รฟท.ลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ 2 เส้นทางวงเงิน 1.2 แสนล้าน

การรถไฟฯ ได้ฤกษ์ลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการรถไฟสายใหม่ 2 เส้นทาง สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ยืนยันดำเนินการด้วยความโปร่งใส ปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมายอย่างครบถ้วน

30 ธันวาคม 2564 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)เปิดเผยว่า ได้ร่วมลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางรถไฟ 2 เส้นทาง ประกอบด้วย สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม กับผู้รับจ้าง รวมทั้งสิ้น 5 สัญญา วงเงินกว่า 128,236 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพและพัฒนาระบบการขนส่งทางรางของประเทศ พร้อมมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทย โดยดำเนินการด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี ระเบียบข้อบังคับในการจัดซื้อจัดจ้างหน่วยงานภาครัฐ ตลอดจนมีการลงนามข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) อย่างครบถ้วน

สำหรับโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ การรถไฟฯ ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 ซึ่งได้เห็นชอบให้ดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กิโลเมตร วงเงินรวมทั้งสิ้น 72,921 ล้านบาท และได้มีการใช้วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-bidding ตามระเบียบข้อบังคับของการรถไฟฯ และระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ของกรมกระทรวงการคลัง ตลอดจนมีการลงนามข้อตกลงคุณธรรม ความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ระหว่างการรถไฟฯ ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ ผู้ประกอบการ และผู้สังเกตการณ์ ในสัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว โดยมีรายละเอียดการลงนามสัญญาจ้างก่อสร้าง 3 สัญญา ประกอบด้วย

สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว กิจการร่วมค้า ไอทีดี-เนาวรัตน์ ประกอบด้วย บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว วงเงินค่าจ้างทั้งสิ้น 26,560 ล้านบาทซึ่งรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%แล้ว โดยงานประกอบด้วยงานก่อสร้างทางรถไฟระดับพื้นดินและทางรถไฟยกระดับ รวมระยะทางประมาณ 103 กม. มีสถานี 5 สถานี ป้ายหยุดรถ 2 แห่ง อุโมงค์รถไฟ 2 แห่ง และงานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม และงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย กิจการร่วมค้า ซีเคเอสที-ดีซี2 ประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท บุรีรัมย์พนาสิทธิ์ จำกัด เป็นผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญาที่ 2 ช่วงงาว – เชียงราย วงเงินค่าจ้างทั้งสิ้น 26,890 ล้านบาท ซึ่งรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% แล้ว โดยงานประกอบด้วยงานก่อสร้างทางรถไฟระดับพื้นดินและทางรถไฟยกระดับ รวมระยะทางประมาณ 132 กม. มีสถานี 4 สถานี ป้ายหยุดรถ 8 แห่ง อุโมงค์รถไฟ 1 แห่ง และงานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม และงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

สัญญาที่ 3 เชียงราย-เชียงของ กิจการร่วมค้า ซีเคเอสที-ดีซี3 ประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท เชียงใหม่คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญาที่ 3 ช่วงเชียงราย-เชียงของ วงเงินค่าจ้างทั้งสิ้น 19,385 ล้านบาท ซึ่งรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%แล้ว โดยงานประกอบด้วยงานก่อสร้างทางรถไฟระดับพื้นดินและทางรถไฟยกระดับ รวมระยะทางประมาณ 87 กม. มีสถานี 3 สถานี ป้ายหยุดรถ 3 แห่ง อุโมงค์รถไฟ 1 แห่ง และงานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม และงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ในส่วนโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ได้ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี เมื่อ 28 พฤษภาคม 2562 เป็นโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ ผ่านพื้นที่ทั้งหมด 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด, ยโสธร, มุกดาหาร และนครพนม ระยะทางรวม 355 กิโลเมตร วงเงิน 66,848.33 ล้านบาท ซึ่งการรถไฟฯ ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบข้อบังคับของการรถไฟฯ และระเบียบข้อบังคับของกรมบัญชีกลางในการจัดซื้อจัดจ้างอย่างครบถ้วนเช่นกัน โดยมีรายละเอียดการลงนามสัญญาจ้างก่อสร้าง 2 สัญญา ประกอบด้วย

