'แท็กซี่' บุกคมนาคมทวงสัญญาขึ้นค่าโดยสาร 25%

“แท็กซี่”บุก “คมนาคม”ทวงสัญญา ขึ้นค่าโดยสาร 25%ด้านคมนาคมรับหนังสือ หาแนวทางช่วยเหลือเยียวยาต่อไป

8 ก.ย. 2566 – นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และนายกสมาคมการค้าเครือข่ายแท็กซี่ไทย เปิดเผยว่า กลุ่มเครือข่าย และสมาคมฯ เดินทางมาที่กระทรวงคมนาคมยื่นหนังสือถึง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงคมนาคม เรื่องขอให้ช่วยเหลือผู้ประกอบการและผู้ประกอบอาชีพแท็กซี่ พร้อมแสดงความยินดีในโอกาสเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่

“ที่ผ่านรถแท็กซี่ถูกละเลยและได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สิ่งต้องการมายื่นหนังสือเพื่อรับทราบปัญหา พร้อมยืนยันว่าการไม่ยื่นหนังสือในวันนี้ (7 ก.ย.) ไม่ได้เป็นการกดดันแต่ขอให้ช่วยแท็กซี่ในฐานะคนที่หาเช้ากินค่ำแต่หากวันนี้ไม่พร้อมให้เข้าพบ ก็ขอให้นัดมาพบในวันหลังก็ได้ แต่ขอให้ระวังม็อบแท็กซี่ เพราะผมเองสามารถนำม็อบแท็กซี่มาปิด 8 กระทรวงได้ภายในไม่กี่นาที” นายวิฑูรย์ กล่าว

สำหรับปัญหาเร่งด่วนขณะนี้คือเรื่องของค่าโดยสารรัฐบาลที่แล้วหากรวมระยะเวลา 9 ปี จะต้องปรับค่าโดยสารประมาณ 25% แต่รัฐบาลที่แล้วไม่สามารถปรับราคาให้ได้ เนื่องจากกังวลว่าจะกระทบกับประชาชน จึงปรับค่าโดยสารขึ้นเพียง 7% ซึ่งหากจะใช้ตัวเลขเดิมก็อาจจะต้องมีการศึกษาและพิจารณาร่วมกันใหม่ขณะเดียวกันต้นทุนการประกอบการเดินรถทั้งต้นทุนเชื้อเพลิงมีมากกว่า 100% นำไปสู่การปฏิเสธผู้โดยสาร พร้อมขอให้ลดราคาค่าพลังงานเพื่อไม่ต้องปรับค่าโดยสาร

นอกจากนี้ ยังมั่นใจว่าหากมีการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารให้กับคนขับรถแท็กซี่จะทำให้ชั่วโมงในการขับรถลดลงเช่นจาก 14 ชั่วโมงจะเหลือเพียง 11-12 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนี้ขอให้พัฒนาแท็กซี่ โดยเฉพาะแท็กซี่ที่เป็น พลังงานไฟฟ้าโดยพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ

ด้าน นายสรพงษ์ ไพฑูรย์ พงศ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลัง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มอบหมายให้เป็นตัวแทนรับหนังสือฯ ว่า กระทรวงฯ เตรียมตั้งคณะกรรมการสองฝ่ายแก้ปัญหาแท็กซี่ โดยมีกรมการขนส่งทางบกเป็นเจ้าภาพ รวมถึงการลงทะเบียนเพื่อช่วยเหลือด้านพลังงาน จะหารือกับกระทรวงพลังงานเพื่อหามาตรการเยียวยา รวมถึงจะเร่งนำประเด็นปัญหาทั้งหมดเสนอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อหามาตรการในการช่วยเหลือต่อไป

อย่างไรก็ตามส่วนกรณีการปฏิเสธผู้โดยสารที่ผ่านมาหลักเกณฑ์ในการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารที่แท็กซี่ขอมา 25% แต่คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางให้ขึ้นเพียง 7% เนื่องจากพิจารณาตามค่าราคาพลังงาน ขณะเดียวกันพบว่าข้อร้องเรียนในการให้บริการสถิติจำนวนการปฏิเสธผู้โดยสารหากไม่ลดลง จะไม่ปรับขึ้นค่าโดยสารให้รวมถึงในอนาคตมีแผนที่จะดูแลแท็กซี่อยากให้มีการอบรมเช่นเรื่องของการใช้ภาษา

“ส่วนของกรณีรถป้ายดำที่ให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น แต่ไม่ได้มาลงทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก จะมีการหารือร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในเรื่องกฎหมายการดูแลการให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น” นายสรพงษ์ กล่าว