เริ่มแล้ว พักหนี้-ปลดหนี้ SMEs โดย บสย. ลงทะเบียน 1 ม.ค. เป็นต้นไป

ชัย
นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

2 ม.ค.2567- นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายในการแก้ปัญหาหนี้ทั้งระบบอย่างจริงจังและให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วนั้น ล่าสุดในส่วนของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) โดยคณะกรรมการ บสย. ได้มีมติอนุมัติดำเนินโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ตามที่ บสย. เสนอ รวม 2 โครงการ คือ 1. มาตรการพักหนี้ ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ระยะเวลาดำเนินโครงการ 18 เดือน เริ่ม 1 ม.ค. 2567 – 30 มิ.ย. 2568) ตามเงื่อนไข ดังนี้

เป็นลูกหนี้ SMEs รหัส 21 (รหัสสถานะบัญชี 21 สำหรับลูกหนี้ค้างชำระเกิน 90 วันจากผลกระทบโควิด 2019 หรือ NPL) (ณ 31 ธันวาคม 2566) ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ที่มีวงเงินสัญญาไม่เกิน 10 ล้านบาท

เป็นลูกหนี้ บสย. ที่เข้าร่วมโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และเข้าร่วม มาตรการ “บสย.พร้อมช่วย” และปฏิบัติตามเงื่อนไขเป็นระยะเวลา 3 เดือน สามารถพักชำระค่างวด 1 ปี (ไม่เกิน มิ.ย. 2568)

ภายหลังครบกำหนดพักชำระหนี้ ให้ชำระค่างวดตามแผนปรับโครงสร้างหนี้เดิม

คาดว่าจะสามารถช่วยลูกหนี้เข้าร่วมโครงการและกลับเข้าสู่ระบบได้ประมาณ 64,000 ราย โดยระยะเวลาการพักชำระหนี้ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการยื่นความจำนงของลูกหนี้ (ระยะเวลารวม 18 เดือน และต้องผ่อนชำระต่อเนื่อง 3 เดือน)

เปิดลงทะเบียน 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป ผ่านช่องทาง Line Official Account @tcgfirst และสำนักงานเขต บสย. ทั่วประเทศ

  1. ต่อยอดมาตรการ 3 สี “ปลดหนี้” มาตรการสีฟ้า ลดเงินต้น 15% (ระยะเวลา 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2567)

สำหรับลูกหนี้ บสย. ที่เข้าร่วมโครงการ “บสย. พร้อมช่วย” ปรับโครงสร้างหนี้ บสย. เข้ามาตรการ 3 สี ในกลุ่มสีเขียว และเข้ามาตรการสีฟ้า (มาตรการ 3 สี ม่วง เหลือง เขียว )

เป็นลูกหนี้ บสย. กลุ่มสีเขียว ที่มีประวัติการชำระดีต่อเนื่อง 3 เดือนและต้องการ “ปลดหนี้” บสย. ช่วยลูกหนี้ ตัวเบายิ่งขึ้น บสย. ลดเงินต้น 15% โดยต้องปลดหนี้ ภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับอนุมัติ

โครงการต่อยอดมาตรการสีฟ้า ปลดหนี้ ลดเงินต้น 15% (ม่วง เหลือง เขียว และ ฟ้า) เป็นโครงการเพิ่มเติมต่อจากมาตรการ 3 สี สำหรับลูกหนี้ กลุ่มสีเขียว ผ่อนดี 3 งวดต่อเนื่องที่ต้องการปลดหนี้ โดยสามารถยื่นความประสงค์ขอเข้ามาตรการสีฟ้า ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป ระยะเวลาดำเนินโครงการ 6 เดือน สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2567 คาดว่าจะช่วยลูกหนี้ กลุ่มไมโคร หรือรายย่อย กลับเข้าสู่ระบบได้เร็วขึ้น คาดว่าจะช่วยแก้หนี้ ปลดหนี้ ได้ประมาณ 5,000 ราย

“ลูกหนี้ที่ต้องการขอรับคำปรึกษาเรื่องแก้หนี้ ปลดหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ สามารถขอรับคำปรึกษาฟรี ได้ที่ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs หรือ บสย. F.A.Center หรือลงทะเบียนขอรับคำปรึกษาฟรี ที่ Line Official Account @tcgfirst” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอชัย' โนคอมเมนต์ นายกฯ ทาบ 'จักรพล' นั่งโฆษกรัฐบาล

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวที่นายกรัฐมนตรีทาบทามนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง

รัฐบาลตีปี๊บ ประกวด 'ข้าวหอมมะลิไทย' ช่วยยกคุณภาพชีวิตเกษตรกร

รัฐบาลหนุนเกษตรกรและโรงสี จัดประกวดข้าวหอมมะลิไทยปี 2566 เฟ้นหาและอนุรักษ์พันธุ์ข้าวไทยคุณภาพชั้นเลิศ พร้อมขยายช่องทางการจำหน่าย

โฆษกรัฐบาล โต้ยิบข้อครหาเงินดิจิทัลเอื้อเจ้าสัว หลังครม.เห็นชอบหลักการ

นายชัย​ วัชรงค์​ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุมครม. มีการขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ภายหลังจากที่มีการประชุมหารือไปหลายรอบสุดท้ายได้ข้อสรุปเป็นหลักการ ของโครงการเงื่อนไขผู้ที่ได้รับ 50 ล้านคน​ อายุ 16 ปีขึ้นไป​ มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน และมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 840,000 บาท​

'หมอชัย' สยบข่าวเปลี่ยนตัวโฆษกรัฐบาล ยันนายกฯไม่ส่งสัญญาณ

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรับเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงโฆษกรัฐบาล ว่า ไม่มีนะ ตนไม่เคยได้ยินข่าว และขอย้ำว่าไม่มีตนกองเชียร์ไม่เยอะ

รัฐบาลแนะผู้ประกอบการไทยปรับตัว ปฏิบัติตามกฎตลาดโลก

รัฐบาลเสริมความเข้มแข็งสินค้าไทย ให้เท่าทันกฎระเบียบของทุกตลาด แนะผู้ประกอบการปรับตัว หลังสเปนจ่อออกกฎใหม่ เครื่องดื่มพสาสติกต้องใช้ฝาแแบยึดกับขวด

ผู้ผลิตแบตเตอรี่ระดับโลกจีน ตอบรับลงทุนไทย คาดร่วมตั้งฐานผลิตมูลค่า 3 หมื่นล้าน

โฆษกรัฐบาล เผย ผู้ผลิตแบตเตอรี่ระดับโลกจากจีนตอบรับมาตรการส่งเสริมการลงทุนไทย คาดร่วมตั้งฐานการผลิตมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านในไทยภายในปี 2567