จีนเผยเป้าหมาย GDP ปี 2567 โต 5% ขาดดุลการคลังที่ 3%

ประชุมสองสภาฯ จีนปี 2567 ตั้งเป้า GDP โต 5.0% ในขณะที่เป้าหมายขาดดุลการคลังไม่เปลี่ยนแปลงที่ 3.0%

จีนตั้งเป้าหมายเศรษฐกิจปี 2567 ใกล้เคียงกับปีก่อน

5 มี.ค. 2567 – ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า จีนเริ่มต้นประชุมสำคัญของปี 2567 โดยประกาศเป้าหมายตัวเลขทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ การประชุมสองสภาของจีนปี 67 จะเริ่มต้นและสิ้นสุดลงในช่วง 4-11 มี.ค. 2567 โดยการประชุมจะประกอบไปด้วยการประชุมสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งชาติ (CPPCC) (4 -10 มี.ค. 67) และ การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) (5-11 มี.ค.67) ในการประชุมฯ ได้ประกาศตัวเลขเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 5% ตามตลาดคาดการณ์และเป็นไปตามที่ได้มีการระบุในการประชุมงานเศรษฐกิจส่วนกลาง (Central Economic Work Conference) และเท่ากับในปีก่อน ขณะที่ตัวเลขขาดดุลงบประมาณของจีนตั้งเป้าไว้ที่ 3%

ในปี 2567 เป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนที่ประมาณ 5% ยังมีความท้าทายจากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่คลี่คลาย ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าปี 2567 เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มเติบโตได้ที่ 4.5%  ซึ่งคาดว่าทางการจีนจะยังคงดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางเงินและการคลังเพิ่มเติมเพื่อช่วยหนุนเศรษฐกิจ โดยจากเป้าหมายตัวเลขขาดดุลงบประมาณที่ 3% คาดจีนจะยังคงยืนยันจุดยืนที่จะไม่มีมาตรการขนาดใหญ่ (Bazooka Policy) แต่จะเน้นเป็นมาตรการที่แก้ไขเฉพาะจุด (Targeted Policy)

ติดตามแนวทางการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยอุตสาหกรรมใหม่ๆ  โดยคาดว่าจีนจะมีการขยายความคำว่า “New Productive Forces” หรือผลิตภาพขั้นสูงที่เป็นอิสระจากรูปแบบการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบดั้งเดิม  ที่มีการพูดถึงครั้งแรกในเดือน ก.ย. 66 ซึ่งจะเป็นอุตสาหกรรมที่นอกเหนือไปจากอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียน  ถือเป็นอีกประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาในการประชุมครั้งนี้ถึงแนวทางการดำเนินนโยบายต่างๆ เพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมเหล่านี้

ทิศทางการดำเนินนโยบายต่างประเทศคาดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่ความขัดแย้งกับสหรัฐฯ และไต้หวันคาดว่าจะยังไม่ทวีความรุนแรง ในการประชุมครั้งนี้คาดว่าจะมีการแต่งตั้งนายหลิว เจียนเฉา ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประสานงานด้านต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศคนใหม่ ซึ่งในช่วงต้นปี 67 นายหลิว เจียนเฉาได้เข้าพบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ โดยมีการแสดงท่าทีผลักดันให้ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ พัฒนาด้วยดีอย่างมั่นคงและยั่งยืน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศูนย์วิจัยกสิกร คาดดิจิทัลวอลเล็ต ดันยอดขายค้าปลีกโต 1%

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยแพร่บทวิเคราะห์ โครงการ Digital Wallet โดยชี้ จะส่งผลต่อยอดค้าปลีกมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับหลายเงื่อนไข ไม่ว่าจะเป็น การกำหนดพื้นที่ และประเภทร้านค้า นอกเหนือจากประเด็นทางด้านกฎหมาย รวมถึงระบบใช้งานของแอปพลิเคชัน ที่ยังต้องรอติดตามว่า จะใช้ที่ไหน อย่างไร? ซึ่งการกำหนดเงื่อนไขต่างๆ อาจส่งผลต่อร้านค้าปลีก และพฤติกรรมการใช้เงินของผู้บริโภคที่ต่างกัน ดังนี้