โฆษกรัฐบาลเผย ภาวะเศรษฐกิจการคลังไทยเดือน พ.ค.2566 ปรับตัวดีขึ้น จากปัจจัยด้านท่องเที่ยว การบริโภคภาคเอกชน และอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณทิศทางบวกต่อไป
05 ก.ค.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มุ่งกำชับ สั่งการ ให้ทุกหน่วยงานขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยมีผลสะท้อนจากภาวะเศรษฐกิจการคลังไทยประจำเดือนพฤษภาคม 2566 ปรับตัวดีขึ้นจากปัจจัยด้านท่องเที่ยว การบริโภคภาคเอกชน และอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนพฤษภาคม 2566 พบว่า เศรษฐกิจไทยในเดือน พ.ค.2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ต่อเนื่องทั้งจากปัจจัยด้านการท่องเที่ยว ซึ่งในเดือนพฤษภาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าประเทศไทยรวม 2.01 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 286.3% โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย จีน อินเดีย เกาหลีใต้ และเวียดนาม รวมถึงการท่องเที่ยวภายในประเทศที่มีจำนวน 19.7 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 24.5%
สำหรับปัจจัยด้านการบริโภคภาคเอกชน มีการปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยการบริโภคในหมวดสินค้าคงทนสะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งและปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในเดือน พ.ค. 2566 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 29.4% และ 13.5% ตามลำดับ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 55.7 จากระดับ 55 ในเดือนก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 และสูงสุดในรอบ 39 เดือน สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น
นอกจากนี้ เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดีและแรงกดดันจากระดับราคาสินค้าลดลงต่อเนื่อง สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไป อยู่ที่ 0.53% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 1.55% ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนเม.ย.2566 อยู่ที่ 61.6% ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ด้านเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2566 อยู่ในระดับสูงที่ 2.208 แสนล้านดอลลาร์
“นายกฯ มุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเห็นผลสำเร็จเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่องจากผลสะท้อนที่ได้จากการเติบโตของการท่องเที่ยว ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นที่สูงสุดในรอบ 39 เดือน และอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะยังอยู่ในเกณฑ์ดี และมีสัญญาณเป็นไปในทิศทางบวก โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่เต็มที่ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้เติบโตเพื่อความยั่งยืน” นายอนุชากล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครม.เคาะแพ็กเกจใหญ่ช่วยเหลือ 'ลูกหนี้รายย่อย-เอสเอ็มอี'
ครม. อนุมัติชุดใหญ่! จัดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ผู้ประกอบการ SMEs มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นแน่
นายกฯ อิ๊งค์ลั่นกลาง ครม.พร้อมลงภาคใต้แต่ไม่รู้เมื่อไหร่!
นายกฯ แจ้งที่ประชุม ครม. พร้อมลงภาคใต้ ขอ ศปช.ส่วนหน้าสรุปแผนแก้ไขน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ ทั้งระยะสั้น-ระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก
รัฐบาลตีปี๊บแถลงผลงาน 90 วัน 12 ธ.ค. มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย
รัฐบาลแถลงผลงาน 90 วัน “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง“ พฤหัสนี้ มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย หลังพบทุกมิติของประเทศคึกคัก คาดจีดีพีปีหน้าเติบโตสู้ประเทศในอาเซียนได้แน่
รัฐบาลพร้อมรับ 4 คนไทยกลับบ้าน เช็กสุขภาพ-เยียวยาจิตใจทันที
นายกฯ รับรายงานพร้อมรับ 4 คนไทยกลับบ้าน ด้าน สธ. เตรียมทีมดูแลสุขภาพกาย-จิตใจ ทันทีที่เหยียบแผ่นดินไทย
รัฐบาลชวนชมริ้วขบวนอัญเชิญ 'พระเขี้ยวแก้ว' จากดอนเมืองมาสนามหลวง
รัฐบาล เชิญชวนชมริ้วขบวนอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากดอนเมือง มาประดิษฐาน มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พร้อมเปิดสักการะ 5 ธ.ค.2567 - 14 ก.พ.2568