นายกฯ โอ่ไตรมาส 4 เศรษฐกิจดีขึ้นมากแน่!

นายกฯ เรียกคลังถกมาตรการจัดเก็บรายได้ มั่นใจไตรมาส 4 เศรษฐกิจดีขึ้นมากแน่นอน

05 มิ.ย.2567 - นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าปฏิบัติงานตามปกติที่ทำเนียบรัฐบาล โดยในวันนี้นายกฯ ไม่มีภารกิจภายนอกทำเนียบฯ แต่จะเรียกรัฐมนตรีหลายกระทรวง อาทิ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง เข้ามารายงานความคืบหน้าการทำงานของแต่ละกระทรวงที่ทำเนียบฯ

ทั้งนี้เมื่อเดินทางมาถึงทำเนียบฯ นายกฯ ได้เดินลงจากรถมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีกระทรวงการคลังเตรียมเข้าพบ จะมีการรายงานเรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี เพราะวันนี้จะมีการประชุมเรื่องการจัดเก็บของทั้ง 3 กรม คือ กรมสรรพากร กรมสรรพสามิตร และกรมศุลกากร เพื่อดูเรื่องการจัดเก็บรายได้ ตรงไหนที่สามารถทำได้อีกหรือตรงส่วนไหนที่เราสามารถเร่งทำ ก็จะทำให้รายได้ของประเทศเพิ่มขึ้นก็จะทำ

เมื่อถามว่ามีส่วนไหนที่กระทรวงการคลังจะสามารถเก็บภาษีเพิ่มได้ นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวต้องประชุมก่อน และในที่ประชุมจะมีการรับฟังด้วย เพราะวันนี้จะมีปลัดกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีกระทรวงการคลังก็จะมาด้วย

เมื่อถามว่าแนวโน้มเศรษฐกิจในภาพรวมรายได้ของเราจะเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องมีการกู้แล้วใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ขณะนี้ทุกอย่างยังเป็นไปตามแผนงานอยู่ แต่ว่าตอนนี้ครึ่งปีแล้ว ก็ต้องมานั่งดูว่าตรงไหนที่จะต้องมีการลดหรือเพิ่ม โดยจะต้องดูเรื่องการบริหารจัดการรายจ่ายให้ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมาตรการสนับสนุนทางด้านภาษีที่ให้นักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งเราต้องมาดูว่าตรงไหนที่จะทำอะไรได้บ้าง เพราะเรื่องรายได้เป็นเรื่องสำคัญ

ถามอีกว่า วันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง กล่าวว่าอีก 1-2 สัปดาห์จะมีการเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้ามาอีก นายกฯ กล่าวว่า กำลังดูอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องสืบเนื่องมาจากมีการประชุมคณะทำงานที่เกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจ ก็จะดูว่าเศรษฐกิจมีปัญหาอะไร และเราจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างไร เส้นทางกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังทำอยู่

เมื่อถามต่อว่า ถ้ามองในแง่ของแนวโน้มเศรษฐกิจไตรมาส 3 หรือไตรมาส 4 เศรษฐกิจน่าจะดีขึ้นหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า คิดว่าไตรมาส 4 ดีขึ้นแน่นอน ดีขึ้นมาก แต่ตอนนี้กำลังดูไตรมาส 3 อยู่ว่าทำอย่างไรที่จะให้ดีขึ้นกว่าเดิมอีกหน่อย เพราะตอนนี้เงินงบประมาณก็เริ่มผันจ่ายออกไปได้บ้างแล้ว วันนี้ก็คงมีการพูดคุยถึงเรื่องปัญหาว่าจะมีหรือไม่ หากมีการผันเงินงบประมาณออกไปให้ได้เร็วที่สุด