เดินหน้าทรานสฟอร์มโครงการแลนด์มาร์คระดับโลกใจกลางมหานคร สู่การกำหนดนิยามใหม่อีกระดับของที่สุดแห่งความล้ำเลิศที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแห่งโลกอนาคตในทุกมิติ ตอกย้ำภาพลักษณ์สยามพารากอนในฐานะจุดหมายปลายทางสำคัญระดับโลก (Global Landmark Destination) ที่มีผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่ง โดยใช้งบประมาณลงทุน 3,000 ล้านบาท
14 ก.พ. 2566 – นางสาวแคโรไลน์ เมอร์ฟีย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการขายและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า “ตลอดระยะเวลา 17 ปีที่ผ่านมา สยามพารากอนเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญระดับโลกที่ได้รับการยอมรับนับถือว่าเป็นหนึ่งในโครงการระดับ World-class Global Destination ที่มีความโดดเด่นไม่แพ้โครงการสำคัญๆในประเทศต่างๆ เป็นที่หนึ่งในใจคนไทยและคนทั่วโลกมาโดยตลอด และเป็นส่วนหนึ่งของดีเอ็นเอสำคัญของกรุงเทพฯ อีกทั้งสยามพารากอนยังเป็น showcase ที่นักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกสามารถเข้ามาสัมผัสวิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยของคนกรุงเทพฯ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย”
“สยามพารากอนประสบความสำเร็จอย่างสูงมากในปี 2565 สามารถสร้างรายได้ทะลุเป้าหมายที่วางไว้ เติบโตมากกว่า 50% จากปี 2564 และสูงกว่าปี 2562 แม้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้มีจำนวนมากเทียบเท่าก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิค-19 โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มลักซ์ซูรี่แบรนด์ที่สามารถสร้างยอดขายและมีอัตราเติบโตที่สูงตลอดระยะเวลา 3 ปี สะท้อนจากบรรดาแบรนด์หรูมุ่งหน้าตลาดเมืองไทยเป็นเวทีสำคัญในการเปิดตัวคอนเซ็ปต์สโตร์ หรือคอลเลคชั่นใหม่เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีความต้องการขยายพื้นที่และขยายสาขามากขึ้น สอดรับกับแผนการลงทุนปรับโฉมใหม่ของสยามพารากอน เพื่อต้อนรับลักซ์ซูรี่แบรนด์และแบรนด์ใหม่ๆ อีกนับร้อยแบรนด์ที่อยู่ในรายชื่อ Waiting List โดยหลายแบรนด์จะเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยและมีแบรนด์ที่ Exclusive เฉพาะที่สยามพารากอนเท่านั้น
ล่าสุดทางศูนย์การค้าเตรียมผลักดันโครงการใหม่ ที่เรียกว่า ‘The Next Level Evolution’ ที่จะสร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ของวงการค้าปลีกอีกครั้ง เนื่องจากเรากำลัง ทรานสฟอร์ม ‘สยามพารากอน’ ทั้งอาคารบนพื้นที่ 5 แสนตารางเมตรใจกลางมหานครย่านสยาม นับได้ว่าเป็นการพลิกเกมเปลี่ยนโลกหรือ Game Changing อย่างแท้จริงที่จะส่งผลให้ประเทศไทยผงาดบนเวทีโลกและครองความเป็นที่หนึ่งในใจของคนทั้งโลกอย่างต่อเนื่อง”
ทั้งนี้นับตั้งแต่ปี 2564 สยามพารากอนได้เริ่มดำเนินการปรับโฉม ’พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์’ ไปแล้วหลายชั้นซึ่งจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2566 นี้ ดังนั้นสยามพารากอนจึงทุ่มงบประมาณเพิ่มเติมอีก 3,000 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงพื้นที่ส่วนศูนย์การค้าทั้งหมด โดยได้เริ่มต้นดำเนินการแล้วเป็นส่วนๆ ตั้งแต่ปลายปี 2565 เป็นต้นมา จะใช้เวลาภายใน 18 เดือนจากนี้ไปและมีกำหนดเสร็จสมบูรณ์ในช่วงกลางปี 2567
นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายองค์กรสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “สยามพารากอนตอกย้ำแนวคิด การร่วมกันรังสรรค์ (Co-creation) บนแพลตฟอร์มนี้ เพื่อนำมาซึ่งการพัฒนาและการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน เพราะทุกคนจะร่วมสร้างนิยามใหม่อีกระดับของที่สุดแห่งความล้ำเลิศร่วมกับผู้ประกอบการหลายราย ซึ่งได้เคยสร้าง Flagship Store ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงมาแล้ว ใน Next Level ก็จะรังสรรค์ Iconic Store ที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้นอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งเดียวในประเทศไทย”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรมสมเด็จพระเทพฯ ทอดพระเนตรงานกุหลาบรวมน้ำใจ เทิดไท้องค์ราชัน
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ เพื่อทอดพระเนตรการจัดแสดงกุหลาบเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในงานกุหลาบรวมน้ำใจ
เปิดตัว CryBunny กับ CryTeddy ใจกลางกรุง
เหล่านักสะสมและสาวกอาร์ตทอยห้ามพลาด Molly Factory Studio ร่วมกับ สยามพารากอน และสยามเซ็นเตอร์ สร้างปรากฏการณ์เหนือความคาดหมาย ตอกย้ำการเป็นโกลบอลเดสติเนชั่นที่ครองใจลูกค้าเป็น #1 Top of Mind จับมือเนรมิตพื้นที่แห่งความสบายใจ
กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงาน'สานสายใยเพื่อผลิตภัณฑ์สายใจไทย'
29 ต.ค.2567 - เวลา 09.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธานมูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เสด็จฯ ไปทรงเป็นประธานเปิดงาน“สานสายใยเพื่อผลิตภัณฑ์สายใจไทย ครั้งที่ 26 ” ณ ลิฟวิ่ง ฮอลล์ ชั้น 3 สยามพารากอน