กกพ. มั่นใจลดค่าไฟ 17 สตางค์ต่อหน่วยทำได้แน่นอน หนุน "พีระพันธุ์" สั่งแก้สัญญาทาสโรงไฟฟ้า อิงกฎหมายปกครองคุ้มครองมหาชน เหนือสิทธิสัญญา ช่วยประชาชนประหยัดปีละ 3.3 หมื่นล้านบาท ชี้เอกชนถือสัญญาคุ้มทุนแล้ว ขอให้คำนวณตามต้นทุนจริง
18 ก.พ.2568 - นายวรวิทย์ ศรีอนันต์รักษา กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยถึงกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ระบุแนวทางการปรับลดค่าไฟหน่วยละ 17 สตางค์ ตามข้อเสนอของ กกพ. ที่เสนอให้ทบทวนเงื่อนไขการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) และผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) ซึ่งได้รับการต่อสัญญาและให้ได้รับการอุดหนุนส่วนต่างต้นทุน (Adder) และมาตรการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน(เอฟไอที) จากผู้ผลิตไฟฟ้า ไม่สามารถทำได้ พร้อมกับเปรียบเทียบว่าเป็นสัญญาชั่วนิรันดร์ หากยกเลิกจะถูกเอกชนฟ้องร้องว่า ผมพูดในนามส่วนตัวยืนยันว่า กกพ.ทำให้ลดค่าไฟฟ้าลดลงหน่วยละ 17 สตางค์ได้
โดยให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ออกมติทบทวนการต่ออายุโครงการที่ต่ออายุสัญญาทุก 5 ปี ให้คำนวณอัตราสะท้อนข้อเท็จจริง โดยให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เป็นหน่วยงานกลางในการคำนวณ เช่น สนพ.คำนวณราคาปี 65 ราคาโซลาร์อยู่ที่หน่วยละ 2.1679 บาท ราคาพลังงานลมเหลือ 3.10 บาท ซึ่งรัฐสามารถทำได้ตามกฎหมายปกครอง ที่ให้คุ้มครองผลประโยชน์ของมหาชน มีสิทธิเหนือกว่าสัญญา
"สัญญาเดิมเป็นสัญญาทาสชั่วฟ้าดินสลายที่ทำมาตั้งแต่ปี 51 ช่วงนั้นที่ต้องประกาศราคารับซื้อราคาสูง เพราะราคาอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการผลิตไฟฟ้าสีเขียวราคาสูง ต้องการจูงใจให้เอกชนเข้าร่วมโครงการ จึงรับซื้อในราคาสูงประมาณหน่วยละ 9-12 บาท ซึ่งจะมีการต่ออายุทุก 5 ปี ตอนนี้ผู้ประกอบการกลุ่มนั้นราคารับซื้อจะอยู่ที่ประมาณหน่วยละ 4 บาทกว่า ๆ เป็นราคาขายส่งหน่วยละ 3.29 บาท บวกค่าเอฟทีกว่า 90 สตางค์ ก็ยังแพงอยู่ดี เพราะต้นทุนที่ สนพ.คำนวณมาราคาหน่วยละ 2.16 บาทเท่านั้น ซึ่งเอกชนกลุ่มดังกล่าวคืนทุนหมดแล้ว ได้กำไรไปเยอะแล้ว จึงเห็นควรต้องทบทวนที่ต้องต่ออายุสัญญาทุก 5 ปี ไม่มีประเทศไหนเขาทำสัญญาทาสแบบนี้ หากกพช. กำหนดนโยบายปรับค่าไฟฟ้ารับซื้อในส่วนนี้ให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง จะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ทันทีหน่วยละ 17 สตางค์ เช่น หากค่าไฟฟ้าหน่วยละ 4.15 บาท จะเหลือหน่วยละ 3.89 บาท จากประมาณการตลอดทั้งปี 68 คาดว่า จะมีการใช้ไฟฟ้า 195,000 ล้านหน่วย หากลดได้หน่วยละ 17 สตางค์ ประชาชนจะสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 33,150 ล้านบาท” นายวรวิทย์ กล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากกพ. มีหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 มาตรา 65 ให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และคำนึงถึงผลตอบแทนที่เหมาะสมของการลงทุนของการประกอบกิจการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ จึงมีมติตั้งแต่เดือนต.ค.65 เสนอความเห็นต่อรมว.พลังงาน ขอให้ฝ่ายนโยบายจัดการกับต้นทุนค่าไฟฟ้าในส่วนค่าใช้จ่ายตามนโยบายรัฐ (โพลิซี เอ็กซ์เพน) ทั้งโครงการAdder และ FiT เนื่องจากมองว่า ต้นทุนทั้ง 2 ประเภท ไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง สูงเกินจริงไปมากมีต้นทุนการรับซื้อไฟฟ้าสูงกว่าราคาต้นทุนจริงในภาวะปัจจุบัน และโครงการผลิตไฟฟ้าแบบแอดเดอร์ดังกล่าวไม่มีวันสิ้นสุดสัญญา ส่งผลให้ประชาชนต้องแบกรับภาระค่าไฟฟ้าโดยไม่จำเป็น
