ส่งออกข้าวกระฉูด 8 เดือน 5.29 ล้านตันโตเฉียด 12%

กรมการค้าต่างประเทศเผยส่งออกข้าว 8 เดือน ปริมาณ 5.29 ล้านตัน เพิ่ม 11.91% คาดทั้งปี 8 ล้านตันมาแน่ เหตุออเดอร์เข้าต่อเนื่อง เผยฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซียและญี่ปุ่น สนใจซื้อข้าวไทยเพิ่ม ย้ำเคสอินเดียกระทบตลาดข้าวโลกบ้าง แต่ไม่มีปัญหาขาดแคลน แค่เพิ่มอำนาจต่อรอง หลังให้ใช้วิธีดิวตรง ล่าสุดขายให้แล้ว 3 ชาติ

1 ก.ย. 2566 – นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยในช่วง 7 เดือนของปี 2566 มีปริมาณ 4.64 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 13.45% มูลค่า 2,568 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.13% และคิดเป็นเงินบาทมูลค่า 87,417 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.45% แต่หากดูตัวเลขล่าสุดจากกรมศุลกากรและใบอนุญาตส่งออกข้าวของกรม ตั้งแต่ 1 ม.ค.-29 ส.ค.2566 การส่งออกมีปริมาณ 5.29 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 11.91% ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับผลบวกจากความกังวลเรื่องภัยแล้งจากปรากฎการณ์เอลนีโญ อินเดียห้ามส่งออกข้าวขาว ผลผลิตข้าวจีนลดลง หลายประเทศนำเข้าเพื่อความมั่นคงด้านอาหาร และค่าเงินบาทแข่งขันได้ ทำให้มั่นใจว่าทั้งปีจะส่งออกได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ 8 ล้านตัน เพราะที่ได้หารือกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ก็ยืนยันตรงกัน

สำหรับแนวโน้มการส่งออกข้าว คาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะมีความต้องการซื้อข้าวไทยเข้ามาเพิ่มมากขึ้น มีหลายประเทศที่ติดต่อและสนใจซื้อข้าวไทย โดยเฉพาะจากประเทศที่ไทยได้เดินทางไปเยือนกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าก่อนหน้านี้ ทั้งฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น รวมถึงประเทศอื่น ๆ โดยล่าสุดฟิลิปปินส์ ได้ติดต่อเข้ามาแล้ว น่าจะชัดเจนในเดือนก.ย.2566 อินโดนีเซีย มาเลเซีย ก็สนใจ ญี่ปุ่นยืนยันนำเข้าข้าวไทยต่อเนื่อง และขอให้ไทยส่งมอบข้าวคุณภาพและมาตรฐานตรงตามสัญญา

“ตอนที่นำคณะผู้ส่งออกเดินทางไปกระชับความสัมพันธ์กับคู่ค้า ทั้งฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น ได้สร้างความเชื่อมั่นว่าไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าว ข้าวมีเพียงพอ และจะยังส่งออกตามปกติ แม้ว่าอินเดียจะห้ามส่งออกข้าวขาว โดยยืนยันไม่กระทบกับการส่งออกข้าวของไทย ทุกคนสามารถที่จะขอซื้อข้าวจากไทยได้”นายรณรงค์กล่าว

นายรณรงค์กล่าวว่า กรณีอินเดียห้ามส่งออกข้าวขาว ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. ต่อมา 25 ส.ค. เก็บภาษีส่งออกข้าวนึ่ง 20% 26 ส.ค. กำหนดราคาส่งออกขั้นต่ำข้าวบาสมาติที่ 1,200 เหรียญสหรัฐต่อตัน เพื่อสกัดการส่งออกข้าวขาวที่ติดสลากและสำแดงเป็นข้าวบาสมาติ มองว่า มีผลกระทบต่อตลาดข้าวโลก ทำให้เกิดความกังวลและกระทบด้านราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องข้าวขาดแคลน เพราะอินเดียยังเปิดช่องให้มีการส่งออก โดยมีข้อยกเว้นให้กับประเทศที่จะซื้อข้าวเพื่อความมั่นคงด้านอาหารได้ ทำให้อินเดียมีอำนาจในการต่อรองมากขึ้น

