กทม.ไฟเขียวเคลียร์หนี้บีทีเอส 3.2 หมื่นล้าน

‘ชัชชาติ’ นั่งหัวโต๊ะประชุมผู้บริหาร กทม. มีมติเห็นชอบกรอบวงเงินงบรายจ่ายเพิ่มเติมปี 69 กว่า 32,000 ล้านบาท เพื่อชำระหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว ย้ำเร่งดำเนินการเพื่อลดภาระดอกเบี้ย คาดจ่ายพฤศจิกายนนี้

30 ก.ย. 2568 – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 4/2568 โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบหลักการและกรอบวงเงินเพื่อขอตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ในกรอบวงเงินไม่เกิน 32,625,106,200 บาท ซึ่งจะจ่ายขาดจากเงินสะสมของกรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเร่งรัดการชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและค่าซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ครอบคลุมช่วงเวลา 1 มิถุนายน 2564 – 31 สิงหาคม 2568

ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำว่า ควรเร่งดำเนินการชำระหนี้โดยเร็วที่สุด หากสามารถทำได้ก่อนเดือนพฤศจิกายน 2568 เช่นภายในเดือนตุลาคม ก็ควรเร่งดำเนินการ เพื่อช่วยลดภาระดอกเบี้ยที่ยังคงเดินอยู่ต่อเนื่อง สาเหตุของการเร่งรัดชำระหนี้ครั้งนี้ มาจาก คำพิพากษาของศาลปกครองกลางเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 ที่กำหนดให้กรุงเทพมหานครและบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ต้องร่วมกันชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงให้แก่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี โดยภายหลังได้มีการเจรจาเพิ่มเติม ซึ่งกรุงเทพมหานครมอบหมายให้บริษัทกรุงเทพธนาคมเป็นผู้ดำเนินการ

สำหรับผลการเจรจาสรุปว่า บีทีเอสซีจะปรับเปลี่ยนกำหนดการชำระหนี้จากเดิมที่ต้องจ่ายภายในเดือนตุลาคม 2568 ขยายออกไปเป็นไม่เกินวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 และยินยอมปรับลดอัตราดอกเบี้ยจาก MLR บวก 1% เหลือเพียง อัตรา MLR เดียว นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 จนถึงวันชำระจริง (แต่ไม่เกินวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568)

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครยังได้มีมติรับรองรายงานการประชุมในครั้งนี้ทันที เพื่อให้สามารถเร่งเสนอต่อสภากรุงเทพมหานครได้โดยเร็ว ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการคลี่คลายปัญหาหนี้สะสมของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยในระยะยาวให้แก่กรุงเทพมหานคร

เพิ่มเพื่อน