ถ้าเจอวิกฤตเศรษฐกิจโลก....แดง-ส้ม-น้ำเงิน-ฟ้า จะต่างกันหรือไม่ ? ตอนที่ 1

ทันที่ที่ชื่อ “คุณอภิสิทธิ์” อดีตนายกฯไทยคนที่ 27 จะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เริ่มมีการปั่นกระแส “น่าเบื่อ” เป็นทางเลือกโบราณ… แต่จริงๆแล้ว การที่มีพรรคเก่าแก่ อายุถึง 79 ปี การที่มีนักการเมืองมืออาชีพมากว่า 30 ปี ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่ประจักษ์ รักษาสัจจะ จริงใจ มีความรู้ความสามารถเหนือใครๆ มีสำนึกรับผิดชอบ (Accountability) กล้าหาญ เสียสละ อย่างคุณอภิสิทธิ์ ประชาธิปัตย์ จึงเป็นปรากฎการณ์ใหม่ที่จะพัฒนาประชาธิปไตยไทยได้จริงในระยะยาว

ไทยทนอยากชวนให้คิดว่า ขณะที่หลายคนหลงเชื่อการใส่ร้าย คุณอภิสิทธิ์ว่า “สั่งฆ่าประชาชน” หรือ “ไร้ผลงาน” ก็อยากให้พิจารณาความจริงที่ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง โดยฉบับนี้ เริ่มที่เรื่อง “ผลงาน” ก่อน

“ฟ้า” กู้วิกฤตเศรษฐกิจไทย เติบโต ฝ่าวิกฤตการเงิน ซับไพรม์ (แฮมเบอร์เกอร์) เป็นที่ยอมรับระดับโลก

…คุณอภิสิทธิ์ได้รับเลือกจาก “สภาผู้แทนราษฏร” ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 27 ด้วยคะแนนเสียงส่วนใหญ่ของ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสภาฯ ในวันที่ 17 ธันวาคม 2551 (2008) ซึ่งเป็นช่วง “วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์” … เศรษฐกิจโลกตกต่ำรุนแรง อัตราการเติบโตของ GDP ตกลงจาก 4.4% ในปี 2007 เหลือ 2.1% ในปี 2008 และ ลงไปต่ำสุดถึง -1.3% ในปี 2009

อัตราการเติบโตของ GDP (%)200720082009201020112012
โลก4.4%2.1%-1.3%4.5%3.3%2.7%
ไทย5.4%1.7%-0.7%7.5%0.8%7.2%

เศรษฐกิจไทยก็ตกต่ำ อัตราการเติบโตของ GDP ตกลงจาก 5.4% ในปี 2007 เหลือ 1.7% ในปี 2008 และ ลงไปต่ำสุดถึง -0.7% ในปี 2009 คุณอภิสิทธิ์นายกรัฐมนตรี และ คุณกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีคลัง จากพรรคประชาธิปัตย์ (สีฟ้า) นำการฟื้นเศรษฐกิจไทยได้อย่างรวดเร็ว 1 ใน 5 ของโลก จนอัตราการเติบโตของ GDP ประเทศไทยฟื้นสูงขึ้นเป็น 7.5% ในปี 2010 ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของโลกโตเพียง 4.5%  จนคุณกรณ์ ได้รับการเลือกให้เป็น “รัฐมนตรีคลังโลก แห่งปี 2010” เป็นความสำเร็จสูงทั้งๆที่ถูกกลั่นแกล้งสารพัดโดยฝ่ายทักษิณ ทั้งทำลายเทศกาลสงกรานต์ ทำลายการประชุมผู้นำอาเซียน และ เผาบ้านเผาเมือง

การฟื้นตัวได้เร็ว และ เข้มแข็ง ไม่ใช่เพียงโชค วิกฤตการเงินครั้งนี้ ทรุดหนักทั้งโลก กำลังซื้อประเทศต่างๆลดลงทั่วโลก การท่องเที่ยวหดหาย การบริโภคในไทยก็ตกต่ำเช่นเดียวกัน การลงทุนภาคเอกชนชะงักงัน รัฐบาลอภิสิทธิ์ ไม่ได้แจกแบบ “ประชานิยม” แต่พุ่งเป้าหมายให้ บุคลากรภาครัฐและผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่มีรายได้ต่ำกว่าเดือนละ 15,000 บาท ให้ได้รับเงินช่วยเหลือ 2,000 บาท/คน เป้าหมายจำนวน 9.7 ล้านคน จึงใช้งบประมาณเพียง 19,400 ล้านบาท และ มีเอกชนร่วมมือ ให้ประโยชน์มากมาย ให้ประชาชนใช้เงินได้คุ้มค่ามากขึ้น