สัญญาที่ 1 บ้านไผ่-หนองพอก กิจการร่วมค้า เอเอส-ช.ทวี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ ประกอบด้วย บริษัท เอ.เอส. แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด บริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด บริษัท กิจการร่วมค้า ทีบีทีซี จำกัด บริษัท เสริมสงวนก่อสร้าง จำกัด และบริษัท เค.เอส.ร่วมค้า จำกัด เป็นผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านไผ่-หนองพอก วงเงินค่าจ้างทั้งสิ้น 27,095 ล้านบาท ซึ่งรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%แล้ว โดยงานประกอบด้วยงานก่อสร้างทางรถไฟระดับพื้นดินและทางรถไฟยกระดับ รวมระยะทางประมาณ 180 กม. มีสถานี 10 สถานี และงานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม และงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

สัญญาที่ 2 หนองพอก-สะพานมิตรภาพ 3 กิจการร่วมค้า ยูนิค ประกอบด้วย บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท พี.ซีอีที จำกัด บริษัท ไทยพีค่อนและอุตสาหกรรม จำกัด และบริษัท วัชรขจร จำกัด เป็นผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม สัญญาที่ 2 ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพ 3 วงเงินค่าจ้างทั้งสิ้น 28,306 ล้านบาทซึ่งรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 %แล้ว โดยงานประกอบด้วยงานก่อสร้างทางรถไฟระดับพื้นดินและทางรถไฟยกระดับ รวมระยะทางประมาณ 175 กม. มีสถานี 9 สถานี และงานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม และงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างรถไฟสายใหม่ 2 เส้นทาง ทั้งสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ถือเป็นเส้นทางสำคัญที่ช่วยพัฒนาศักยภาพระบบการขนส่งทางรางของประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้สามารถรองรับการขยายตัวของการค้าชายแดนและผ่านแดน ตลอดจนเชื่อมโยงกับพื้นที่เศรษฐกิจอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขงที่กำลังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ.2558-2565

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รมว.ยธ.' การันตี! ไม่จุ้นคดี 'เขากระโดง-ฮั้ว สว.' ปล่อยหน่วยรับผิดชอบทำไป

'รุทธพล' ประเดิมคุม ยธ. วันแรก ยันไม่แทรกแซงคดีเขากระโดง-ฮั้ว สว. ปล่อยหน่วยงานรับผิดชอบทำต่อไป เผยหลังแถลงนโยบาย เดินหน้าเต็มสูบปราบพนันออนไลน์-ยาเสพติด

เปิดเอกสาร การรถไฟ ฯยื่นแบบ ส.ค.1 ปี 2498 อ้างสิทธิครอบครองที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่ พิรุธพรฎ.ไม่ระบุวัน เดือน ปี

ผู้สื่อข่าวรายงาน ได้มีการเผยแพร่เอกสาร “แบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1)” เลขที่ 1180 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 27

'ภูมิธรรม' โต้กลับ! มีแต่นิติบุคคลโวย 'เขากระโดง' ปรามทนายบุรีรัมย์สุภาพหน่อย

'ภูมิธรรม' มั่นใจ รฟท. ยึด 'พ.ร.ฎ.-แผนที่' แนบท้ายเขากระโดง ชาวบ้านเสียหายเรียกร้องสิทธิได้ตามกฎหมาย แต่เห็นมีแต่นิติบุคคลออกมาโวย ยันสั่งเพิกถอนไม่เกี่ยวกับตนเอง ปรามทนายบุรีรัมย์สุภาพหน่อย

DSI เร่งสางคดีเขากระโดง สั่ง 4 หน่วยส่งข้อมูล 15 วัน ก่อนลุยพื้นที่จริง

'ดีเอสไอ' เร่งสอบพิพาทที่ดินเขากระโดง หลังศาลฎีกาตัดสินเป็นของ รฟท. ลุยตรวจโฉนด-ฟอกเงิน หลังพบนิติบุคคลครอบครองกว่าพันไร่ ประสาน 4 หน่วยงานส่งข้อมูลใน 15 วัน จ่อลงพื้นที่สอบผู้เกี่ยวข้อง

ศาลปกครอง มีคำสั่งคุ้มครองที่ดิน 995 ฉบับ และแปลงอื่นๆในพื้นที่เขากระโดง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ ศาลปกครองกลาง ได้มีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ 395/2568 ลงวันที่ 27 พ.ค.2568 ซึ่งเป็นคดีที่การรถไฟแห่งประเทศไท