โฆษกรัฐบาลร่ายยาวค่าไฟแต่สรุปค่าFT 4.77 บาทไม่มีพลิก!

'อนุชา' ยันรัฐบาลดูแลการค่าไฟฟ้าตามหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมที่สุด ยันช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือนแต่จบที่ เม.ย. ในขณะที่เอฟทีรอบใหม่กระฉูด 4.77 บาท

30 มี.ค.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีการปรับค่าไฟฟ้า ว่าเป็นผลจากกรณีที่ประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ซึ่งในส่วนของค่าไฟฟ้างวดเดือนมกราคม – เมษายน 2566 นั้น เป็นไปตามการประชุม กกพ. ซึ่งมีมติประกาศค่าไฟฟ้างวดใหม่ หรือรอบบิลค่าไฟเดือน มกราคม – เมษายน 2566 เป็น 2 กลุ่ม คือ ประเภทที่อยู่อาศัย มีอัตราค่าไฟที่ 4.72 บาทต่อหน่วย และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นที่ 5.33 บาทต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้นราว 13% เป็นไปตามมติคณะกรรมนโยบายพลังงานแห่งชาติที่มีนโยบายจัดสรรก๊าซอ่าวไทยในการผลิตไฟฟ้าสำหรับบ้านอยู่อาศัย และให้ กกพ. ทบทวนค่าไฟฟ้า เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน ขณะเดียวกันก็ช่วยเหลือค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มเปราะบาง ประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือนอย่างต่อเนื่อง

โฆษกประจำสำนักนายกฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า โดยสถานการณ์ราคาพลังงานในช่วงนี้เริ่มอ่อนตัวลง จึงคาดว่าจะเข้าสู่สภาพเดิม และมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ ทั้งนี้ ในส่วนของการปรับค่า Ft จะมีการปรับอยู่เรื่อย ๆ ทุก ๆ 4 เดือน เพื่อให้อัตราค่าไฟสอดคล้องกับราคาต้นทุนเชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ ผู้ใช้ไฟบ้านทั่วไปยังคงต้องหามาตรการรับมือค่าไฟในหน้าร้อนกันทุกปี ซึ่งไม่เพียงค่า Ft ที่มีผลต่อค่าไฟเท่านั้น แต่อากาศที่ร้อนขึ้นก็ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟมากขึ้นด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่สูงขึ้น รัฐบาลได้มีนโยบายช่วยเหลือค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มเปราะบาง ประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยในพื้นที่ของการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมทั้งผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่บริการของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทาน กองทัพเรือ เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่ค่าไฟฟ้าประจำเดือนมกราคมที่ผ่านมา จนถึงเดือน เม.ย. 2566 ที่จะถึงนี้ โดยกำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม

ทั้งนี้ รัฐบาลได้อนุมัติวงเงิน 3,191.74 ล้านบาท ให้การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือน ม.ค.-เม.ย.2566 เพื่อให้ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยเป็นกรอบวงเงินของการไฟฟ้านครหลวงจำนวน 517.95 ล้านบาท และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจำนวน 2,673.79 ล้านบาท เพื่อบรรเทาผลกระทบในการลดภาระค่าครองชีพให้ผู้ใช้ไฟฟ้าที่เป็นกลุ่มเปราะบาง

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของค่าไฟฟ้างวด พ.ค.-ส.ค.2566 ที่ 4.77 บาทต่อหน่วยนั้น ได้พิจารณาความเหมาะสมที่จะสะท้อนต้นทุนต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด โดย กกพ. ระบุว่า การพิจารณาค่า Ft ในงวดดังกล่าวเป็นการประมาณการค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นโดยอ้างอิงจากข้อมูลจริงเฉลี่ยในเดือน ม.ค.2566 มาใช้เป็นฐานในการพิจารณา ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติปกติ หากการดำเนินการจริงมีการเปลี่ยนแปลงไปจากค่าประมาณการดังกล่าว กกพ. จะนำส่วนต่างค่าใช้จ่ายมาปรับปรุงการคิดค่า Ft ในรอบต่อ ๆ ไป ตามหลักเกณฑ์การคำนวณค่า Ft

“รัฐบาลให้ความสำคัญต่อกรณีการจัดการด้านพลังงาน คำนึงถึงการดูแล บริหาร ทั้งการผลิต ความมั่นคงพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ราคาพลังงานที่เป็นธรรม ให้สมดุลอยู่เสมอ และรับฟัง คำนึงถึงความเห็นของทุกภาคส่วนอยู่เสมอ ขณะเดียวกันรัฐบาลมีนโยบายลดผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน ด้วยการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มเปราะบาง ประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือนมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ รัฐบาลมีแนวทางที่เสาะหาพลังงานทางเลือกเพื่อการพัฒนาประเทศได้อย่างสมดุลและยั่งยืน”นายอนุชากล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลลุยต่อยอด 'ผ้าขาวม้าไทยฟีเวอร์' ขยายตลาดช่วยชุมชนโกยรายได้

รัฐบาลเดินหน้าส่งเสริมต่อยอด 'ผ้าขาวม้าไทยฟีเวอร์' เพิ่มมูลค่าขยายตลาด ช่วยผู้ประกอบการชุมชนโกยรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น

นายกฯ หนุน 'สมุนไพรไทย' ต่อยอดสินค้าซอฟต์พาวเวอร์

โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ ส่งเสริมการต่อยอดในอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย พร้อมยกระดับเป็นสินค้าซอฟต์พาวเวอร์ สนับสนุนเพิ่มมูลค่าอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยในตลาดโลก

นายกฯ เสียใจสูญเสียเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าเชียงใหม่ ส่งกำลังใจให้ครอบครัว

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เสียใจต่อการสูญเสียบุคลากรเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า จ.เชียงใหม่