
นายกฯ ให้ความสำคัญและผลักดันผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจไทยและอาเซียน ตั้งเป้าเศรษฐกิจอาเซียนเติบโตอย่างรวดเร็ว ครอบคลุม และยั่งยืน
19 ก.พ. 2566 – นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับทราบประเด็นเรื่องการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน (Senior Economic Officials Meeting: SEOM) ที่ผ่านมา ณ เมืองเซอมารัง สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งในปีนี้เน้นย้ำถึงประเด็น “บทบาทอาเซียนที่มีความสำคัญในฐานะศูนย์กลางการเจริญเติบโต (ASEAN Matters: Epicentrum of Growth)” และตั้งเป้าให้เศรษฐกิจอาเซียนเติบโตอย่างรวดเร็ว ครอบคลุม และยั่งยืน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ในการประชุมครั้งนี้ ได้พิจารณาประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ เช่น การเร่งติดตามความคืบหน้าในการเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรี (FTA) ความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน (ASEAN Trade in Goods Agreement: ATIGA) ระหว่าง อาเซียน-แคนาดา ซึ่งจะสามารถสรุปผลได้ในปี 2567 ความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน-จีน และ ความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน-อินเดีย ซึ่งตั้งเป้าสรุปผลในปี 2568 ความตกลงการค้าสินค้าออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ซึ่งจะมีการลงนามพิธีสารแก้ไขความตกลงในปีนี้ โดยจะเป็นความตกลงฉบับที่ 3 ของไทย ที่สามารถใช้รูปแบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง เพิ่มเติมจากความตกลง ATIGA และ RCEP ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ตลอดจน ได้พิจารณาผลักดันประเด็นในการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ได้แก่ การจัดตั้งสำนักเลขาธิการ RCEP เพื่อกำกับดูแลภายใต้ข้อตกลง RCEP การจัดทำกรอบการอำนวยความสะดวกด้านการบริการของอาเซียน เช่น การนำหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า e-Form D มาใช้อย่างเต็มรูปแบบผ่านระบบ ASEAN Single Window (ASW) อำนวยความสะดวกทางการค้า ลดต้นทุนทางธุรกิจ ส่งเสริมการค้าดิจิทัลข้ามพรมแดน และส่งเสริมการใช้ e-Form D เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบัน ATIGA e-Form D มีอัตราการใช้อยู่ที่ 89.6% นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ผลักดันประเด็น การเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน การสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันของ MSMEs การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล การพัฒนาที่ยั่งยืน การลดกำแพงภาษี ระหว่างภูมิภาค รวมถึงขยายความสัมพันธ์กับประเทศนอกภูมิภาค
“นายกรัฐมนตรีมุ่งมั่นที่จะใช้ทุกความร่วมมือระหว่างประเทศให้เกิดโอกาส และประโยชน์สูงสุด พร้อมผลักดัน และสนับสนุนในประเด็นทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ทั้งต่อไทย และภูมิภาค เพื่อกระตุ้นกิจกรรมเศรษฐกิจในตลาด ส่งผลถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในประเทศ” นายอนุชา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไทยเบฟ'หนุนช้างศึกชิงเจ้าอาเซียน เปิด'อะคาเดมี่'เป็นสนามซ้อม ตั้งเป้าคว้าทองซีเกมส์2025
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือ “ไทยเบฟ” ผู้สนับสนุนหลักวงการฟุตบอลไทยมากว่า 25 ปี มุ่งมั่นสร้างรากฐานความยั่งยืนของกีฬาในทุกมิติ ตั้งแต่ระดับเยาวชน ผ่านโครงการต่างๆ พร้อมถ่ายทอดแนวคิด Sportsmanship เพราะ มากกว่ากีฬา คือ น้ำใจนักกีฬา พร้อมส่งทัพช้างศึกฟุตบอลทีมชาติไทยชุด U-23 และสนับสนุนสนามซ้อม “ไทยเบฟ ฟุตบอล อะคาเดมี่” ตั้งเป้าทวงบัลลังก์แชมป์ในการแข่งขันมหกรรมกีฬา “ซีเกมส์” ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดย “ไทยเบฟ” ร่วมผลักดันและพัฒนาวงการกีฬาของไทยบนเวทีนานาชาติ ในฐานะ Official Bronze Sponsor
รัฐบาลอัดฉีดแพ็กเกจใหญ่ เพิ่มสภาพคล่อง SME มาตรการสินเชื่อ-คืนภาษี วงเงิน 3.27 แสนล้าน
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 มีมติเห็นชอบมาตรการ “Quick Big Win เพื่อ SMEs ไทย
นักวิชาการชี้ เศรษฐกิจไทยถดถอยทางเทคนิคแล้ว แนะยังไม่เหมาะสมขึ้น VAT
รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ (DEIIT) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
นักวิชาการ มธ. เชื่อ ‘จีดีพี Q4’ 1.1% ไม่เกินจริง หนุนรัฐปูพรมถก FTA ดันส่งออก
นักวิชาการธรรมศาสตร์ เชื่อมีความเป็นไปได้ที่จีดีพีไตรมาส 4 จะอยู่ที่ 1.1% ชี้แม้ไม่บรรลุผลเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ
อมตะจับมือ Day Oneขยายดาต้าเซ็นเตอร์ดันไทยสู่ ‘ฮับดิจิทัลอาเซียน’
อมตะ ประกาศความร่วมมือทางยุทธศาสตร์กับ Day One Data Centers จากสิงคโปร์ ทุ่มงบ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายฐานโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสเกลใหญ่ในนิคมฯ อมตะซิตี้ ชลบุรี โดยตั้งเป้ากำลังไฟฟ้ารวมทะลุ 1 กิกะวัตต์ รองรับดีมานด์จาก Cloud และ AI ในอนาคต หนุนไทยสู่ ฮับดิจิทัลอาเซียน


