'บิ๊กตู่' ปลื้มอุตสหกรรมสมุนไพรไทยเติบโตทั้งตลาดภายในและนอกประเทศ

นายกฯ ยินดีอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยเติบโตแข็งแกร่ง ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ พร้อมสนับสนุนความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน ยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันในระยะยาว

06 ก.ค.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีตลาดวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สมุนไพรของไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากความต้องการใช้สมุนไพรในการดูแลรักษาสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยรัฐกำหนดเป็นแผนปฏิบัติการด้านสมุนไพรแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2566 – 2570 พร้อมชื่นชมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ยกระดับความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย และได้ร่วมกันจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 20

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2566 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านสมุนไพรแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2566 – 2570 ซึ่งส่งเสริมให้พัฒนาสมุนไพรตลอดห่วงโซ่คุณค่า และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ นำมาซึ่งความมั่นคงทางสุขภาพและเศรษฐกิจของประเทศ โดยในปัจจุบัน ตลาดวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สมุนไพรของไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้คนไทยเลือกใช้สมุนไพรในการดูแลรักษาสุขภาพเพิ่มขึ้น ทำให้สมุนไพรเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก โดยภาพรวมตลาด 3 ปีย้อนหลังพบว่าเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปี 2563 มีมูลค่า 45,997.9 ล้านบาท ปี 2564 มูลค่าราว 48,108 ล้านบาท และปี 2565 มีมูลค่า 52,104.3 ล้านบาท ซึ่งในปี 2566 คาดว่าจะมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นถึง 100,000 ล้านบาทภายในปี 2570 ขณะที่ตลาดต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2560 – 2565 ไทยมีการส่งออกวัตถุดิบสมุนไพรคุณภาพและผลิตภัณฑ์สมุนไพรเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คิดเป็นมูลค่ากว่า 12,211 ล้านบาท

โฆษกประจำสำนักนายกฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ภายใต้แผนปฏิบัติการดังกล่าว ว่ากรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 20 ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย. – 2 ก.ค.2566 ได้รับกระแสตอบรับที่ดี มีประชาชนเข้าร่วมงานกว่า 2 แสนคน เกิดการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยและผู้แทนการค้าจากต่างประเทศ มูลค่าทางการตลาดกว่า 225 ล้านบาท รวมเงินสะพัดภายในงาน จำนวนกว่า 245 ล้านบาท ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าวเป็นการส่งเสริมการนำสุขภาพมาเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ซึ่งจะช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ประชาชน ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ และปกป้องคุ้มครองภูมิปัญญาทางการแพทย์แผนไทย สมุนไพรไทยที่เป็นวัฒนธรรมชาติ ส่งผลให้ตลาดสมุนไพรมีอัตราการเติบโตในอนาคต

“นายกฯ ขอบคุณความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน ขานรับร่วมกันขับเคลื่อนดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการด้านสมุนไพรแห่งชาติ ฉบับที่2 พ.ศ. 2566-70 ทั้งนี้ ความร่วมมือจะส่งผลให้ยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย ส่งผลให้ตลาดสมุนไพรไทยทั้งในและต่างประเทศมีแนวโน้มขยายต่อเนื่อง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยมีสมุนไพรและตำรับยาที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับ นโยบายของรัฐบาลที่ได้ดำเนินนโยบายเพื่อพัฒนาระบบนิเวศที่สนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาสมุนไพรไทยอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนตลอดห่วงโซ่การผลิต ซึ่งทั้งหมดนี้ จะส่งเสริมให้ตลาดสมุนไพรไทยมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง นอกจากเพิ่มความมั่นคงทางสุขภาพให้คนไทยแล้ว ยังยกระดับเศรษฐกิจของประเทศได้อีกด้วย” นายอนุชากล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ อิ๊งค์ลั่นกลาง ครม.พร้อมลงภาคใต้แต่ไม่รู้เมื่อไหร่!

นายกฯ แจ้งที่ประชุม ครม. พร้อมลงภาคใต้ ขอ ศปช.ส่วนหน้าสรุปแผนแก้ไขน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ ทั้งระยะสั้น-ระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก

รัฐบาลตีปี๊บแถลงผลงาน 90 วัน 12 ธ.ค. มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย

รัฐบาลแถลงผลงาน 90 วัน “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง“ พฤหัสนี้ มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย หลังพบทุกมิติของประเทศคึกคัก คาดจีดีพีปีหน้าเติบโตสู้ประเทศในอาเซียนได้แน่

รัฐบาลชวนชมริ้วขบวนอัญเชิญ 'พระเขี้ยวแก้ว' จากดอนเมืองมาสนามหลวง

รัฐบาล เชิญชวนชมริ้วขบวนอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากดอนเมือง มาประดิษฐาน มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พร้อมเปิดสักการะ 5 ธ.ค.2567 - 14 ก.พ.2568