
“ธปท.” เผยผลสำรวจ พบผู้ประกอบการส่วนใหญ่มองการเลือกตั้ง-การเมืองมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนน้อย ยังเดินหน้าลงทุนตามแผนเดิม พร้อมพิจารณาปัจจัยพื้นฐาน อาทิ กำลังซื้อ-การแข่งขัน-แหล่งเงินทุน เป็นหลัก คาดไตรมาส 2/66 ส่งออกยังทรงตัว
4 มิ.ย. 2566 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจเฉพาะกิจ (BSI SPECIAL ISSUE : BSI) โดยเป็นการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และเอสเอ็มอี ระหว่างวันที่ 1-25 พ.ค. 2556 จำนวน 341 ราย เกี่ยวกับผลกระทบของการเลือกตั้งและการเมืองต่อการลงทุนของภาคธุรกิจในปี 2566 พบว่า การเลือกตั้งและการเมืองส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนของธุรกิจน้อย โดยธุรกิจส่วนใหญ่ทั้งภาคการผลิต ราว 79% และภาคที่ไม่ใช่การผลิต ราว 75% ยังคงลงทุนตามแผนเดิม ซึ่งผู้ประกอบการจะพิจารณาปัจจัยพื้นฐานก่อน อาทิ กำลังซื้อ การแข่งขัน และแหล่งเงินทุน
นอกจากนี้ มีธุรกิจส่วนหนึ่งเลื่อนแผนการผลิต โดยธุรกิจในภาคการผลิต ราว 17% และธุรกิจที่ไม่ใช่การผลิตราว 19% อาทิ ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจการค้า และธุรกิจผลิตเคมีภัณฑ์ เพื่อรอความชัดเจนของรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายเกี่ยวกับการส่งเสริมการลงทุน และค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งหากมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำแบบก้าวกระโดด ธุรกิจบางส่วนจะหันไปลงทุนใน Automation มากขึ้น หรืออาจชะลอการลงทุนในไทย แต่ไปเพิ่มการลงทุนในต่างประเทศที่ค่าแรงต่ำกว่าแทน
ขณะที่ผลสำรวจเกี่ยวกับการประเมินภาวะการส่งออกของธุรกิจในไตรมาสที่ 2/2566 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ประเมินว่า การส่งออกในไตรมาส 2 โดยรวมมีแนวโน้มทรงตัวจากไตรมาสก่อน โดยมีหลายธุรกิจประเมินว่าการส่งออกจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน อาทิ ธุรกิจผลิตเคมี ปิโตรเลียม ยางและพลาสติก ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ และผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แต่ส่วนใหญ่จะขยายตัวเพียงเล็กน้อยไม่เกิน 10% ตามคำสั่งซื้อจากประเทศคู่ค้าที่เพิ่มขึ้น และปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ที่ทยอยคลี่คลายลง
อย่างไรก็ตาม หลายธุรกิจคาดว่าการส่งออกในไตรมาส 2 ปีนี้ทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน เช่น ภาคการค้า และธุรกิจผลิตยานยนต์
สำหรับผลสำรวจเกี่ยวกับระยะเวลาการให้เครดิต (Credit term) ของธุรกิจ พบว่า ระยะเวลาการให้เครดิตของธุรกิจในปัจจุบันไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยธุรกิจส่วนใหญ่ให้ระยะเวลาการชำระเงินค่าสินค้าและบริการ (Credit term) แก่คู่ค้าเฉลี่ยที่ 16-45 วัน และกว่าครึ่งของธุรกิจผลิตอาหารให้ Credit term มากกว่า 45 วัน ซึ่งนานกว่าธุรกิจการผลิตอื่น ๆ ขณะที่ธุรกิจบางส่วนในกลุ่มบริการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจะไม่มีการให้ Credit term แก่คู่ค้า
นอกจากนี้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก (Retailer Sentiment Index : RSI) ประจำเดือน พ.ค. 2566 ซึ่งทำการสำรวจข้อมูลระหว่างวันที่ 17-26 พ.ค. 2566 อยู่ที่ 51.2 ปรับลดลงจากเดือนก่อนที่มีเทศกาลสงกรานต์ ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคยังอ่อนแอตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ขณะที่ค่าครองชีพยังทรงตัวในระดับสูง ส่งผลให้ผู้ประกอบการคาดว่าในระยะต่อไปจะมีการแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดันให้ดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับลดลงด้วย
โดยหากจำแนกตามประเภทร้านค้า พบว่า ความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันปรับลดลงจากกลุ่มห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารเป็นสำคัญ เนื่องจากผู้บริโภคพยายามลดรายจ่าย โดยเลือกซื้อเฉพาะสินค้าจำเป็น และลดความถี่ในการทานอาหารนอกบ้าน ส่วนความเชื่อมั่นต่อยอดขายสาขาเดิมทุกภูมิภาคปรับลดลง โดยอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ยกเว้นภาคใต้ เนื่องจากยังไม่มีมาตรการจากภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคออกมาใหม่ และทำให้ความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับลดลงเช่นเดียวกัน ขณะเดียวกัน พบว่า ภาคธุรกิจมีสภาพคล่องลดลง โดย 50% ยังมีสภาพคล่องเพียงพอมากกว่า 12 เดือน โดยในเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 61%
อย่างไรก็ดี จากผลการสำรวจ พบว่า3 ใน 4 ของธุรกิจ หรือ 74% ขอธุรกิจ เห็นว่าการเมืองภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปจะไม่กระทบกับแผนการลงทุนในปีนี้ โดยจะยังลงทุนตามแผนที่วางไว้ ส่วนอีก 24% ชะลอการลงทุน และอีก 2% มองว่ายังเร็วไปที่จะทราบผลกระทบของการเมืองต่อการลงทุน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับตา นายกฯนัดถก 'ผู้ว่าแบงก์ชาติ' 2 ต.ค.นี้ ปัดตอบคำถามถูกปลด
นายกเรียกถก “ผู้ว่าแบงก์ชาติ” ยันไม่รู้ประเด็นแต่พร้อมตอบได้ทุกเรื่อง ส่งสัญญาณขึงดอกเบี้ย 2.50% ต่อปี อุ้มเศรษบกิจ ด้าน “ออมสิน-ธอส.” ประสานเสียงตรึงดอกเบี้ยกู้ยาว
ฟังชัดๆ เศรษฐาลั่นไม่เคยคิดปลดผู้ว่าแบงก์ชาติ!
'เศรษฐา' ย้ำไม่มีความคิดปลดผู้ว่าแบงกช์าติ ยันไม่มีสิทธิ์ไปไล่ใคร และให้ความเคารพคนทำงาน
ดร.เสรี เรียกร้องอย่าให้ 'กระแส' ชนะ 'ข้อมูลและเหตุผล'
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่าอิทธิพลของการสื่อสารตามทฤษฎี hypodermic needle theory กำลังสำแดงหลักฐาน
‘พิธา’ ฟุ้งผลเลือกตั้งซ่อมสส.ระยอง กระดุมเม็ดแรก ในการหาเสียงครั้งต่อไป
'พิธา'นำทีมพรรคก้าวไกล ขอคุณชาวระยองเทคะแนนเลือก'พงศธร' ชนะเลือกตั้งซ่อมสส.ระยองเขต 3
‘เจี๊ยบ’ เริ่มเฮ! นับคะแนนเลือกตั้งซ่อมสส.ระยอง เขต 3 ผู้สมัคร ‘ก้าวไกล’ ยังนำ ‘ปชป.’
อมรัตน์ เริ่มเฮ คะแนนเลือกตั้งซ่อมระยองเขต 3 ก้าวไกลยังนำ
'พิธา' ประกาศเป็นนายกฯ คนที่ 31 ประชาชนไม่ใช่แค่ตัวประกัน แต่เป็นประธาน
พรรคก้าวไกล จัดเวทีปราศรัยใหญ่ทิ้งท้ายการเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 3 จ.ระยอง ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 10 ก.ย.นี้ โดยพรรคก้าวไกลได้ส่ง นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ เป็นผู้สมัครสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยนอกจาก สส.ระยอง พรรคก้าวไกล ทั้ง 4 เขตแล้ว ยังมีแกนนำและ สส.พรรคก้าวไกล