รัฐบาลโอ่เอกชนแห่ร่วมลงทุนโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา

รองโฆษก รบ. เผยความคืบหน้าโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา เอกชนเสนอเข้าร่วมลงทุนจำนวนมาก เชื่อมั่นเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ยกระดับไทยสู่ผู้นำด้านอุตสาหกรรมอากาศยานของภูมิภาค

24 ส.ค.2566 – น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ได้หารือกับบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อยืนยันความพร้อมในการลงทุนในโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา (Maintenance Repair and Overhaul : MRO) ซึ่งขณะนี้การบินไทยพร้อมลงทุน โดยอยู่ระหว่างเจรจาจัดหาพันธมิตรร่วมลงทุน ซึ่งเบื้องต้นมีเอกชนเสนอเข้าร่วมลงทุนจำนวนมาก

ทั้งนี้ จากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะได้เดินทางไปเยี่ยมชมกิจการและรับฟังรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2566 การบินไทยได้ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูจนประสบความสำเร็จ ซึ่งขณะนี้สถานะกระแสเงินสดมีเพียงพอ จึงมีความพร้อมลงทุนโครงการดังกล่าว โดยอยู่ระหว่างจ้างที่ปรึกษาเพื่อทบทวนรูปแบบการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 3 – 4 เดือน

รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เผยเพิ่มเติมว่า โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ให้กองทัพเรือ สกพอ. และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ดำเนินโครงการฯ โดยให้เอกชนร่วมลงทุนตามที่ สกพอ. เสนอ ซึ่งโครงการฯ จะดำเนินการบนพื้นที่ประมาณ 337,500 ตร.ม. หรือ 210 ไร่ บนพื้นที่ของกรมธนารักษ์ที่อยู่ในความครอบครองของกองทัพเรือ เพื่อใช้ในการก่อสร้างโรงซ่อมบำรุง และจัดซื้ออุปกรณ์ ซึ่งเอกชนจะต้องจ่ายค่าเช่าให้กองทัพเรือตลอดอายุสัญญาเช่าพื้นที่ 50 ปี สามารถรองรับกิจกรรมการซ่อมบำรุงอากาศยาน 1) การซ่อมใหญ่อากาศยาน (Heavy Maintenance) สามารถรองรับอากาศยานลำตัวกว้างได้พร้อมกัน 3 ลำ รองรับอากาศยานลำตัวกว้างประมาณ 110 ลำต่อปี และอากาศยานลำตัวแคบประมาณ 130 ลำต่อปี 2) การซ่อมบำรุงอากาศยานระดับลานจอด (Line Maintenance) รองรับอากาศยานลำตัวกว้างและอากาศยานลำตัวแคบ ประมาณ 70 เที่ยวบินต่อวัน และ 3) การพ่นสีอากาศยาน (Aircraft Painting) รองรับอากาศยานลำตัวกว้างและอากาศยานลำตัวแคบ ประมาณ 22 ลำต่อปี นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นพัฒนาโรงซ่อมอากาศยานอัจฉริยะ (Smart-hanger) ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สุดของโลก สามารถรองรับการให้บริการซ่อมเครื่องบินทั้งของแอร์บัสและโบอิ้ง

“โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภามีส่วนสำคัญในการพัฒนาเมืองการบินภาคตะวันออก (Eastern Airport City) ให้เป็นรูปธรรม ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมอากาศยานของภูมิภาค โดยเชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการซ่อมบำรุงอากาศยานของการบินไทย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเรื่องของการซ่อมบำรุงอากาศยาน เกิดการถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการซ่อมบำรุงอากาศยานระดับโลกในประเทศไทย” น.ส.รัชดากล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประชุม คกก.ถอดบทเรียนอุทกภัยนัดแรกเล็งลอกการบ้านแดนปลาดิบ

'บวรศักดิ์' ประชุม คกก.ถอดบทเรียนอุทกภัยนัดแรก ชี้ประเทศมี กม.แก้ภัยพิบัติเพียบ แต่เกิดเหตุฉับพลันอำนาจสั่งการไม่ได้ เตรียมถอดบทเรียนแบบญี่ปุ่น ก่อน 'นายกฯ อนุทิน' นั่งหัวโต๊ะนำประชุมต่อ

ไทยพร้อม 100%นับถอยหลังเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 33 จองตั๋วเข้าชมพิธีเปิดฟรี

นับถอยหลังกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ไทยเจ้าภาพพร้อม 100% 'แบมแบม' เตรียมขึ้นเวทีโชว์ รัฐบาลเชิญชวน 9 ธ.ค. นี้ จองตั๋วเข้าชมพิธีเปิดฟรี ผ่านเว็บไซต์ทางการ www.seagames2025.org

2 วันจ่ายเงินเยียวยา 9 พันบาทกว่า 1.2 แสนครัวเรือนแล้ว

'รัชดา' เผยคืบหน้าจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วมแล้ว 1.2 แสนครัวเรือน ย้ำน้ำ-ไฟฟ้า-อินเตอร์เน็ตครอบคลุมพื้นที่ 100% เร่งบูรณาการทุกภาคส่วนจัดการขยะ พร้อมยืดเวลาส่งเงินสมทบประกันสังคมออกไป 6 เดือน

ต้องตีความ! อนุทินบอก 12 ธ.ค.คาดเข็มขัดนิรภัย​

นายกรัฐมนตรี ลั่น คาดเข็มขัดนิรภัย​ หลังสื่อถาม​ 12 ธ.ค.​ไม่มีอุบัติเหตุ​ทาง​การเมืองใช่หรือไม่​ ยกมือขึ้นมาโบกปฏิเสธ หลัง 'เพื่อไทย' ไม่ยื่นซักฟอกแล้ว บอกทำงานทุกวัน ยังไม่ได้คุย ย้ำอยู่ไม่เกิน 31 มค.