จัดตั้งรัฐบาลล่าช้าฉุดดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงครั้งแรกในรอบ 14 เดือน

หอการค้าเผยคนห่วงตั้งรัฐบาลล่าช่า ฉุดดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ก.ค. ลดลงครั้งแรกในรอบ 14 เดือน แตะระดับ 55.6

11 ส.ค. 2566 – นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคประจำเดือนกรกฎาคม 2566 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน แตะระดับ 55.6 เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาลและเสถียรภาพทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง ซึ่งอาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันและในอนาคต ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทุกรายการปรับตัวลดลง

นอกจากนี้ผู้บริโภคยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่ยังทรงตัวสูงโดยเฉพาะค่าไฟฟ้ารวมถึงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ตลอดจนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ที่อาจเป็นปัจจัยที่เพิ่มแรงกดดันของการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งส่งผลลบต่อการส่งออกของไทยทำให้การส่งออกในช่วงนี้หดตัวลง และมีผลกระทบในเชิงลบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทุกภูมิภาค

อย่างไรก็ดีดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 50.3 52.7 และ 63.9 ตามลำดับ โดยปรับตัวลดลงทุกรายการเมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนมิถุนายน แสดงว่าผู้บริโภคเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนเศรษฐกิจไทย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนี้ครัวเรือนคือปัญหาใหญ่ของประเทศ

หนี้ครัวเรือนของคนไทยในปัจจุบันมีมากถึง 1.62 ล้านล้านบาทโดยผลการศึกษาล่าสุดของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยผลสำรวจว่าหนี้ครัวเรือนไทยมีจำนวน 740,596.94 บาทต่อครอบครัวเพิ่มขึ้นถึง 22% ถือว่าเป็นอัตราที่สูงที่สุดในรอบ4 ปี  โดยกว่า 95% ของจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามของกลุ่มตัวอย่างรับว่าครอบครัวมีหนี้

การเมือง-ภาษีทรัมป์ทุบดัชนีเชื่อมั่นฯ ส.ค.ลดลงต่ำสุดรอบ 32 เดือน

การเมือง-ภาษีทรัมป์ทุบดัชนีเชื่อมั่นฯ ส.ค.ลดลงต่ำสุดรอบ 32 เดือน หอการค้าไทยลุ้น’คนละครึ่ง’ ปั๊มเงินเข้าระบบ 1 แสนล้านช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาส4/68 คาดดัน GDP ปีนี้โตเกิน 2.5%

นักวิชาการแนะโมเดลแก้เกมสงครามภาษี

เสนอไทยโมเดลแก้เกมสงครามภาษี เปิดตลาดสินค้าแข่งขันได้เพิ่มแลกลดภาษีเปิดตลาดสินค้าเกษตรให้สหรัฐฯแบบมีกลยุทธ์ ลดผลกระทบเกษตรกรรายย่อยปลูกข้าวโพดและเลี้ยงปศุสัตว์ผลกระทบภาษี 36% สูงกว่าหลายประเทศในเอเชีย หวั่นกระทบการลงทุนและการย้ายฐานเพิ่มการแข่งขัน เพิ่มผลประโยชน์ผู้บริโภค มุ่งเป้าบรรเทาผลกระทบเอสเอ็มอีและแรงงาน