“ถ้านายทุนฟ้องรัฐบาล ผมพร้อมจะสู้ ผมขอฝากให้กำลังใจรัฐมนตรี อย่าท้อถอย ผมรู้ว่าท่านตั้งใจทำงาน เรื่องสัญญาทาสอยากให้แก้จริงๆ นายทุนได้ไปพอสมควรแล้ว ควรต้องกลับมาคำนวณตามต้นทุนแท้จริงได้แล้ว”นายวรวิทย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียน ที่ได้รับการสนับสนุนจากภารัฐในรูปแบบAdder และ FiT มีประมาณ 500 กว่าแห่ง ประมาณ 4,000 เมมะวัตต์ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ได้รับ Adder ที่อัตราหน่วยละ 8 บาท ระยะเวลา 10 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 54 สิ้นสุดปี 65 , โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ได้รับ Adder ที่อัตราหน่วยละ 6.50 บาท ระยะเวลา 10 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 56 สิ้นสุดปี 69 , โรงไฟฟ้าพลังงานลม ได้รับ Adder ที่อัตราหน่วยละ 3.50 บาท ระยะเวลา 10 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 55 สิ้นสุดปี 72 , โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ ได้รับ Adder ที่อัตราหน่วยละ 3.50 บาทระยะเวลา 7 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 58 สิ้นสุดปี 68 , โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้รับการอุดหนุนแบบ FiT อัตราคงที่หน่วยละ 5.66 บาทต่อหน่วย (ตลอดอายุสัญญา) เริ่มตั้งแต่ปี 58 สิ้นสุดปี 83
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กกพ. เผยความสำเร็จ 13 ปี ในการพัฒนาชุมชนรอบโรงไฟฟ้า ต่อยอดกิจกรรม “การประกวดกองทุนพัฒนาไฟฟ้า” ครั้งที่ 4 “ERC AWARDS 2024”
สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เผยความสำเร็จตลอด 13 ปี ในการขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาไฟฟ้า สานต่อกิจกรรม “การประกวดกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ประจำปี พ.ศ. 2567” หรือ “ERC AWARDS 2024”
คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) จัดการแสดงโขนและนาฏศิลป์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
การแสดงโขนและนาฏศิลป์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เคาะค่าไฟ4.18บาท FTงวดใหม่39.72สต.
กกพ.เคาะค่าเอฟทีงวด ม.ค.-เม.ย.67 ที่ 39.72 สตางค์ต่อหน่วย
'พีระพันธุ์' แย้มข่าวดี! ตรึงค่าไฟ 3.99 บาท กลุ่มเปราะบาง
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและพลังงาน กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนภายหลัง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติปรับขึ้นค่าไฟฟ้างวด ม.ค. -เม.ย. 2567
‘พีระพันธุ์’ล้มมติค่าไฟกกพ. ยืนยันทำมากกว่าพูดเอาเท่
‘พีระพันธุ์’ล้มมติค่าไฟกกพ. ยืนยันทำมากกว่าพูดเอาเท่