สนข.อัพเดท 'แลนด์บริดจ์' ลุยเปิดประมูลปี 68 ลงทุน 1 ล้านล้านบาท สัมปทาน 50 ปี

สนข.เคาะโมเดลลงทุน “แลนด์บริดจ์” 1 ล้านล้านบาท เปิดเส้นทางเชื่อมการขนส่งท่าเรือ “ชุมพร – ระนอง”จ่อชง ครม.ใหม่เห็นชอบแผน ก่อนโรดโชว์เอกชนต่างชาติลงนามประมูลปี 68 รับสัมปทาน 50 ปี มั่นใจเป็นฮับใหม่หนุนสายการเดินเรือทั่วโลกใช้บริการ

4 ส.ค. 2566 – นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย (แลนด์บริดจ์) โดยระบุว่า ขณะนี้ สนข.ได้ศึกษาจุดที่ตั้งของการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกบริเวณฝั่งทะเลอันดามัน และอ่าวไทยแล้วเสร็จ ซึ่งจะมีที่ตั้งฝั่งอันดามันอยู่แหลมอ่าวอ่าง จังหวัดระนอง และฝั่งอ่าวไทยอยู่แหลมริ่ว จังหวัดชุมพร

โดยโครงการพัฒนาแลนด์บริดจ์นอกจากจะมีการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกเพื่อรองรับสายการเดินเรือขนส่งสินค้าจากทั่วโลกแล้ว ยังจะมีการพัฒนาโครงการโลจิสติกส์อื่นๆ เพื่อสนับสนุนการขนส่งตู้สินค้าจากท่าเรือทั่งสองแห่ง โดยทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะพัฒนาเส้นทางรถไฟทางคู่ ช่วงชุมพร – ระนอง เช่นเดียวกับกรมทางหลวง(ทล.) จะพัฒนาโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ช่วงชุมพร – ระนอง (MR8)

สำหรับการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแลนด์บริดจ์นั้น สนข.ประเมินจะจัดใช้วงเงินรวมกว่า 1 ล้านล้านบาท แบ่งออกเป็น โครงการท่าเรือฝั่งชุมพร 3 แสนล้านบาท โครงการท่าเรือฝั่งระนอง 3.3 แสนล้านบาท โครงการพัฒนาพื้นที่เปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้า (SRTO) รวม 1.4 แสนล้านบาท และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเส้นทางเชื่อมโยงท่าเรือ วงเงินราว 2.2 แสนล้านบาท

“ก่อนหน้านี้ สนข.ได้ศึกษาแผนพัฒนาโครงการท่าเรือน้ำลึกแลนด์บริดจ์ตามที่ได้รับมอบหมายแล้วเสร็จ แต่เสนอไม่ทันรัฐบาลชุดก่อน จึงคาดว่าเมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะสามารถผลักดันแผนพัฒนาโครงการนี้ให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบทันที ซึ่งจะทำควบคู่ไปกับการจัดทำรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EHIA) ซึ่งมั่นใจว่าโครงการนี้มีความจำเป็นในการพัฒนา ดังนั้นไม่ว่ารัฐบาลชุดใดจะเข้ามาบริหารก็จะมีการผลักดันต่อเนื่อง”นายปัญญา กล่าว

นายปัญญา กล่าวว่า หาก ครม.เห็นชอบกรอบการพัฒนาโครงการแล้ว สนข.จะเดินหน้าในขั้นตอนเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุน โดยมีเป้าหมายจัดทำโรดโชว์ดึงนักลงทุนต่างชาติที่ส่วนใหญ่ทำธุรกิจสายการเดินเรือประมาณ 10 ประเทศอาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน จีน ฝรั่งเศส และเยอรมัน เป็นต้น โดยหลังจากเชิญชวนเอกชนแล้วเสร็จ จะนำข้อเสนอต่างๆ มาวิเคราะห์รูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม เบื้องต้นคาดว่าจะเปิดประมูลได้ต้นปี 2568 และลงนามเอกชนลงทุนในไตรมาส 3 ของปี 2568

“รูปแบบการลงทุนที่ สนข.ศึกษาไว้ในปัจจุบัน จะเปิดกว้างเอกชนต่างชาติให้สามารถถือหุ้นเกิน 50% ในการร่วมลงทุนพัฒนาโครงการนี้ เนื่องจากโครงการแลนด์บริดจ์มีมูลค่าการลงทุนสูง โดยเอกชนที่เข้ามาลงทุนจะได้รับสัมปทาน 50 ปี ซึ่งประเมินว่าเป็นช่วงสัญญาสัมปทานที่จะจูงใจเอกชนและมีความคุ้มค่าทางการลงทุนน นอกจากนี้สนข.ประเมินด้วยว่าเพื่อความคล่องตัวทางการลงทุน จะเปิดประมูลรวมสัญญาเดียว เพื่อมอบสิทธิบริหารโครงการให้กับเอกชนทั้งท่าเรือน้ำลึกชุมพร – ระนอง รวมไปถึงมอเตอร์เวย์และโครงการรถไฟ”นายปัญญา กล่าว

