
‘การรถไฟ’ ชูยุทธศาสตร์แผนฟื้นฟูฉบับทบทวน ปักธงใช้ปีงบประมาณ 69 เร่งจัดหาขบวนรถใหม่ หารายได้และดึงเอกชนร่วมลงทุนเดินรถ ตั้งเป้าปลดหนี้สะสม 2.8 แสนล้านบาท
4 ส.ค. 2568 – นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงแผนฟื้นฟูฉบับทบทวน โดยรฟท.ได้ปรับปรุงรายละเอียดของกลยุทธ์โดยเฉพาะแนวทางการหารายได้ อาทิ การกำหนดเร่งจัดหาขบวนรถใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการขนส่งทางราง เนื่องจากแผนฉบับเดิมนั้น แม้จะมีการกำหนดจัดหาขบวนรถใหม่ แต่ก็พบว่ายังไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผน เนื่องจากได้ทยอยเปิดให้บริการส่วนของทางคู่ในหลายเส้นทาง ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ รฟท.ต้องปรับแผน กำหนดกรอบเวลาและจำนวนของการจัดหาขบวนรถใหม่มาให้บริการ จากจากนี้ จะเสนอกระทรวงคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ได้ภายใน 2 เดือน เพื่อผลักดันให้แผนฟื้นฟูฉบับทบทวน เริ่มมีผลดำเนินการในปีงบประมาณ 2569
นอกจากนี้ ตามแผนฟื้นฟูฉบับเดิมนั้น มีการคาดการณ์รายได้จากการบริหารสัญญาพื้นที่เชิงพาณิชย์ในจำนวนไม่สูงนัก แต่ปัจจุบัน รฟท.ได้มอบหมายสัญญาเช่าพื้นที่ทั้งหมดให้กับบริษัทลูก คือ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) และปัจจุบันได้เริ่มปรับปรุงสัญญา ทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นแผนฟื้นฟูฉบับทบทวน จึงจะปรับประมาณการณ์รายได้จากการบริหารสัญญาพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้เพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขณะนี้ยังมีการผลักดัน ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. …. ซึ่งมีข้อกำหนดเปิดกว้างให้เอกชนร่วมลงทุนรัฐ (PPP) ในการบริหารการเดินรถ และเช่าใช้รางรถไฟในการดำเนินธุรกิจการ ซึ่งจะส่งผลให้ รฟท.มีโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยปัจจัยเหล่านี้เปลี่ยนแปลงไปจากคาดการณ์ที่กำหนดไว้ในแผนฟื้นฟูฉบับเดิม จึงทำให้ รฟท.ต้องเสนอแผนฟื้นฟูฉบับทบทวน
นายวีริศ กล่าวว่า แผนฟื้นฟูฉบับทบทวนไม่ได้มีการแก้ไขในส่วนของแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการลงทุนรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 เนื่องจากโครงการเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่จะเพิ่มขีดความสามารถการขนส่งทางราง แต่เนื่องด้วยปัจจุบันมีโครงข่ายรถไฟเปิดให้บริการเพิ่มขึ้น แต่ยังประสบปัญหาขบวนรถให้บริการจำนวนน้อย ดังนั้นหาก รฟท.จะหารายได้เพิ่มขึ้น จำเป็นต้องปรับปรุงแผนเพื่อจัดหาขบวนรถและศึกษาแนวทางสร้างรายได้
ทั้งนี้ การผลักดันแผนฟื้นฟูฉบับทบทวนนั้น จะเริ่มดำเนินการทันทีในปีงบประมาณ 2569 โดย รฟท.คาดหวังว่าแผนดำเนินงานและกลยุทธ์เหล่านี้ จะทำให้ รฟท.สามารถลดภาระหนี้สะสมที่มีอยู่กว่า 2.8 แสนล้านบาทอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะรายได้ที่เกิดจากการบริหารสัญญาพื้นที่เชิงพาณิชย์ของ SRTA ที่คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับ รฟท.เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแผนวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ.2566 – 2570 (แผนฟื้นฟูการรถไฟแห่งประเทศไทย) ฉบับทบทวน ประจำปีงบประมาณ 2569 และแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ 2569 กำหนดยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ 17 กลยุทธ์