นอกจากสนับสนุน “แรงงาน” แล้ว ก็ยังช่วยเกษตรกร ด้วยนโยบาย “ประกันรายได้เกษตรกร” เพื่อประกันรายได้ โดยจ่ายเงิน “ส่วนต่าง” ให้เกษตรกรโดยตรง เป็นวิธีที่ชาญฉลาด ใช้เงินน้อยกว่า “ประกันราคาข้าว หรือ สินค้าเกษตรอื่น” มาก ไม่ต้องจ่ายเงินทั้งยอด เพราะ จ่ายแค่ส่วนต่าง ไม่ต้องสร้างคลังเก็บสินค้า ไม่เป็นการแทรกแซงกลไกตลาดด้วย

ต่อมา พรรคเพื่อไทยไม่ยอมใช้ต่อ เพื่อจะได้บอกว่า “ปชป. ไม่มีผลงาน” แต่เมื่อถึงเวลาต้องรีบระบายน้ำ เพื่อไทยก็มีการชะลอการระบายน้ำจากเขื่อน เพื่อให้เกษตรกรท้ายเขื่อนเก็บเกี่ยว จนน้ำล้น และ ระบายไม่ทัน กลายเป็นมวลน้ำขนาดใหญ่ จนน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ซึ่งถ้าใช้การประกันรายได้ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะ ถ้าเจออุทกภัยจนผลผลิตเสียหาย รัฐก็จะชดเชยประกันรายได้ให้

แดงบริหารบ้านเมืองแม้ไม่วิกฤต ก็ยังทำให้วิกฤตหลายครั้ง ตั้งแต่ตอนก่อนต้มยำกุ้ง สมัยรัฐบาลบิ๊กจิ๋ว ทักษิณก็เข้าเป็นรองนายกฯ ถูกเปิดโปงโดยนาย เสนาะ เทียนทองว่า “คนนี้ รวยแล้วโกงชาติ” ตั้ง รมว. คลัง แล้วลอยตัวค่าเงิน ทุบค่าเงินบาท ถือเป็นการเผาบ้านเผาเมืองเอาประกัน คนไทยล้มละลายทั่วประเทศ แต่ทักษิณรวยคนเดียว แต่ทุนสำรองประเทศเสียหายเกือบหมดสิ้น โดยเก็บกำไรไว้ ในกองทุนลับวินมาร์ค ซึ่งต่อมานำมาใช้ ซื้อเสียง ดูด สส. จนทักษิณได้เป็นนายกรัฐมนตรี ในปี 2544

ยุคยิ่งลักษณ์ ก็ใช้นโยบายจำนำข้าว มีการโกงตลอดกระบวนการ จำนำข้าวเวียนเทียน ข้าวลม นั่งร้านซ่อนในคลัง ขายข้าว จีทูจีปลอม ฯลฯ จนมีรัฐบาลเสียหาย เป็นภาระหนี้สินกว่า 5 แสนล้านบาท

แนวคิดเศรษฐกิจที่เห็นในช่วงปัจจุบันเช่น ศูนย์บันเทิงครบวงจร ให้ไทยมีคาสิโน หรือที่ทักษิณเสนอให้ ยกที่ดินอธิปไตยไทยแนวพรมแดนเป็น No Man Land ทั้งที่พื้นที่เป็นของไทยตามหลัก “สันปันน้ำ” และ แบ่งทรัพยากรในทะเลกับกัมพูชา ก็เต็มไปด้วย “ความขัดกันของประโยชน์ส่วนตัว” มีความทุจริตเป็นที่ประจักษ์ หลังจากโกงคุกนับปี บัดนี้ก็ต้องรับโทษจริงเสียที

ถือได้ว่า แดง เป็นพรรคต้นแบบ “ศูนย์การค้าธุรกิจการเมือง” นักการเมืองเข้าพรรคหลายมุ้ง หลายกลุ่ม มารวมกัน เพื่อแบ่งเค้กอำนาจรัฐกัน อยู่กันด้วยผลประโยชน์ และ ผู้ที่เสียประโยชน์ ก็คือประชาชนผู้เสียภาษี การแก้ปัญหาที่เอาแต่นโยบายประชานิยม ไม่ช่วยแก้ให้คนไทยพ้น “กับดักความยากจน” ได้จริง

น้ำเงิน “ศูนย์การค้าธุรกิจการเมือง 2” จะต่างจากแดงหรือไม่ ? ความนิยมในนายกฯอนุทินปัจจุบัน ก็ไม่ต่างกับทักษิณในช่วงแรก การดูด สส. ในปัจจุบัน ก็มีภาพคล้ายๆสมัยทักษิณ นโยบายเศรษฐกิจปัจจุบัน ถือว่า ใช้ “คนละครึ่ง” สืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาลลุงตู่ก็ดี แต่ก็เป็นที่สงสัยว่า เพราะ ต้องการโกยคะแนน “แฟนๆลุงตู่” และ การ “เล่นแรง” กับกัมพูชา ก็หวังโกยคะแนนจาก “กระแสลุงแม่ทัพกุ้ง” แต่ด้วยโครงสร้าง “ศูนย์การค้าธุรกิจการเมือง ภาค 2” มีลักษณะเดียวกัน แล้ว อนาคตผลจะต่างกันหรือ ?