ทั้งนี้ ล่าสุดสิงคโปร์ได้ติดต่ออินเดียเพื่อขอซื้อข้าวขาวแล้ว 1.1 แสนตัน ซึ่งรัฐบาลอินเดียได้อนุมัติขายเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ภูฏานขอซื้อ 9 หมื่นตัน ขายให้ 7.9 หมื่นตัน และเมอริเซียส ขอซื้อ 1.4 หมื่นตัน อินเดียก็ขายให้ และยังพบว่ามีประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศที่ติดต่อซื้อข้าวจากอินเดีย ส่วนไทย ก็มีโอกาสส่งออกได้เพิ่มขึ้น เพราะมีหลายประเทศสนใจซื้อข้าวไทย และแนวโน้มราคาก็ดีขึ้น อย่างราคาข้าวขาว 5% ณ วันที่ 29 ส.ค.2566 ขึ้นมาอยู่ที่ 620 เหรียญสหรัฐต่อตัน จากราคาเฉลี่ยของปี 2565 อยู่ที่ 437 เหรียญสหรัฐต่อตัน ของเวียดนาม 635 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งราคาเวียดนามแพงกว่าไทยแล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พณ. ต้อนรับเลขาฯพรรคคอมมิวนิสต์จีน กระชับความสัมพันธ์การค้า ความร่วมมือ EEC

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้การต้อนรับและหารือ นายอี้ เลี่ยนหง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์

พาณิชย์ - DITP ขน 8 ผู้ประกอบการภาพยนตร์ไทยบุกตลาดอเมริกา 

พาณิชย์ - DITP ขน 8 ผู้ประกอบการภาพยนตร์ไทยเข้าร่วมงาน AFM 2023 คาดสร้างรายได้กว่า 500 ล้านบาท  กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ขานรับนโยบายขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทย  คัดสรรผลงานเด่นจาก 8 บริษัทไทยเตรียมเข้าร่วมงาน American Film Market 2023 หนึ่งในตลาดซื้อขายภาพยนตร์ และคอนเทนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ เมืองซานตาโมนิก้า ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเวทีจับคู่เจรจาการค้า ระหว่างวันที่  31 ตุลาคม - 5 พฤศจิกายน 2566 คาดสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท  

‘พาณิชย์’ เผยส่งออกเป็นบวก 2 เดือนติด ชี้ ก.ย.มูลค่าพุ่ง 25,476.3 ล้านเหรียญสหรัฐ

นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือน ก.ย.2566 มีมูลค่า 25,476.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.1% เป็นบวกต่อเนื่อง 2 เดือนติดต่อกัน เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 888,666 ล้านบาท การนำเข้ามีมูลค่า 23,383.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 8.3% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 825,310 ล้านบาท ได้ดุลการค้ามูลค่า 2,092.7 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 63,355 ล้านบาท รวมการส่งออก 9 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-ก.ย.) มีมูลค่า 213,069.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 3.8% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 7,268,400 ล้านบาท นำเข้ามูลค่า 218,902.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 6% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 7,558,144 ล้านบาท ขาดดุลการค้า มูลค่า 5,832.7 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 289,400 ล้านบาท

พาณิชย์เผยยอดใช้สิทธิ FTA  7 เดือนมูลค่า 4.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

กรมการค้าต่างประเทศเผยตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง FTA ในเดือนมกราคม – กรกฎาคม ของปี 2566 มีมูลค่ารวม 46,183.48 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับอาเซียนยังครองแชมป์ตลาดที่มีการใช้สิทธิฯ ส่งออกมากที่สุด ตามติดมาด้วยอาเซียน-จีน ไทย-ญี่ปุ่น ไทย-ออสเตรเลีย อาเซียน-อินเดีย และภายใต้ RCEP มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ รวม 810.35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศแนะผู้ส่งออกไทยใช้ประโยชน์จาก FTA เป็นเครื่องมือสร้างแต้มต่อทางการค้า

พาณิชย์หารือแพลตฟอร์มขอความร่วมมือให้สิทธิพิเศษแก่ร้านอาหารธงฟ้า

กรมการค้าภายในเตรียมหารือแพลตฟอร์มส่งอาหาร ขอความร่วมมือให้สิทธิพิเศษแก่ร้านอาหารธงฟ้า เพื่อช่วยร้านอาหารมีช่องทางการจำหน่าย และผู้บริโภคมีทางเลือกในการบริโภคอาหารราคาประหยัด พร้อมเดินหน้าตรวจสอบ ติดตามการปรับลดราคาสินค้าทั้งประเทศ ลดจริงหรือไม่ ล่าสุดตรวจโรงพยาบาล พบ 112 แห่งลดให้จริง รวมถึงศูนย์บริการรถยนต์ ห้าง ที่ปรับลดราคาตามที่ได้แจ้งไว้

สนค. เผยปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามจากภัยแล้ง

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยแล้ง ที่อาจทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566