ครม. เห็นชอบไทยร่วมหุ้นส่วนด้านพลังงานกับจีน ภายใต้ยุทธศาสตร์สายแถบและเส้นทาง

23 พ.ย.2564 - เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบให้ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นประเทศหุ้นส่วนด้านพลังงานภายใต้ยุทธศาสตร์สายแถบและเส้นทาง (The Belt And Road Energy Partnership: BREP)  ของสำนักงานพลังงานแห่งชาติจีน ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานและช่วยเหลือประเทศที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกในการแก้ไขปัญหาด้านการพัฒนาพลังงานในรูปแบบต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมี 30 ประเทศที่เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนด้านพลังงาน (BREP) เช่น อัฟกานิสถาน คูเวต อิรัก ปากีสถาน เวเนซุเอลา ลาว เมียนมา เนปาล เป็นต้น พร้อมกันนี้ ครม.ได้มีมติเห็นชอบเอกสาร 2 ฉบับเกี่ยวกับการเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนด้านพลังดังนี้
 
รองโฆษกฯ กล่าวว่า 1.ปฏิญญาร่วมการจัดตั้งความเป็น BREP (Joint Declaration on Building the BREP) เป็นเอกสารที่แสดงเจตนารมณ์ของประเทศที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศด้านพลังงานร่วมกันภายใต้การเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานของโลก เช่น การส่งเสริมการลงทุนด้านพลังงาน การพัฒนาพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การดำเนินการด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาที่ยั่งยืน  2.หลักการความร่วมมือและการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมของหุ้นส่วน ด้านพลังงาน (Cooperation Principles and Concrete Actions of the BREP) เป็นเอกสารที่แสดงถึงแนวทางการดำเนินการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกในการประสานงานระหว่างประเทศด้านพลังงาน เช่น 1)ส่งเสริมการค้า การลงทุน และการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน 2) ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านนวัตกรรมพลังงานสะอาด และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ 3)ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านพลังงานร่วมกัน ซึ่งจะดำเนินการในรูปแบบการฝึกอบรม การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การส่งเสริมความสัมพันธ์กับองค์กรระหว่างประเทศด้านพลังงาน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาพลังงานทดแทน ระบบพลังงานอัจฉริยะ การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลสะอาด และการพัฒนาระบบพลังงานแบบกระจายศูนย์
 
รองโฆษกฯ กล่าวว่า สำหรับประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับจากการเข้าร่วมเป็นประเทศหุ้นส่วนด้านพลังงานในครั้งนี้  จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ความพร้อมด้านทรัพยากรมนุษย์และสร้างโอกาสในการพัฒนาตลาดและโครงข่ายพลังงาน ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและระบบการจัดการที่หลากหลาย สามารถเป็นเจ้าของเทคโนโลยีและมีทางเลือกในการพัฒนาพลังงานโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาประเทศใดประเทศหนึ่งมากเกินไป
 
น.ส.รัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันกระทรวงพลังงานของไทยและสำนักงานพลังแห่งพลังงานแห่งชาติจีน ได้ดำเนินการความร่วมมือด้านพลังงานในกรอบทวิภาคีอย่างต่อเนื่อง ผ่านการประชุม China-Thailand Energy working Group (CTEWG)  โดยในปี 2563 ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันหารือแนวทางความร่วมมือที่ครอบคลุมทุกสาขาพลังงาน ได้แก่ 1)สาขาปิโตรเลียม ไทยเสนอความร่วมมือกับจีนผ่าน 4 โครงการ เช่น การจัดเก็บและการขนส่งก๊าซโดยใช้เรือขนาดเล็ก การลงทุนร่วมกันในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ LNG และโรงไฟฟ้า 2)สาขาไฟฟ้า เช่น ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าร่วมกัน จัดประชุมความร่วมมือด้านพลังงานใหม่ (New Energy) และ Smart Grid 3)สาขาพลังงานทดแทน แลกเปลี่ยนความรู้ การพัฒนาเทคโนโลยี และส่งเสริมการลงทุนในอุปกรณ์ด้านการอนุรักษ์พลังงาน และ 4)สาขาพลังงานนิวเคลียร์ แลกเปลี่ยนข้อมูลนโยบายและความคิดเห็นในเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ร่วมกัน ผ่านการประชุม JCCT-PNE (Joint Commission of China – Thailand Cooperation in the Peaceful Uses of Nuclear Energy Meeting)

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อรรถพล’สั่งระดมกำลังเร่งฟื้นฟูน้ำท่วมใต้ยันขนส่งน้ำมันไม่กระทบ

‘อรรถพล’ ยังคงติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณภาพน้ำมันในปั๊มและการขนส่งน้ำมัน-ก๊าซหุงต้มอย่างใกล้ชิด เร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้า ส่งมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา ฟื้นฟูระบบไฟฟ้าแก่อาคารและบ้านเรือนประชาชน และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรองรถยนต์และรถจักรยานยนต์