คาดพ.ย.สรุปคืนเงินซื้อL6ไม่ถูกรางวัล 'ประธานสลากฯ' ยันต้องพิจารณารอบคอบ

‘ประธานสลากฯ’ คาดได้ข้อสรุปสัดส่วน Cash Back ซื้อสลาก L6 เป็นเงินออมให้ประชาชนไม่เกิน พ.ย. นี้ ก่อนชงเรื่องเข้า ครม. ภายใน ธ.ค. 2568 ยืนยันต้องพิจารณาให้ครบถ้วน รอบคอบ

23 ต.ค. 2568 – นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง และในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงความคืบหน้านโยบายการเพิ่มการออมภาคประชาชน ผ่านโครงการคืนเงินให้กับประชาชน (Cash Back) ที่ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล (L6) ในรูปแบบดิจิทัล และไม่ถูกรางวัล ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาสัดส่วนการคืนเงินให้กับประชาชน โดยจะต้องใช้ความรอบคอบ ซึ่งมองว่ายังมีเวลาในการพิจารณา อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ภายในเดือน พ.ย. 2568 จะได้ทราบตัวเลขการคืนเงินให้ประชาชนอย่างแน่นอน ก่อนที่จะเร่งสรุปในรายละเอียดทั้งหมดเพื่อเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในเดือน ธ.ค.นี้

“ในเรื่องนี้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำหนดจะเอาเรื่องนี้ เข้า ครม.ในเดือน ธ.ค. 2568 และเริ่มใช้ได้ ม.ค. 2569 ดังนั้นตอนนี้ยังพอมีเวลา ส่วนงานที่รับผิดชอบพยายามทำงานให้ครบถ้วน สมบูรณ์ โดยจะต้องพิจารณาอย่างละเอียดว่าจะเอาเงินส่วนไหน ระบบต้องหักได้ Automatic หลังจากนั้นเอาเงินที่คืนไปลงทุนตามแผนที่กำหนด เจ้าตัวหรือเจ้าของเงินจะต้องสามารถตรวจเช็คได้ ก็ทำการบ้านอย่างต่อเนื่องในเรื่องนี้ โดยยอมรับว่าจำนวนเงินคืน อาจจะไม่ได้เยอะมาก แต่ทำเพื่อเป็น gimmick ว่าซื้อสลากไม่ถูก โดยในมุมของคนก็ได้เงินออม และในมุมการขายสลาก L6 แบบดิจิทัลก็เป็นการส่งเสริมการขายในรูปแบบหนึ่ง เช่น จริง ๆ เราอาจจะซื้อสลากแค่ 78 บาทเท่านั้น จากราคาปกติ 80 บาท” นายลวรณ กล่าว

สำหรับหลักการในการคืนเงินให้กับประชาชนนั้น จะนำมาจากสัดส่วน 17% ของค่าใช้จ่ายและค่าบริหารจัดการของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยในการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้น แบ่งสัดส่วน ได้แก่ 1. จัดสรรเป็นเงินรางวัล 60% 2.นำรายได้ส่งเข้ารัฐ 23% และ 3.ค่าใช้จ่ายและค่าบริหารจัดการ 17%

อย่างไรก็ดี ปลัดกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า เงินที่จะคืน จะต้องมา 17% ที่เป็นค่าใช้จ่ายและค่าบริหารจัดการ ของสำนักงานสลากฯ เพราะ 60% เป็นเงินรางวัลตามกฎหมายจะไปตัดในส่วนนี้ไม่ได้ และอีก 23% เป็นเงินนำส่ง ก็ตัดในส่วนนี้ไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นก็ต้องมาดูในส่วน 17% ที่เหลือว่าจะเป็นสัดส่วนเท่าไหร่

“ส่วนนี้เป็นอำนาจของ รมว.การคลังสามารถทำได้เลยไม่ต้องแก้ไขกฎหมาย ไม่ต้องขอ ครม. เมื่อเห็นชอบก็ดำเนินการได้เลย ส่วนที่ต้องเข้าครม. ก็คือ มีเรื่องอื่น เช่น เรื่องระบบ เรื่องเอาเงินไปลงทุนที่ไหน ลงทุนแบบไหน ใครเป็นผู้ดูแลกองทุนรวมกองนี้ ก็ต้องพิจารณาเป็นแพคไป” นายลวรณ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘เอกนิติ’แจงศก.ไทยรับไม่ได้หลังบาทแข็งโป๊ก ถกธปท.ดูแลใกล้ชิด

‘เอกนิติ’ แจงเศรษฐกิจไทยรับไม่ได้หลังบาทแข็งโป๊ก เร่งหารือแบงก์ชาติ ประสานนโยบายดูแลใกล้ชิด พร้อมมอบนโยบายคลังช่วยบรรเทา โยนส่วนราชการ-รัฐวิสาหกิจพิจารณานำเข้าวัตถุดิบที่จำเป็น กระทุ้ง สบน. เร่งคืนหนี้ต่างประเทศ