
“สุริยะ” คุมเข้มแก้ปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกิน แนะใช้เทคโนโลยีบริหารจัดการ-เล็งเพิ่มบทลงโทษ ชี้กว่า 9 เดือน พบยอดผู้กระทำผิดลดวูบ เผย “อยุธยา” อันดับ 1 รถบรรทุกน้ำหนักเกินมากสุด ลุยเดินหน้าเพิ่มด่านชั่งน้ำหนักให้ครอบคลุมทั่วไทย หวังสร้างความปลอดภัยผู้ใช้ทาง-ลดภาระงบประมาณภาครัฐด้านซ่อมบำรุงทาง
27 มิ.ย. 2567 – นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ไปดำเนินการจัดการ และแก้ไขปัญหารถบรรทุกที่บรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนด เนื่องจากส่งผลกระทบหลายด้านในการคมนาคมทางถนน เช่น ทำให้ถนนหลวงชำรุดเสียหาย และยังมีความเสี่ยงที่จะเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น โดยในส่วนของ ทล. นั้น มอบหมายให้เร่งบริหารจัดการตรวจสอบรถบรรทุกน้ำหนักเกินบนโครงข่ายทางหลวงทั่วประเทศอย่างเข้มงวด โดยใช้เทคโนโลยีระบบตรวจวัดสามมิติ (3D Measurement System) ร่วมกับด่านชั่งน้ำหนักรถบรรทุกในขณะรถวิ่ง (Weight in Motion : WIM) พร้อมทั้งระบบกล้องถ่ายป้ายทะเบียน (LPR)
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน ทล. ได้ติดตั้งระบบ WIM และ LPR แล้ว 192 แห่ง อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 16 แห่ง และต้องการเพิ่มเติมอีก 752 แห่ง ตามเป้าหมายที่จะติดตั้งให้ครบ 960 แห่ง ครอบคลุมโครงข่ายทางหลวงทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมีสถานีตรวจสอบน้ำหนักและจุดจอดพักรถบรรทุกรวมจำนวน 103 สถานี รวมถึงหน่วยชั่งน้ำหนักเคลื่อนที่ (Spot Check) จำนวน 106 ชุด และมีแผนจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงาน ขณะเดียวกัน ยังให้ ทล. เร่งศึกษาและพิจารณาถึงการแก้ไขข้อกฎหมาย เพื่อกำหนดให้บทลงโทษหนักขึ้น พร้อมทั้งแต่งตั้งเจ้าพนักงาน เพื่อให้ทุกกระบวนการมีประสิทธิภาพสูงสุด
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ทล. ได้รายงานว่า จากการดำเนินงานดังที่กล่างข้างต้น ทำให้พบการกระทำความผิดบรรทุกน้ำหนักเกินลดลงอย่างชัดเจน โดยจากข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 19 มิถุนายน 2567 มียอดจับกุมผู้กระทำผิดไปแล้วจำนวน 2,107 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการจับกุมได้ 2,659 คัน ส่วนตลอดทั้งปี 2566 มีผู้กระทำความผิดจำนวน 3,416 คัน ลดลงจากปี 2565 ที่มีผู้กระทำความผิดจำนวน 3,488 คัน อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่า ในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะต้องไม่มีการทุจริต หรือมีส่วยสติ๊กเกอร์ทางหลวงเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด และการกระทำความผิดจะต้องลดลงอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ทล. ยังได้รายงานถึงการวิเคราะห์ข้อมูล ในพื้นที่ที่มีพฤติกรรมความเสี่ยงของการบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนด เพื่อใช้สำหรับเข้าลงพื้นที่ในการตรวจสอบ โดยเป็นการนำข้อมูลจากการร้องเรียน การจับกุม และแหล่งวัสดุมาใช้ในการวิเคราะห์ พบว่า 10 จังหวัดที่พบการกระทำผิดมากสุด ได้แก่ 1.พระนครศรีอยุธยา 2.นครราชสีมา 3.ขอนแก่น 4.ชลบุรี 5.กรุงเทพมหานคร 6.สมุทรปราการ 7.นครสวรรค์ 8.อุบลราชธานี 9.สระบุรี และ 10.