ทั้งนี้ สนข.มั่นใจว่าปีแรกของการเปิดให้บริการท่าเรือน้ำลึกแลนด์บริดจ์ หรือราวปี 2573 จะมีปริมาณขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือระนอง จำนวน 19.4 ล้าน ที.อี.ยู แบ่งเป็น 1.สินค้าถ่ายลำ จำนวน 13.6 ล้าน ที.อี.ยู 2.สินค้านำเข้า – ส่งออกของไทย จำนวน 4.6 ล้าน ที.อี.ยู และ 3.สินค้าจากจีนตอนใต้ และกลุ่ม GMS จำนวน 1.2 ล้าน ที.อี.ยู

ส่วนท่าเรือชุมพร จะมีสินค้าผ่านท่า จำนวน 13.8 ล้าน ที.อี.ยู แบ่งเป็น 1.สินค้าถ่ายลำ จำนวน 12.2 ล้าน ที.อี.ยู2.สินค้านำเข้า – ส่งออกของไทย จำนวน 1.4 ล้าน ที.อี.ยู และ 3.สินค้าจากจีนตอนใต้ และกล่ม GMS จำนวน 2 แสนที.อี.ยู ส่งผลให้ สนข.วางพัฒนาพัฒนาท่าเรือทั้งสองแห่งให้สามารถรองรับตู้สินค้าสูงสุดได้ 20 ล้าน ที.อี.ยู

นายปัญญากล่าวว่า เมื่อการพัฒนาโครงการแลนด์บริดจ์แล้วเสร็จจะส่งผลบวกต่อประเทศไทยสู่การเป็นเกตเวย์เชื่อมต่อการขนส่งสินค้าระหว่างท่าเรือแหลมฉบังภายใต้เขตพัฒนาพิเศษภาคคตะวันออก (อีอีซี) สู่กลุ่มประเทศ BIMSTEC เป็นศูนย์กลางจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าของสายการเดินเรือทั่วโลก ลดระยะเวลาการเดินทางเชื่อมต่อเส้นทางเดินเรือระหว่างมหาสุมทรอินเดีย และมหาสมุทรแปซิฟิก รวมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากการพัฒนาอุตสาหกรรมหลังท่าเรือ

ทั้งนี้สนข.ยังมีแผนดำเนินการศึกษาเพื่อจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (พ.ร.บ. SEC) เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาโครงการแลนด์บริดจ์ เบื้องต้นสนข.จะมีการจัดตั้งสำนักงานกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) ในลักษณะเดียวกับพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (พ.ร.บ.อีอีซี) ที่ใช้ขับเคลื่อนโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยจะเสนอร่าง พ.ร.บ.SEC พร้อมเงื่อนไขสิทธิประโยชน์ ไปยังสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และจัดทำเอกสารประกวดราคา (อาร์เอฟพี) เพื่อคัดเลือกผู้ลงทุน แล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ปี 2567 หากการจัดตั้งสำนักงานฯแล้วเสร็จ รวมทั้งร่างพ.ร.บ.มีผลบังคับใช้แล้ว สนข.จะมอบหมายให้ทางสำนักงานฯเป็นผู้ดูแลต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สภาฯไฟเขียว รายงานกมธ.แลนด์บริดจ์ ฝ่ายค้าน-สส.ใต้รุมค้าน

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ เข้าสู่วาระการพิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติ เรื่อง การศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน

ปชป. จวกรัฐบาลทำข้อมูลแลนด์บริดจ์ไม่เป็นเอกภาพ แต่รีบสรุปเอาไปขายฝัน

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลพยายามเดินหน้าโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (แลนด์บริดจ์) ขณะที่ประชาชนมีความเห็นแตกต่างทั้งสนับสนุนและคัดค้าน

'จตุพร' แนะพรรคการเมืองใจกว้าง ออกพรก.นิรโทษกรรมคดีการเมือง ยุติปัญหาได้รวดเร็ว

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า แต่ละพรรคยังมีการเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสภา หากการเมืองยังไม่ตกผลึกกันแล้ว ความพยายามนี้จึงไม่ง่าย

จับตา! หลัง 18 กุมภาฯ 'เศรษฐา' ฝืนดีลยาก ทู่ซี้เป็นนายกฯ เจอเชือด

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า ช่วงหลัง 18 ก.พ. ไป มี.ค. จนถึง พ.ค. อาจเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หากทุกอย่างเป็นสภาพเดิม โดยนายเศรษฐา ทวีสิน ยังเป็นนายกฯ สถานการณ์พิเศษคงเกิดเร็ว

นายกฯ หารือประธานาธิบดีเยอรมนี ชวนเอกชนเข้ามาลงทุนโครงการแลนด์บริดจ์

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้การต้อนรับกับ ดร. ฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ (H.E. Dr. Frank-Walter Steinmeier) ประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล

'รศ.หริรักษ์' เปิดข้อมูลอีกมุม ผลศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ของจุฬาฯ

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ความคิดที่จะทำโครงการ land bridge เริ่มมาตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว มีข่าววงในซึ่งไม่ยืนยันบอกว่า หลังจากผลการศึกษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย