'ธีระชัย' สับมาตรการแวตธุรกิจมีรายได้ 1.8 ลบ. สกัดสร้างโอกาสธุรกิจหน้าใหม่ แนะ รมว.การคลังอย่าใช้หลักบัญชีคิดแก้ปัญหา
07 พ.ค.2568 - ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรค พปชร. ฝ่ายเศรษฐกิจ แลพอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงถึงแนวคิดของนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ที่จะแก้ไขกฎหมายเพื่อบังคับคนทำธุรกิจที่มีรายได้ต่ำกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปีต้องเข้าระบบเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) โดยอาจกำหนดเป็นแวตประเภทที่ 2 อัตรา 1% ของรายได้ 1.5 ล้านบาท ซึ่งประเมินว่าจะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นราว 2 แสนล้านบาทว่า เป็นนโยบายที่เฉือนเนื้อคนจนเพื่อเอาไปแปะให้คนรวยอันไม่เป็นธรรม ข้อกำหนดปัจจุบันที่ยกเว้นบุคคลที่มีรายได้ต่ำกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปีไม่ต้องเข้าระบบแวตนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคม เพื่อเป็นกำลังใจให้คนรุ่นหนุ่มสาวเข้าไปเริ่มทำธุรกิจเป็นของตัวเอง จึงกำหนดภาระภาษีให้หักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 60% ดังนั้น แนวคิดของนายพิชัยที่จะรื้อกติกานี้ จึงเป็นนโยบายขยายฐานภาษีแบบ บนลงล่าง ที่มุ่งให้ชนชั้นล่างต้องแบกภาระภาษีมากขึ้น ส่วนคำอธิบายเหตุผลสนับสนุนว่าเพื่อแก้ปัญหาพ่อค้ารายย่อยไม่ยอมโตนั้น ไม่น่ารับฟัง เพราะถ้าธุรกิจไปได้ดีขายได้มาก ผู้ประกอบการมีแต่ประสงค์จะขยายกิจการ เว้นแต่กรณีที่พ่อค้ารายใดมีเจตนาแตกบัญชีเพื่อให้รายได้ในแต่ละชื่อต่ำกว่า 1.8 ล้านบาทนั้น ก็ต้องใช้วิธีตรวจสอบโยงความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นรายๆไป
นายธีระชัย กล่าวว่า รัฐบาลที่ขยายฐานภาษีอย่างเป็นธรรมนั้น จะต้องเน้นนโยบายแบบแผ่กว้างให้คนที่อยู่นอกระบบเข้ามาในระบบมากขึ้น รวมทั้งต้องให้คนรวยแบกภาระภาษีมากกว่าคนจน หรือนโยบายแบบล่างขึ้นบน ส่วนแนวคิดของรัฐบาลนี้ที่มุ่งรีดเลือดจากคนชั้นล่างโดยไม่บังคับให้คนชั้นบนต้องเข้ามาช่วยรับภาระอันเป็นปรัชญาปกติของรัฐบาลนั้น ถือเป็นนโยบายที่ผิดทฤษฎี ประชาชนจำนวนมากตั้งข้อสงสัยว่ารัฐบาลมีการตรวจสอบเก็บภาษีจากคนรวยชั้นบนสุดอย่างครบถ้วนแล้วหรือยัง เพราะยังเห็นที่ดินว่างเปล่าแปลงใหญ่ราคาแพงที่อยู่ใจกลางเมืองหลายแห่งที่รัฐบาลยังปล่อยให้จัดชั้นเป็นที่ดินเกษตรกรรมเพียงแค่มีการปลูกต้นมะนาว
ส่วนกรณีกระทรวงการคลังต้องการแก้ปัญหาขาดดุลงบประมาณนั้น นายธีระชัย กล่าวว่า นายพิชัยประกาศยุติโครงการแจกเงินหมื่นตำน้ำพริกละลายแม่น้ำทันทีเป็นสิ่งแรก แล้วหาทางประหยัดรายจ่ายโดยการคุมจำนวนและลดงานหน้าที่ของข้าราชการอย่างเข้มงวด หลังจากนั้น ควรเพิ่มอัตราแวตทั่วไปจาก 7% ขึ้นเป็น 8% โดยเพิ่มพิเศษสำหรับสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือยขึ้นเป็น 10% ยันเพดาน แทนที่จะใช้นโยบายภาษีแบบ “บนลงล่าง” ตามที่แถลงข่าวไว้ และขอแนะนำให้ศึกษาเรียนรู้หลักการคิดนโยบายภาษีไว้ด้วยเสริมเพิ่มเติมจากความรู้ด้านบัญชีเพราะจำเป็นสำหรับประเทศที่ต้องฝ่าพายุสมบูรณ์แบบที่ตั้งเค้ารออยู่ข้างหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ธีระชัย' ผ่าทางตันภัยพิบัติ! ชี้วินัยคือทางรอด
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
พปชร.ข้องใจปมแร่แรร์เอิร์ธยื่น 'วันนอร์' คุ้ยส่อผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 3
'รอง หน.พปชร.'ยื่น 'วันนอร์' ตรวจสอบ 'ปฎิญญากัวลาลัมเปอร์' โดยเฉพาะ 'แรร์เอิร์ธ' หวั่นทำให้ไทยต้องเลือกข้าง-ต่างชาติแทรกแซงกิจการในประเทศ ชี้อาจฝ่าฝืน รธน.มาตรา 3
พปชร.จี้รัฐเลิกลีลาเร่งปราบสแกมเมอร์!
'รองหัวหน้า พปชร.' จี้ รัฐบาลปราบแก๊งสแกมเมอร์ ตัดไฟ-ตัดเน็ต-ระงับบัญชีม้า-ยึดทรัพย์ หยุดค้าทองคำ และค้าขายทุกอย่างกับกัมพูชาจนกว่าแก้ปัญหาได้ อย่าลีลาเต้นรำ หากช้าอาจถูกชาวโลกสงสัยเกี่ยวข้อง
อดีตขุนคลังร่ายเหตุผลทำไมต้องยกเลิก MOU43
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเปิดบ้านต้อนรับเลือดสีน้ำเงิน!
'อนุทิน' พร้อมต้อนรับคนมีอุดมการณ์ร่วมบ้าน 'ภูมิใจไทย' หวังผลดีเลิศขึ้นพรรคอันดับ 1
อดีตขุนคลังให้ข้อเสนอแนะก่อนรัฐบาลฟื้นคนละครึ่ง!
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง


