 ธ.ค.นี้ ถือได้ว่าการสร้างทางด่วนในภูเก็ต 4 กิโลเมตร(กม.) แรกได้เริ่มขึ้นแล้ว

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะเริ่มทางด่วน สายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ ระยะทางประมาณ 30 กม.เบื้องต้นมีมูลค่าลงทุนโครงการ 30,456 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าจัดกรรมสิทธิ์ 17,054 ล้านบาท และค่าก่อสร้าง 13,402 ล้านบาท ซึ่งจะเร่งกระบวนการต่างๆ ให้เร็วขึ้นจากปกติด้วยระบบราชการจะใช้เวลา 10 ปี ให้เหลือ 2 ปีในการเริ่มโครงการ อย่างไรก็ตามการโครงการนี้กรมทางหลวง(ทล.) วางแนวเส้นทางไว้ตั้งแต่ปี 2559 และ กทพ. ได้รับมอบดำเนินโครงการฯ เมื่อปี 2564 จากนั้นเริ่มศึกษาเมื่อปี 2565 คาดว่าจะศึกษาแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย.2566 สำหรับการประชุมครั้งนี้จะได้นำข้อแนะนำ และความคิดเห็นของประชาชนไปพิจารณาปรับใช้ เพื่อให้โครงการเกิดประโยชน์สูงสุด และประชาชนทุกคนมีความสุขต่อไป

สำหรับแนวเส้นทางช่วงเมืองใหม่-เกาะแก้ว จะใช้ตามผลการศึกษาของ ทล. ที่ออกแบบไว้ในปี 2559 มีจุดเริ่มต้นที่ ต.เทพกษัตรี บริเวณจุดตัดกับ ทล.4026 และมีแนวเส้นทางไปทางทิศใต้ขนานไปกับ ทล.402 จนถึงบริเวณจุดตัดกับ ทล.4024(ถนนเลี่ยงเมือง) ที่ ต.เกาะแก้ว ส่วนแนวเส้นทางช่วงเกาะแก้ว-กะทู้ เป็นแนวสายทางที่เพิ่มขึ้นมา เพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายกับทางด่วน สายกะทู้-ป่าตอง ให้เกิดการเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อ และช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชน โดยแนวเส้นทางต่อขยายเข้าสู่กะทู้ที่เหมาะสมที่สุด จะเริ่มบริเวณ กม.19+975 เบี่ยงขวา มุ่งหน้าสู่ทิศใต้ เป็นทางยกระดับบนถนนวิชิตสงคราม และผ่านพื้นที่เมืองกะทู้ มีจุดสิ้นสุดเชื่อมต่อกับทางด่วนสายกะทู้-ป่าตอง รวมระยะทาง 4.23 กม. ส่วนทางที่เข้าเชื่อมกับทางหลวงหมายเลข 4024 บริเวณเกาะแก้วเป็นทางเชื่อมบรรจบ

ทั้งนี้เนื่องจากโครงการเป็นทางด่วน จึงต้องควบคุมการเข้าออกเต็มรูปแบบ (Full Control of Access) โดยการกั้นรั้ว และให้เข้า-ออกทางหลักของโครงการได้เฉพาะจุดที่กำหนด โดยออกแบบเป็นทางด่วนขนาด 4 ช่องจราจร ช่องละ 3.50 เมตร มีทางบริการทั้ง 2 ฝั่งของทางด่วนให้ประชาชนในพื้นที่สามารถสัญจรได้ตามความเหมาะสม โดยไม่ถูกทางด่วนปิดกั้น ซึ่งออกเเบบทางบริการฝั่งละ 2 ช่องจราจร แบบวิ่งสวนทิศทางจราจร รวมเขตทาง 80 เมตร เท่ากับเขตทางตามการออกแบบเดิม สำหรับช่วง

อย่างไรก็ตามทางแยกต่างระดับที่เหมาะสมของโครงการ มี 5 แห่ง ได้แก่ 1.​ทางแยกต่างระดับเมืองใหม่ เชื่อมต่อทางหลวงหมายเลข 4026 (จุดเริ่มต้นโครงการ), 2.​ทางแยกต่างระดับบ้านดอน เชื่อมต่อทางหลวงหมายเลข 4030 ออกแบบทางหลักเป็นสะพานข้ามทางหลวงหมายเลข 4030, 3.​ทางแยกต่างระดับม่าหนิก 1 เชื่อมต่อทางหลวงหมายเลข 4025 ออกแบบเป็น Trumpet Interchange, 4.​ทางแยกต่างระดับม่าหนิก 2 เชื่อมต่อระหว่างทางหลักและทางร่วมบรรจบเป็น System Interchange มีลักษณะเป็นทางแยกต่างระดับรูปตัว Y และ 5.​ทางแยกต่างระดับบางคู เชื่อมต่อทางหลวงหมายเลข 4024 (จุดสิ้นสุดทางร่วมบรรจบ) มีลักษณะเป็นทางแยกต่างระดับรูปตัว Y

นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในเดือน เม.ย.2566 จะมีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 3 (สรุปผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการ) ซึ่งจะมีข้อสรุปในเรื่องต่างๆ ที่ชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตามเบื้องต้นตั้งเป้าให้โครงการได้รับอนุมัติภายในปี 2566-2567 และใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี เปิดให้บริการปลายปี 2570 พร้อมกับทางด่วนสายกะทู้-ป่าตอง เพื่อรองรับการขยายตัวของการเดินทาง ทั้งประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาจากทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อเตรียมการในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงาน EXPO ที่จะมีขึ้นในปี 2571