กรมพัฒนาธุรกิจฯ เปิดระบบ e-PCL เฟส 2 พร้อมให้บริการเต็มรูปแบบ 100% 

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พัฒนาระบบการจดทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัดทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration For Public Company Limited : e-PCL) เฟส 2 เดินหน้าให้บริการเต็มรูปแบบ 100% อำนวยความสะดวกภาคธุรกิจ ลดรายจ่าย เพิ่มความเข้มแข็งภาคธุรกิจ

29 ธ.ค. 2566 – นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ระบบจดทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัดทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration For Public Company Limited : e-PCL) เป็นระบบการจดทะเบียนที่ช่วยเพิ่มช่องทางการจดทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัด ให้มีความสะดวก รวดเร็วขึ้น เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้งานโดยการกรอกข้อมูล พร้อมแนบไฟล์เอกสารประกอบการจดทะเบียนผ่านระบบได้ครบ กรรมการผู้ขอจดทะเบียนสามารถลงลายมือชื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่าน Mobile App DBD e-PCL ชำระค่าธรรมเนียม รวมถึงการขอรับหนังสือรับรอง ใบสำคัญการจดทะเบียน ใบเสร็จรับเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์จบในทันที ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยเริ่มเปิดใช้งานเฟสแรกเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้ลงทะเบียนใช้บริการแล้วกว่า 3,000 ราย ก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในเฟส 2 

ทั้งนี้ก่อนการเปิดใช้งานระบบจดทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัดทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration For Public Company Limited : e-PCL) เฟส 2 กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เร่งพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพเพื่อรองรับผู้ใช้บริการที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในอนาคตจะมีการพัฒนาระบบเพิ่มเติมด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) /สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) /บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้นตอบสนองภาคธุรกิจได้อย่างเต็มที่ต่อไป ซึ่งสอดรับตามนโยบาย Quick Win ของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญต่อการสร้างความเข้มแข็งและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการทุกระดับ

อธิบดี กล่าวต่อว่า สำหรับการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีเงื่อนไขเพิ่มเติมที่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติม อาทิ บริษัทมหาชนที่อยู่ภายใต้กำกับดูแลของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องซึ่งต้องได้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการจดทะเบียน (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) /สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) 

บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มี บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) เป็นนายทะเบียนหุ้น ซึ่งมีหน้าที่ส่งหนังสือเชิญประชุมให้แก่ผู้ถือหุ้นและนายทะเบียน รวมถึงดำเนินการจัดทำแบบบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (แบบ บมจ.006) เพื่อประกอบการจดทะเบียน การพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้มีความทันสมัยและทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจมีความคล่องตัว จะเป็นการเชื่อมโยงของเศรษฐกิจกระแสใหม่ในการขับเคลื่อนประเทศ เพื่อพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถของธุรกิจ ตลอดจนเป็นการเอื้อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างความคิดสร้างสรรค์และการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ อธิบดี กล่าวสรุป

ปัจจุบัน มีบริษัทมหาชนจำกัดที่อยู่ในฐานข้อมูลธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจำนวน 1,416 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียนรวมกว่า 5.5 ล้านล้านบาท

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ต่างชาติขนเงินลงทุนในไทย 3.5 หมื่นล้าน ญี่ปุ่นยังเป็นอันดับ 1

พาณิชย์โชว์ไตรมาสแรกปี 2567 ต่างชาติลงทุนในไทย 35,902 ล้านบาท ญี่ปุ่นลงทุนอันดับหนึ่ง 19,006 ล้านบาท ตามด้วย สิงคโปร์ 3,294 ล้านบาท และฝรั่งเศส 3,236 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 849 คน

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าหนุนธุรกิจแฟรนไชส์เร่งสร้างมาตรฐาน

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตรียมอัปเกรดผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ เร่งสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์ให้มีศักยภาพพร้อมสร้างเครือข่ายกับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศในการขยายตลาด ตลอดจนสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศเพิ่มขึ้น เปิดรับสมัครผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ที่สนใจเข้าร่วมโครงการยกระดับมาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise Standard) ประจำปี 2567 ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 13 มีนาคม 2567

พาณิชย์ โชว์ ม.ค. ต่างชาติลงทุนในไทย 7,171 ล้าน

เบิกฤกษ์..มกราคม 2567 ต่างชาติลงทุนในไทย 7,171 ล้านบาทญี่ปุ่นลงทุนอันดับหนึ่ง 3,793 ล้านบาท ตามด้วย สิงคโปร์ 1,083 ล้านบาท และจีน 768 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 172 คน

พาณิชย์เผยปี 66 ต่างชาติขนเงินลงทุนไทย 1.27 แสนล้าน ญี่ปุ่นเบอร์ 1

ปี 2566 ต่างชาติลงทุนในไทย 127,532 ล้านบาท ญี่ปุ่นลงทุนอันดับหนึ่ง 32,148 ล้านบาท ตามด้วย สิงคโปร์ 25,405 ล้านบาท และฮ่องกง 17,325 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 6,845 คน

กรมพัฒนาธุรกิจฯ เผยธุรกิจตั้งใหม่ปี 66 สูงที่สุดในรอบ 10 ปี ต่างชาติขนเงินเข้าไทย 1.3 แสนล้าน

นักลงทุนไทยแห่จัดตั้งธุรกิจใหม่ ทะลุ 8.5 หมื่นราย ทุนจดทะเบียนรวมกว่า 5.6 แสนล้านบาท ขณะที่ต่างชาติหอบเงินลงทุนเข้าไทย แตะ 1.3 แสนล้านบาท ญี่ปุ่นนำโด่งเบอร์ 1คาด!! ปี 2567 เศรษฐกิจไทยโตต่อเนื่อง ปัจจัยบวกสนับสนุนให้ไทย-เทศเดินหน้าลงทุนเพิ่ม