นโยบายแหลมคมที่เป็นตัวตนของภูมิใจไทย ก็ดูได้จากยุคแรก คือ นโยบายส่งเสริมการ “ปลูกกัญชา” จนถึงการปลดล็อกจากความเป็นยาเสพติด ซึ่งต่อมาเมื่อสังคมไม่ยอมรับ ก็ต้องปรับกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เพื่อไม่ให้แพร่หลายได้ง่ายในหมู่ประชาชน แฟนๆลุงตู่ ลองคิดให้ดีว่า ลุงตู่จะมีท่าทีต่อนโยบายส่งเสริมกัญชาอย่างไร ? แฟนๆลุงแม่ทัพกุ้ง ก็น่าใคร่ครวญว่า แม่ทัพกุ้งที่ต่อต้านอบายมุขอย่างการที่คนไทยไปเล่นคาสิโนที่กัมพูชา จะคิดอย่างไรกับนโยบายแบบส่งเสริมกัญชานี้

นโยบายกัญชา ซึ่งเคยเป็นยาเสพติด หรือ นโยบายส่งเสริมคาสิโน ก็เป็นอบายมุขคล้ายๆกัน ก็คงเป็นแนวธุรกิจการเมืองคล้ายกัน แดงมีเจ้าของพรรคมาจากธุรกิจโทรคมนาคม น้ำเงินมีเจ้าของพรรคมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง แล้วประชาชนไทยจะวางใจใน “ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” ได้หรือไม่ ? โครงการอย่างแลนด์บริดจ์มูลค่าลงทุนกว่า 900,000 ล้านบาท จะคิดกันอย่างสัตย์ซื่อหรือไม่ ? เพราะ ถ้ามีการลงทุนที่สูงมาก แต่ประเทศอาจได้รับผลตอบแทนน้อย ผู้รับเหมาอาจได้กำไรไปแล้ว แต่ประเทศอาจได้โครงการที่สร้างปัญหาผลตอบแทนได้ไม่คุ้มค่าก็เป็นไปได้ เพราะ นักธุรกิจการเมืองมีประโยชน์ทับซ้อนได้

ส้ม “ไม่เก่งจริง” ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ และ เรื่องอธิปไตยไทย คิดได้แต่เรื่องต้องแก้รัฐธรรมนูญ หัวใจของพรรคส้มถูกเปิดเผยโดย คุณ ศิริกัญญา ตันสกุล ทักท้วงนายกฯอนุทินว่า “ให้ตั้งรัฐบาล 4 เดือนมายุบสภา ไม่ใช่ให้มาแจกเงินคนละครึ่ง” เป็นคำพูดสะเทือนใจ ว่านักการเมืองคิดแค่นี้จริงหรือ ? ยังจะเพียงแต่ “พร่ำเพ้อ” เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่านั้นหรือ ? หวังเพียงเกมส์การเมืองเท่านั้น หนุนนายกฯอนุทิน เพียงเพื่อยุบสภา แต่ไม่หวังให้ทำโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเลยจริงๆหรือ

การอภิปรายเหมือนตกใจ เกินความคาดหมายว่า แผน MOA 4 เดือน ไม่คิดว่าจะนำไปสู่โอกาสทอง ของพรรคภูมิใจไทยที่จะสร้างผลงาน ก็ทำให้เห็น “ความไม่เก่งจริง” ของผู้บริหารพรรคส้ม ที่ประเมินเรื่องนี้ไม่ออก ซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกับทัศนะต่อกองทัพ ด้งที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ปราศรัยในช่วงหาเสียงว่า “ทหารมีไว้ทำไม ?” “ประเทศเพื่อนบ้านน่ะ เขาไม่รบกันแล้ว” “และถ้ามีใครรุกรานเรา ผมก็ไม่คิดว่าคุณจะชนะ” ก็ยืนยันความคิดสั้น มองแคบ คิดแต่จะตัดงบทหาร แล้วถ้าจะให้ส้มนำประเทศจริง จะพร้อมให้ดูแลด้านเศรษฐกิจประเทศ และ ด้านการปกป้องอธิปไตยของประเทศไทยได้จริงๆหรือ ?

ถ้าเทียบคน เทียบผลงาน เทียบทีมงาน ฟ้า-แดง-ส้ม-น้ำเงิน เห็นชัดว่า อภิสิทธิ์ ประชาธิปัตย์ สีฟ้า ได้นำ Dream Team เศรษฐกิจระดับโลก เหนือสี แดง-ส้ม-น้ำเงิน จริงๆ

ไทยทน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เพื่อไทยกระอัก! 'อนุทิน' ย้อนเจ็บ มีภาพคู่ทักษิณเยอะ ไม่เห็นมีปัญหา

"อนุทิน" เหน็บ "สุริยะ-โฆษกเพื่อไทย" ไม่รู้เรื่องอะไรเพราะไม่ได้ร่วมวง การสนทนาสำหรับผมต้องระดับสูงขึ้นไป ย้อนเจ็บภาพถ่ายคู่ทักษิณก็มีตั้งเยอะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย

โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ

โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