ก.ล.ต. ฟัน 2 ผู้บริหารโบรกฯ ส่งท้ายปี

ก.ล.ต. ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์จำนวน 2 ราย กรณีปฏิบัติไม่เป็นไปตามกฎหมาย

30 ธ.ค. 2564 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ดำเนินการทางกฎหมายโดย (1) สั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนรายนางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ (นางภัทธีรา) เนื่องจาก มีการละเลยการตรวจสอบดูแลระบบงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน การควบคุม และการบริหารความเสี่ยงของธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เป็นไปตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ และประกาศที่ออกโดยอาศัยอำนาจแห่งกฎหมาย และ (2) ห้ามนางสาววิภา เลิศเธียรชัยกุล (นางสาววิภา) ปฏิบัติหน้าที่บุคลากรในธุรกิจตลาดทุน เนื่องจากไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบและรอบคอบเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ

ด้วย ก.ล.ต. ได้เข้าตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ในเดือนมิถุนายน 2562 จากเหตุการณ์ MSCI ปรับเกณฑ์การคำนวณ MSCI Index ในเดือนพฤษภาคม 2562  ซึ่งทำให้มีปริมาณซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์จำนวนมากส่งผ่านบริษัทในวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 และบริษัทไม่สามารถชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์จำนวนมากได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด อันส่งผลกระทบต่อผู้ลงทุนโดยรวม รวมทั้งส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NC) ได้ตามที่กฎหมายกำหนด และจากการตรวจสอบดังกล่าว พบว่า นางภัทธีราและนางสาววิภา มีการกระทำดังนี้ 

(1) นางภัทธีรา ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัท มีการละเลยการตรวจสอบดูแลระบบงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน การควบคุม และการบริหารความเสี่ยงของธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์* โดยมิได้มีการเตรียมระบบงาน บุคลากร และเงินกองทุนรองรับปริมาณคำสั่งซื้อขายของลูกค้าที่จะเข้ามาจำนวนมากจากกรณี MSCI rebalancing จนส่งผลกระทบทำให้บริษัทไม่สามารถชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ได้ รวมทั้งไม่สามารถดำรง NC ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และเมื่อบริษัทไม่สามารถดำรง NC ได้ นางภัทธีราก็ไม่ได้สั่งการให้บริษัทหยุดขยายและระงับการประกอบธุรกิจ ซึ่งเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เป็นไปตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ และประกาศที่ออกโดยอาศัยอำนาจแห่งกฎหมายดังกล่าว** ซึ่งการกระทำดังกล่าวข้างต้นเป็นลักษณะต้องห้ามของการเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ก.ล.ต.จึงสั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นกรรมการ (มีอำนาจจัดการ) และผู้จัดการ ตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ และกรรมการ (มีอำนาจจัดการ) ตาม พ.ร.บ. สัญญาซื้อขายล่วงหน้า และนักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ของนางภัทธีรา เป็นเวลา 1 ปี 18 เดือน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2564  นอกจากนี้ การที่นางภัทธีราถูกสั่งพักการให้ความเห็นชอบดังกล่าว เป็นผลให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนอื่นอีกด้วย

(2) นางสาววิภา ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบต่อความถูกต้องในการจัดทำรายงาน NC ของบริษัท ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบและรอบคอบเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ*** โดยให้มีการบันทึกรายการเงินสดในการคำนวณ NC โดยไม่มีข้อมูลหรือเอกสารหลักฐานอ้างอิง และได้ยื่นรายงาน NC ที่มีข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงต่อ ก.ล.ต. ทำให้ ก.ล.ต. เข้าใจผิดว่า NC ของบริษัทเป็นไปตามที่ประกาศกำหนดและสามารถอนุญาตให้บริษัทดำเนินธุรกิจต่อไปได้  ซึ่งการกระทำดังกล่าวข้างต้นเป็นลักษณะต้องห้ามของการเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ก.ล.ต. จึงห้ามนางสาววิภาปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน เป็นเวลา 18 เดือน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2564  นอกจากนี้ การที่นางสาววิภาถูกห้ามปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว เป็นผลให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนอื่นอีกด้วย

การกระทำของบุคคลทั้ง 2 ข้างต้นเป็นเหตุให้บริษัทฝ่าฝืนมาตรา 97 มาตรา 109 มาตรา 113 และมาตรา 141 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ซึ่งคณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งเปรียบเทียบปรับบริษัทไปแล้ว โดยปรับบริษัทเป็นจำนวนเงิน 1,271,000 บาท เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2563 โดยบุคคลทั้ง 2 ยังมีความผิดตามมาตรา 283 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะเสนอคณะกรรมการเปรียบเทียบพิจารณาเปรียบเทียบความผิดต่อไป  

ทั้งนี้ ในการดำเนินการข้างต้น ก.ล.ต. ได้นำปัจจัยดังต่อไปนี้มาใช้ประกอบการพิจารณาของ ก.ล.ต. ด้วย ได้แก่ บทบาทความเกี่ยวข้องและพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกพิจารณา การลงโทษที่บุคคลนั้นได้รับไปแล้ว ผลกระทบ ความเสียหายหรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขหรือการดำเนินการอื่นที่เป็นประโยชน์หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของ ก.ล.ต. และประวัติหรือพฤติกรรมในอดีตอื่นใดที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บุญถาวร ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. ขาย IPO ไม่เกิน 320 ล้านหุ้น

BOON ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขาย IPO ไม่เกิน 320 ล้านหุ้น เดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจ ชูศักยภาพผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจร

ก.ล.ต. เผยสถิติหลอกลงทุนผ่านช่องทางสื่อโซเชียล ทะลุ 202 เคส ช่องทางเฟซบุ๊กมากที่สุด

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดสถิติการแจ้งเบาะแสผ่าน “สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน” โดยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเบาะแสหลอกลงทุนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ รวมทั้งสิ้น 202 บัญชี และปัจจุบันดำเนินการปิดกั้นช่องทางหลอกลวงดังกล่าวไปแล้ว 175 บัญชี คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 86 ของจำนวนบัญชีที่ได้รับแจ้งทั้งหมด

‘รัฐบาล - ก.ล.ต.’ ยกระดับหน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล

“รัฐบาล-ก.ล.ต.” ประกาศความสำเร็จ “ยกระดับหน่วยงานเชี่ยวชาญเฉพาะกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล” ตั้งเป้าไทยเป็นศูนย์กลางระดมทุนในภูมิภาค

'เศรษฐา' ร่ายยาวปลุกตลาดทุนไทย

'เศรษฐา' ปลุกดึงศักยภาพ เสริมแกร่งตลาดทุนไทยระยะยาว เดินหน้าตอบโจทย์ความท้าทาย ด้านดิจิทัล ชูโปรเจกต์ Thailand ESG Fund วาง 3 แนวทางสู่ดัชนีความยั่งยืน