‘อรรถพล’ เร่งเครื่อง Quick Big Win เต็มสูบมุ่งลดภาระค่าครองชีพ

‘อรรถพล ‘ เร่งเครื่อง Quick Big Win เต็มกำลัง วางกรอบเป้าหมายชัด ลดค่าใช้จ่ายพลังงานให้ประชาชน สร้างความมั่นคงพลังงานผ่านการเร่งจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่ ผลักดันเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับรากหญ้ายันภาคอุตสาหกรรม ติดตั้งโซลาร์เซลล์ได้ลดหย่อนภาษี เดินหน้าให้ไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

 

8 ต.ค. 2568 - นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง เปิดกระทรวงพลังงานแถลงนโยบายสำคัญที่ต้องเร่งผลักดันให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ทั้งด้านเศรษฐกิจ  การส่งเสริมการลงทุน การผลักดันสังคมคาร์บอนต่ำ และการส่งเสริมบทบาทภาคเอกชนในการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งในส่วนของกระทรวงพลังงาน ได้ผลักดันโครงการ Quick Big Win ด้านพลังงาน

การสร้างรายได้ ลดรายจ่ายด้านพลังงานภาคประชาชน นำโดยโครงการโซลาร์ภาคประชาชน เร่งขับเคลื่อน โครงการโซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร กว่า 1,200 ระบบ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 7 แสนไร่ทั่วประเทศ คาดว่าจะเกิดเม็ดเงินผ่านการลงทุนกว่า 12,500 ล้านบาท ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนได้ 87.5 เมกะวัตต์ และสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 0.6 ล้านตันต่อปี , โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน เป้าหมายกำลังการผลิต 1,500 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนได้กว่า 30,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 1,600 ตำแหน่ง และยังสามารถ

ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 0.8 ล้านตันต่อปี โดยจะสามารถประกาศรับซื้อไฟฟ้าได้ภายในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ส่วนเป้าหมาย การลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ติดตั้งโซลาร์เซลล์ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วม 90,000 ครัวเรือน กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุน ได้กว่า 20,250 ล้านบาท ลดการใช้ไฟฟ้าได้ 585 ล้านหน่วยต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 2.8 แสนตันต่อปี นอกจากนั้น ยังมีการเร่งอนุมัติ การผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ลอยน้ำใน 3 เขื่อนหลักของ กฟผ. (เขื่อนภูมิพล เขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนศรีนครินทร์) ซึ่งมีต้นทุนต่ำ กำลังการผลิตรวม 1,638 เมกะวัตต์ เกิดการลงทุนกว่า 53,000 ล้านบาท และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 0.8 ล้านตันต่อปี

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบพลังงานรองรับภาคอุตสาหกรรม ได้เร่งดำเนินการโครงการสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสะอาดตรง หรือ Direct PPA 2,000 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเสนอ กบง. ได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2568 เกิดเม็ดเงินลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 65,000 ล้านบาท ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต นอกจากนั้น ยังมี “การพัฒนาระบบไฟฟ้ารองรับอุตสาหกรรมเขตภาคตะวันออก (EEC)” คาดว่าจะมีความต้องการใช้ไฟฟ้ากว่า 800 เมกะวัตต์ รองรับธุรกิจ Data Center 16 ราย รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรมผ่านการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์เพื่อการอนุรักษ์ผ่านกลไกกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน

การสร้างความยั่งยืนระยะยาวรองรับ Net Zero 2050 ผ่านโครงการต่างๆ ข้างต้น รวมทั้งการเร่งจัดทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า หรือ แผน PDP ที่จะมีการทบทวนรายละเอียดให้การผลิตไฟฟ้าตอบโจทย์กับเป้าหมายNet Zero 2050 ผ่านการเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดในการผลิตไฟฟ้าให้มากขึ้น นอกจากนั้น ยังมีการเริ่มโครงการพัฒนาการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CCS) โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มกักเก็บก๊าซคาร์บอนฯ ได้ภายในปี 2577 และระหว่างปี 2577 ถึงปี 2607 (30 ปี) จะสามารถกักเก็บก๊าซคาร์บอนฯ ได้ 6.4 ล้านตันต่อปี

‘เรื่องของพลังงาน ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวและส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้วางกรอบการทำงาน Quick Big Win ไว้อย่างชัดเจน เนื่องจากมีระยะเวลาในการทำงานที่ค่อนข้างจำกัด เป้าหมายความสำเร็จจึงต้องมีความชัดเจน โดยในด้านการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้ประชาชน ผมให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกๆ ซึ่งกระทรวงพลังงานก็เพิ่งได้มีการตรึงค่าก๊าซหุงต้มและลดราคาน้ำมันไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว’

นายอรรถพล กล่าวย้ำว่า ในอนาคตก็จะมีเป้าหมายในการลดค่าไฟ ซึ่งต้องหารือกับหลายหน่วยงาน ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ แผนงานที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ทั้งโครงการโซลาร์รูปแบบต่างๆ จะช่วยสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ กฟผ. ก็สามารถผลิตไฟฟ้าได้ในราคาต้นทุนที่ถูกลง การส่งเสริมความแข็งแกร่งด้านการผลิตในพื้นที่เศรษฐกิจ EEC รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม จากทุกโครงการที่นำเสนอข้างต้น สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดมูลค่าการลงทุนสูงถึง 700,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 16,000 ตำแหน่ง และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 10 ล้านตันต่อปี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อรรถพล’สั่งระดมกำลังเร่งฟื้นฟูน้ำท่วมใต้ยันขนส่งน้ำมันไม่กระทบ

‘อรรถพล’ ยังคงติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณภาพน้ำมันในปั๊มและการขนส่งน้ำมัน-ก๊าซหุงต้มอย่างใกล้ชิด เร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้า ส่งมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา ฟื้นฟูระบบไฟฟ้าแก่อาคารและบ้านเรือนประชาชน และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรองรถยนต์และรถจักรยานยนต์