7 สายการบินพร้อมใจสแตนด์บายรับคนไทยกลับบ้าน

‘สุริยะ’ เตรียมพร้อมพาคนไทยกลับประเทศ 7 สายการบินของไทยสนับสนุนเต็มอัตรา สั่งทุกหน่วยงานเข้าดูแลประชาชนตลอด 24 ชม.ด้าน ‘ขนส่ง’ ประสานผู้ประกอบการขนส่งจัดเตรียมยานพาหนะเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา

25 ก.ค. 2568 – นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง จากเหตุการณ์ความไม่สงบในบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมพร้อมให้การสนับสนุนและจะดูแลพี่น้องประชาชนอย่างสุดความสามารถ พร้อมทั้งสั่งการทุกหน่วยงานจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะสงบ

ทั้งนี้ จากที่เมื่อวานทุกสายการบิน มีที่นั่งเต็มทั้งหมดในเที่ยวบิน กัมพูชา-ไทย จึงได้หารือกับ 7 สายการบินพาณิชย์สัญชาติไทย ซึ่งประกอบด้วย การบินไทย ไทยแอร์เอเชีย บางกอกแอร์เวย์ส ไทยเวียตเจ็ท ไทยไลอ้อนแอร์ ไทยแอร์เอเชียร์เอ็กซ์ และ นกแอร์ รวมถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  ถึงมาตรการ การนำคนไทยในกัมพูชากลับประเทศ โดยทุกฝ่ายพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ พร้อมเพิ่มจำนวนที่นั่งให้เพียงพอต่อการรองรับคนไทยกลับประเทศทั้งหมด

“โดยในส่วนของกระทรวงคมนาคมขอขอบคุณทุกสายการบินเป็นอย่างมาก ที่พร้อมสนับสนุน โดยทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ยืนยันว่าเที่ยวบินเส้นทางทั้งจากเสียมเรียบและพนมเปญ กลับมายังกรุงเทพยังมีที่นั่งเหลือจากปรับเพิ่มที่นั่งในช่วงสองถึงสามวันข้างหน้านี้ ”นายสุริยะ กล่าว

อย่างไรตาม หากคนไทยประสงค์ที่จะเดินทางกลับไทย สามารถประสานไปยังสายการบินไทย สายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินกรุงเทพ และสายการบินไทยเวียตเจตได้ทันที นอกจากนั้นสามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ โทรศัพท์ฉุกเฉิน: (+855) 77 888 114 ได้ทันที ซึ่งทุกฝ่ายพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

ขณะที่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย – กัมพูชา ว่า ในขณะนี้ยังคงเตรียมพร้อมการให้บริการจราจรทางอากาศ และการบริหารห้วงอากาศ โดยคำนึงถึงลำดับความสำคัญเร่งด่วน (Priority) ของภารกิจด้านความมั่นคงเป็นสำคัญ  พร้อมจัดเสริมอัตรากำลังเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติงาน ให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา พร้อมกับเตรียมการอย่างเต็มที่ ในการให้บริการจราจรทางอากาศ  สำหรับเที่ยวบินอพยพคนไทย ทั้งเที่ยวบินของสายการบิน ตามตารางการบินปกติ และเที่ยวบินเสริมพิเศษ ตามประกาศสถานทูตไทย ให้คนไทยอพยพออกจากประเทศกัมพูชาทันที

รายงานข่าวจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) แจ้งว่าจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาขอแนะนำให้ประชาชนชาวไทยที่มีความจำเป็นต้องเดินทางในเส้นทางระหว่างสองประเทศ ติดตามข่าวสารและคำแนะนำจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ ขอให้ผู้โดยสารตรวจสอบกับสายการบินที่ให้บริการในเส้นทางดังกล่าว เนื่องจากอาจมีการปรับเปลี่ยนชนิดของอากาศยาน เพื่อเพิ่มจำนวนที่นั่งให้เพียงพอกับความต้องการในการเดินทางกลับประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มสูงขึ้น

สำหรับผู้ที่มีบัตรโดยสารอยู่แล้ว หากมีความประสงค์จะเปลี่ยนแปลงวันหรือเวลาเดินทาง ขอให้ติดต่อสายการบินโดยตรงเพื่อสอบถามเกี่ยวกับที่นั่งว่างและเงื่อนไขในการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ผู้โดยสารควรเตรียมเอกสารการเดินทางให้ครบถ้วน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและลดความแออัด ณ ท่าอากาศยาน

ในกรณีที่ผู้โดยสารไม่สามารถเดินทางมายังท่าอากาศยานได้ตามกำหนด ขอให้ตรวจสอบมาตรการช่วยเหลือจากสายการบิน หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ของสายการบินเพื่อรับทราบข้อมูลและแนวทางดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป จึงขอเน้นย้ำให้ผู้โดยสารติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งทางการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างสะดวกและปลอดภัย

ขณะที่นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชาในปัจจุบัน นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เตรียมความพร้อมสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้อย่างทันทีเมื่อได้รับการประสานขอรับการสนับสนุน และระดมสรรพกําลังเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

โดยกรมการขนส่งทางบกได้สั่งการไปยังสำนักงานขนส่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย – กัมพูชา ประสานผู้ประกอบการขนส่งเตรียมความพร้อมสนับสนุนยานพานะสำหรับการเคลื่อนย้ายหรืออพยพประชาชนและทรัพย์สิน กรณีได้รับแจ้งการขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานด้านความมั่นคง นอกจากนี้ หากมีความจำเป็นให้ปรับเปลี่ยนเส้นทาง เวลา และจำนวนเที่ยวรถโดยสารให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป

ทั้งนี้ กรมฯได้ออกประกาศกรมฯ ปิดสำนักงานขนส่นเป็นการชั่วคราว จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ 1. สำนักงานขนส่งจังหวัดสุรินทร์ สาขาอำเภอปราสาท 2. สำนักงานขนส่งจังหวัดสุรินทร์ สาขาอำเภอสังขะ 3. สำนักงานขนส่งจังหวัดศรีสะเกษ สาขาอำเภอกันทรลักษ์ โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ข่าวสารอย่างใกล้ชิด เตรียมความพร้อมสนับสนุนสรรพกำลังที่อยู่ในภารกิจความรับผิดชอบของหน่วยงาน และเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกประชาชน โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนผู้มาใช้บริการ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เป็นสำคัญ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“พิพัฒน์” นำทีมวางแผนฟื้นฟู–พัฒนาภาคใต้ทั้งระบบ ฟื้นเศรษฐกิจ–ดูแลคุณภาพชีวิต ชูท่องเที่ยวปลอดภัย–ฮาลาล 3 จชต. และสร้างงานระยะยาวให้คนในพื้นที่

วันที่ 4 ธันวาคม 2568 – นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการประจำภาคใต้ และคณะอนุกรรมการประจำภาคใต้ชายแดน เป็นประธานการประชุมเพื่อกลั่นกรองแผนพัฒนาจังหวัด–กลุ่มจังหวัด