ไทยออยล์เข้าถือหุ้นผู้ผลิตเคมีภัณฑ์รายใหญ่ในอินโดฯ ลุยสู่ธุรกิจโอเลฟินส์

7 ธ.ค. 2564 – นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าที่ผ่านมา ไทยออยล์มุ่งเน้นดำเนินธุรกิจเพื่อมุ่งสู่วิสัยทัศน์ที่เราวางไว้โดยอาศัยรากฐานที่มั่นคงจากธุรกิจหลัก โดย บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าที่เป็นพลังงานทดแทน เพื่อสนับสนุนทิศทางในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือ greenhouse gas (GHG) และเพิ่มธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานเพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น

โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้เข้าลงทุนเข้าถือหุ้น 15.38% ในบริษัท PT Chandra Asri Petrochemical Tbk (CAP) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ครบวงจรชั้นนำรายใหญ่ที่สุดของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นก้าวแรกในการขยายธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจโอเลฟินส์และขยายความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ทางธุรกิจ อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้แสวงหาโอกาสในการลงทุนธุรกิจที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่(นิว เอส-เคิร์ฟ) อย่างต่อเนื่อง ผ่านการลงทุนหลากหลายรูปแบบ เช่น การลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ ผ่าน Corporate Venture Capital (CVC) หรือการลงทุนผ่านการร่วมลงทุน (JV) และ ควบรวมกิจการ (M&A)

“เราต้องขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์หลัก 3 ด้าน (3V) คือ 1.Value Maximization การต่อยอดห่วงโซ่คุณค่าจากธุรกิจโรงกลั่นสู่ธุรกิจปิโตรเคมี 2. Value Enhancement การขยายตลาด ขยายกำลังการผลิต และขยายผลิตภัณฑ์ไปสู่ตลาดต่างประเทศในระดับภูมิภาค เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น และ 3.Value Diversification การขยายสู่ธุรกิจอื่น ซึ่งจะช่วยต่อยอดกำไรให้มีเสถียรภาพ พร้อมขยายพอร์ตโฟลิโอและฐานกำไรกว้างยิ่งขึ้น”นายวิรัตน์ กล่าว

อย่างไรก็ตามปัจจุบัน ไทยออยล์ นับเป็นโรงกลั่นที่มีขนาดกำลังการผลิตที่สูงที่สุดในประเทศ และมีส่วนแบ่งการผลิตน้ำมันสูงที่สุดประมาณ 29% ของการผลิตทั้งหมดของประเทศ บริษัทฯ มีกลยุทธ์ทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่รองรับความผันผวนและการเปลี่ยนรูปแบบการใช้พลังงานของโลก ด้วยการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันจากธุรกิจหลักและกระจายการลงทุนไปยังธุรกิจที่มีความผันผวนน้อยกว่า เพื่อให้พอร์ตการลงทุนมีความยืดหยุ่นและผลตอบแทนที่ดี โดยตั้งเป้าว่าใน 10 ปีข้างหน้า ไทยออยล์จะเป็นบริษัทที่มีสัดส่วนของกำไรมาจากธุรกิจโรงกลั่น 40% ธุรกิจปิโตรเคมี 40% ธุรกิจไฟฟ้า 10% และธุรกิจใหม่อื่น ๆ ที่เป็นนิว เอส-เคิร์ฟ อีก 10%

“จะเห็นได้ว่า ไทยออยล์ ได้ดำเนินการขยายธุรกิจห่วงโซ่คุณค่าจากธุรกิจปิโตรเลียมไปยังธุรกิจปิโตรเคมี ทั้งสายอะโรเมติกส์และโอเลฟินส์ รวมถึงผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง (HVP) โดยเน้นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าและตลาด ทั้งในประเทศและภูมิภาคเอเชีย ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ”นายวิรัตน์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทยออยล์คว้ารางวัลเกียรติคุณ การเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืน Sustainability Disclosure Award ประจำปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7

บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลเกียรติคุณการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืน “Sustainability Disclosure Award” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 จากงานมอบรางวัลการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืน ประจำปี 2568 จัดโดยสถาบันไทยพัฒน์

ไทยออยล์ร่วมบรรจุถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดสงขลา

คุณบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) นำทีมผู้บริหาร พร้อมด้วยพนักงานจิตอาสา ร่วมบรรจุถุงยังชีพกว่า 400 ใบ เพื่อส่งต่อให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ จ.สงขลา โดยภายในถุงยังชีพประกอบด้วยอาหารแห้ง น้ำดื่ม ยารักษาโรค และสิ่งของจำเป็นสำหรับการดำรงชีพในช่วงวิกฤต ณ อาคารเอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์

ไทยออยล์ได้รับคะแนนประเมิน CGR ระดับ "ดีเลิศ" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 17

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้รับคะแนนการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ “ดีเลิศ” (Excellent) หรือ 5 ตราสัญลักษณ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุด

ไทยออยล์คว้ารางวัล Thailand HR Innovation Award 2025 ระดับ Silver Award

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) โดย คุณสุชาดา ดีชัยยะ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาความเป็นเลิศด้านทรัพยากรบุคคลและองค์กร พร้อมด้วย คุณเบญจวรรณ พุ่มพฤกษ์

ไทยออยล์ รับรางวัล OUTSTANDING CEO และ OUTSTANDING IR จากเวที IAA Awards for Listed Companies 2025

เมื่อเร็วๆ นี้ คุณธาริกา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้จัดการฝ่ายการเงิน เป็นตัวแทน คุณบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด

TOPปลื้มไตรมาส3/68กำไรกว่า 2 พันล้าน

ไทยออยล์ โชว์ไตรมาส 3 /68 กำไรสุทธิ 2,147 ล้านบาท จากกำไรสต็อกน้ำมันหนุน EBITDA เพิ่มขึ้นและมีกำไรจากการซื้อคืนหุ้นกู้ต่างประเทศ 1,372 ล้านบาท คาดไตรมาส 4 ผลประกอบการฟื้นต่อเนื่องหลังกลับมาเดินเครื่องเต็มกำลัง