
โฆษกรัฐบาลเผย ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนมีนาคม 2566 อยู่ที่ระดับ 97.8 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และสูงสุดในรอบ 10 ปี และคาดว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีฯ จะสูงขึ้นอีกอยู่ที่ระดับ 106.3
23 เม.ย. 2566 – นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณี สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนมีนาคม 2566 โดยผลปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ระดับ 97.8 ซึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และสูงสุดในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2556 โดยองค์ประกอบของค่าดัชนีฯ พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทุกองค์ประกอบ ทั้งดัชนีฯ คำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ ยกเว้นต้นทุนประกอบการ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนมีนาคม 2566เป็นผลจากการสำรวจผู้ตอบแบบสอบถาม 1,322 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรม สำหรับความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นมาจากปัจจัยเชิงบวกจากการขยายของอุปสงค์ในประเทศ กำลังซื้อในส่วนภูมิภาคจากรายได้ภาคเกษตรที่ปรับตัวขึ้น ภาคการก่อสร้างขยายตัว และภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวจากภาครัฐ อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อปัญหาต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะราคาวัตถุดิบ และค่าไฟฟ้า รวมไปถึงราคาพลังงานที่ยังคงผันผวน อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในทิศทางขาขึ้น อุปสงค์จากต่างประเทศที่อ่อนแอลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก ตลอดจนความผันผวนของค่าเงินบาท ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อภาคการส่งออกของไทย
ทั้งนี้ ส.อ.ท. คาดการณ์ว่า ใน 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมจะอยู่ที่ระดับ 106.3 เป็นผลมาจากเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ รวมไปถึงการเปิดประเทศของจีน ซึ่งเป็นแรงสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกของไทยในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากปัญหาเศรษฐกิจโลกและปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) จะมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น
“ระดับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่สำคัญ ในการดำเนินมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว และขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมกันสนับสนุน ผลักดันภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมประเมิน และพิจารณาข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัจจัยเชิงลบ เพิ่มปัจจัยเชิงบวก ทั้งเรื่องต้นทุนการผลิต ราคาพลังงาน และการส่งเสริมการเปิดตลาดส่งออกใหม่ ๆ” นายอนุชากล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
ครม. เคาะ 3 มาตรการด้านการเงิน ฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย พักเงินต้นยกดอกเบี้ย สินเชื่อสร้างอาชีพ กู้ยืมซ่อมบ้าน
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบมาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย โดยครม.เห็นชอบ 3 นโยบาย
ครม.อนุมัติค่าปลงศพน้ำท่วมสงขลา รายละ 2 ล้าน เคาะงบกลาง 530 ล้าน ฟื้นฟูหาดใหญ่
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย มีข้อสั่งการกรณีอุทกภัยที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ช่วยครัวเรือนละ 9 พันบาท หลักเกณฑ์ใหม่เยียวยาผู้อาศัยในพื้นที่น้ำล้อมรอบเกิน 7 วัน แม้ไม่ท่วมบ้าน
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 เพิ่มเติมตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
เดินหน้าเจรจาภาษีสหรัฐฯ ลั่นจุดยืนรัฐบาลแยกเรื่องความมั่นคงชายแดน-การค้าออกจากกัน
โฆษกรัฐบาล เผย จุดยืนของไทยต่อสหรัฐฯ ย้ำไทยแยกการเจรจาประเด็นความมั่นคง และประเด็นทางการค้าออกจากกัน ยืนยันตามข้อเท็จจริง กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดก่อน
'โฆษกรัฐบาล' ย้ำทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ ปรามสื่อมาเลย์ให้ระวังมากขึ้น
'โฆษกรัฐบาล' ย้ำทหารไทยเหยียบ 'ทุ่นระเบิดใหม่' หลังสื่อมาเลเซียรายงานข้อมูลคลาดเคลื่อน เตือนเรื่องละเอียด่อน ขอระมัดระวังการสื่อสาร