ฉะเชิงเทรา ทั้งนี้ จากการดำเนินการตามแผนดังกล่าวนั้น พบว่า สามารถวางแผนจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงบประมาณได้อย่างเหมาะสมด้วย อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นผู้กระทำผิด สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1586 กด 5 หรือ เจ้าหน้าที่สายด่วน 093-377-0834 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ขณะที่ ทช. นั้น มอบหมายให้เข้มงวดตรวจจับรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนด โดยจากการรายงานของ ทช. ระบุว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการจัดตั้งด่านชั่งน้ำหนัก แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1.ด่านชั่งน้ำหนักถาวร (Weigh Station) มีจำนวน 5 แห่ง 2.ด่านชั่งน้ำหนักเคลื่อนที่ (Spot Check) มี 92 หน่วย และ 3.ด่านชั่งน้ำหนักยานพาหนะขณะเคลื่อนที่ (WIM) มีทั้งหมด 19 จุด ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ จากผลการกำกับน้ำหนักยานพาหนะประจำปี 2567 พบว่า ช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 23 มิถุนายน 2567 มีรถบรรทุกเข้าชั่งน้ำหนัก ณ ด่านชั่งน้ำหนักถาวร จำนวน 267,720 คัน, รถบรรทักชั่งน้ำหนัก Spot check จำนวน 55,231 คัน ซึ่งจากจำนวนดังกล่าว สามารถจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกิน และดำเนินคดีแล้ว 7 คัน ขณะที่ตลอดทั้งปี 2566 มีการจับกุมดำเนินคดีไป 9 คัน อย่างไรก็ตาม ทช. ยังคงดำเนินการอย่างเข้มงวด เพื่อให้การกระทำผิดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สอดรับกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อสร้างความปลอดภัยในการเดินทางของผู้ใช้ทาง และลดภาระงบประมาณในส่วนของค่าซ่อมบำรุงทางด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘พิพัฒน์’ ห่วงใยพี่น้องภาคใต้ตอนล่าง สั่งคมนาคมเร่งสำรวจความเสียหาย วางแผนซ่อมถนน เพิ่มประสิทธิภาพทางน้ำ รับมือฝนที่ยังยาวถึงต้นปี
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝนฟ้าอากาศในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง โดยระบุว่า พื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เป็นภูมิภาคที่ “เข้าสู่ฤดูฝนช้าที่สุดของประเทศ” และมักมีระยะเวลาฝนตกยาวนานไม่น้อยกว่าสองเดือน แตกต่างจากจังหวัดอื่นที่เข้าสู่ฤดูแล้งแล้ว
“พิพัฒน์” ลงพื้นที่ปัตตานี ชื่นชมฟื้นตัวเร็ว ยันรัฐบาลเร่งเยียวยา–เตรียมพร้อมมาตราการรับฝนรอบใหม่
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อติดตามสถานการณ์หลังอุทกภัย โดยการกำชับจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้ดูแลพี่น้องที่ประสบภัยทุกครัวเรือนอย่างเต็มที่
'เพื่อไทย' ดึง 'บ้านใหญ่อัศวเหม' เปิดตัวผู้เสนอตัวสมัครสส. 8 เขต โวคว้าชัยสมุทรปราการยกจังหวัด
'เพื่อไทย' เปิดตัวผู้สมัคร สส.ครั้งที่ 6 ดึงบ้านใหญ่ 'อัศวเหม-กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า' จับมือดูแลท้องถิ่น มั่นใจคว้าชัยสมุทรปราการยกจังหวัด 'อัครวัฒน์' เชื่อ ถ้าพท.เป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหาสมุทปราการให้ดีขึ้น เย้ยปชน.ไม่ได้เป็นรัฐบาลทั้งที่มีโอกาส
'กรมทางหลวง' โร่แจง! เหตุพระราม 2 โครงสร้างไม่ทรุด สั่งห้ามเกิดซ้ำ
กรมทางหลวง โดยสำนักก่อสร้างสะพาน ขอชี้แจงข้อเท็จจริงต่อพี่น้องประชาชน กรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวผ่านสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียประจำวันที่ 27 ตุลาคม 2568 เกี่ยวกับเหตุคอนกรีตไหลลงบนถนนพระราม 2

