
คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.หอการค้าไทย ชี้เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกดีขึ้นจากผ่อนคลายการเงิน ส่งออกและใช้จ่ายภาครัฐเร่งตัว อาจโตแตะ 4% ครึ่งหลังปีนี้เผชิญกีดกันการค้าแรงขึ้น ส่งกลับอุยกูร์เพิ่มความเสี่ยง มีความเป็นไปได้สูงขึ้นที่ไทยจะเผชิญการเก็บภาษีตอบโต้
3 มี.ค.2568-รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากการผ่อนคลายทางการเงิน ส่งออกและใช้จ่ายภาครัฐเร่งตัว และมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่อัตราการขยายตัวของจีดีพีของไทยไตรมาสแรกอาจโตแตะ 4% ได้ คาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวการส่งออกจะเร่งตัวก่อนสินค้าไทยเผชิญกำแพงภาษีนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา โดยมองว่า อัตราการขยายตัวของการส่งออกไตรมาสแรกอาจขยายตัวได้ 5-10% ในเดือนมกราคมอัตราการขยายตัวของการส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 13.6%
อย่างไรก็ตาม การทรุดตัวของตลาดหุ้นไทยยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากการคาดการณ์ต่อเศรษฐกิจครึ่งปีหลังจะไม่ดีจากสงครามการค้า และ มีความเป็นได้สูงขึ้นที่ไทยจะเผชิญการเก็บภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) อัตราภาษีนำเข้าระหว่างสหรัฐฯกับคู่ค้า (ไทย) อยู่ในอันดับต้นๆของอาเซียน อัตราภาษีตอบโต้จะเก็บจากส่วนต่างอัตราภาษี MFN ระหว่างสหรัฐฯกับคู่ค้ากับภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
นอกจากนี้ การส่งกลับ ผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์อาจเป็นข้ออ้างเพื่อใช้กีดกันการค้าต่อสินค้าส่งออกของไทยเพิ่มขึ้นในอนาคตได้ ประเทศไทยนั้นน่าจะตกเป็นเป้าหมายสำคัญของเก็บภาษีตอบโต้เพราะเข้าเงื่อนไขหลายข้อ ไทยได้ดุลการค้าสหรัฐฯจำนวนมาก มีการเก็บสินค้านำเข้าหลายรายการสูงกว่าสหรัฐฯเก็บจากไทย มีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม อัตราภาษีนำเข้าเฉลี่ยของสหรัฐฯต่อสินค้าอุตสาหกรรมอยู่ที่ 2% แต่มีสินค้านำเข้าประมาณ 50% ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า ทำให้สหรัฐฯขาดดุลการค้ากับประเทศต่างๆ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯจะเริ่มทำการสอบสวนพิจารณาการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯของประเทศคู่ค้าต่างๆโดยกำหนดจะเสร็จสมบูรณ์ภายในวันที่ 1 เม.ย. ก่อนนำเสนอประธานาธิบดีสหรัฐฯตัดสินใจต่อไปเป็นลักษณะ Country-Level Reciprocity
นอกจากนี้ยังมีแผนเก็บภาษีแบบทั่วกระดานแบบ Across-the-Board แต่การจัดทำกฎหมาย Reciprocal Trade Act แบบนี้ต้องผ่านการพิจารณาของรัฐสภาซึ่งอาจใช้เวลา หากการขึ้นภาษีนำเข้าก่อนหน้านี้ของรัฐบาลทรัมป์ทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงกว่า 3% และ ระดับราคาค้าส่ง (Wholesale Price) เพิ่มขึ้นเกินกว่า 3.5% น่าจะมีเสียงคัดค้านจากสมาชิกรัฐสภา ฉะนั้นการขึ้นภาษีตอบโต้แบบ Across-the-Board อาจไม่เกิดขึ้นโดยง่ายนัก และ คงใช้เวลาในการดำเนินการ ผลกระทบต่อสินค้าส่งออกไทยจึงจำกัดอยู่ในสินค้าบางรายการเท่านั้น และ อาจโดนขึ้นภาษีเฉลี่ย 4-6%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ถอดบทเรียนหาดใหญ่ สู่ป้องกันกรุงเทพ นักวิชาการแนะ ปรับยุทธศาสตร์ลงทุนระบบการบริหารจัดการน้ำ
จากน้ำท่วมใหญ่หาดใหญ่และภาคใต้ สะท้อน ความล้มเหลวในการบริหารจัดการภัยพิบัติขนาดใหญ่ของสังคมไทยอย่างชัดเจน ต้องมีการถอดบทเรียนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและความผิดผลาดซ้ำเดิมอีก
'นักวิชาการ' ชี้นายกฯป้องอธิปไตย ไม่ทำไทยเสี่ยง 'รัฐบริวาร'
รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ไทยไม่ใช่ “รัฐบริวาร”!
ไม่พลาด ‘สว.นันทนา’ ฟาดนายกฯฝึกงานสื่อสารจนพังไปทั้งประเทศ!
น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า “นายกฝึกงาน” สื่อสารจนพังไปทั้งประเทศ
โบว์ เตือนแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา ต้องใช้เหตุผลรอบคอบทุกมิติ ไม่ใช่ตามกระแสอารมณ์
โบว์ ชี้การคิดเอาเองว่าประธานาธิบดีสหรัฐเข้าข้างกัมพูชา ประธานอาเซียนก็เข้าข้างกัมพูชา เป็นความคิดแบบมโนไปเอง
ไทยหวังพึ่งจีนได้หรือไม่ ในกรณีถูกสหรัฐฯกดดัน 'เอ็ดดี้' มีคำตอบ
ไทยสามารถหวังพึ่งจีนในมิติของการสนับสนุนทางการทูตและเศรษฐกิจเพื่อคานอำนาจได้ แต่ไม่สามารถคาดหวังความช่วยเหลือทางทหารโดยตรงในปัญหาชายแดนกับกัมพูชา
อดีตรองอธิการบดี มธ. สะกิด 'สภาหอการค้า-สภาอุตฯ' หนุน 'นายกฯ' หาตลาดใหม่สู้สหรัฐ
อดีตรองอธิการบดี มธ. ขอเชียร์ให้นายกรัฐมนตรียึดมั่นในความถูกต้อง ไม่ยอมก้มหัวให้ประเทศมหาอำนาจ จัดการกับกัมพูชาให้จบให้ได้ หากทำได้โอกาสที่จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหลังการเลือกตั้ง จะเท่ากับ 100%


