
คนละครึ่ง พลัสฟีเวอร์ ‘เอกนิติ’ ปลื้มลงพื้นที่ตลาดนัดหลังกระทรวงคลังพบใช้จ่ายสุดคึกคัก ฟุ้งเปิดให้บริการ 1 ชั่วโมงแรก เงินสะพัด 35 ล้านบาท เตรียมลุยโครงการใช้ ai เพิ่มทักษะพ่อค้า-แม่ค้า ดึงออมสินปล่อยกู้ผ่าน MyMo หวังแก้ปัญหากู้นอกระบบ พร้อมการันตี ‘เฟส2’ มาแน่
29 ต.ค. 2568 – นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง เปิดเผยภายหลังงพื้นที่เยี่ยมเยียนผู้ประกอบการร้านค้า และประชาชนที่มาจับจ่ายในโครงการคนละครึ่ง พลัส วันแรก (29 ต.ค.) ณ ตลาดนัดหลังกระทรวงการคลัง ว่า ดีใจที่เห็นร้านค้าขายของได้คึกคัก และประชาชนมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ซึ่งโครงการนี้ช่วยให้ประชาชนประหยัดได้ครึ่งหหนึ่ง ขณะที่การลงทะเบียนร้านค้ามีการตอบรับดี โดยมีบางร้านค้าเท่านั้นที่ยังไม่ได้เปิดเข้าโครงการคนละครึ่ง อย่างไรก็ตาม สามารถเปิดให้ลงทะเบียนร้านค้าได้ถึง 19 ธ.ค.นี้ ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าเข้ามาลงทะเบียนประมาณ 6.4 แสนร้านค้า
“ตัวเลขหลังเปิดดำเนินการ 1 ชั่วโมงแรก (06.00 น.) มียอดขายประมาณ 35 ล้านบาท และเมื่อเวลา 11.00 น. มียอดขายประมาณ 350 ล้านบาท ดังนั้นการที่ใช้ระบบดิจิทัลทำให้เห็นยอดการใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งในส่วนนี้พบว่ามีร้านค้าที่ได้ประโยชน์มีถึง 2 แสนกว่าร้านค้าที่มีการใช้จ่ายแล้วในช่วงเช้าที่ผ่านมา และประชาชนที่ใช้ประมาณ 1.6 ล้านคน ทำให้เชื่อว่าผลการกระตุ้นเศรษฐกิจจะมีผลมากกว่าที่คาดไว้”นายเอกนิติ กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของร้านค้านั้น กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาโครงการเพิ่มทักษะ (Up-Skill/Re-Skill) ให้ผู้ประกอบการ ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ โดยจะมีแรงจูงใจให้มีการฝึกอบรมและเพิ่มทักษะต่าง ๆ เช่น การใช้ ai ในการช่วยให้ขายของได้ดีขึ้น ซึ่งรายละเอียดของโครงการทั้งหมดอยู่ระหว่างการออกแบบ ส่วนการให้บริการผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ต่าง ๆ นั้น จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 2568 ซึ่งพบว่ามีการดึงร้านค้าเข้าไปขายในออนไลน์ได้ด้วย อีกทั้งยังได้หารือกับธนาคารออมสิน ที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนพ่อค้าตัวเล็กตัวน้อย กู้เงินผ่านแอปพลิเคชัน MyMo ซึ่งจะช่วยลดการกู้เงินนอกระบบได้
สำหรับโครงการคนละครึ่ง พลัส เฟส 2 นั้น นายเอกนิติ ระบุว่า มีอย่างแน่นอน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบหลักเกณฑ์ และเงื่อนไข ซึ่งเบื้องต้นอาจให้สิทธิสำหรับประชาชนที่ตกหล่นลงทะเบียนในเฟสแรกไม่ทันก่อน เพื่อให้มีความครอบคลุมมากที่สุด
“ได้รายงานให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ทราบแล้วว่าโครงการคนละครึ่ง พลัส วันแรกมีความคึกคักอย่างมาก ซึ่งนายกฯ มองเห็นว่าโครงการได้รับการตอบรับที่ดี จึงได้สั่งการให้เร่งออกแบบโครงการในเฟสที่ 2 ทันที ส่วนงบประมาณที่จะมาใช้ดำเนินการนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งจะต้องพิจารณาทั้งเรื่องจำนวนสิทธิ งบประมาณ และวินัยการคลังด้วย ทั้งในส่วนของผู้ที่ได้สิทธิแต่ไม่ได้ใช้ในเวลาที่กำหนดก็อยู่ระหว่างพจิารณาว่าอาจจะดึงเม็ดเงินในส่วนนี้มาใช้ในโครงการเพิ่มทักษะให้ผู้ประกอบการร้านค้าแทน” นายเอกนิติ กล่าว
นายเอกนิติ กล่าวอีกว่า จากการเร่งดำเนินมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐ ทำให้เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/2568 จะเติบโตได้มากกว่า 0.3% อย่างแน่นอน จากเดิมที่คิดว่าจะติดหล่ม เพราะนอกจากโครงการคนละครึ่ง พลัสแล้ว ยังมีโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรองที่เริ่มดำเนินการพร้อมกันด้วย รวมทั้งการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของส่วนราชการ โดยเฉพาะในส่วนของการอบรม สัมมนา ซึ่งเชื่อว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยให้เกิดการใช้จ่าย เศรษฐกิจคึกคักมากขึ้น
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่ง พลัสวันแรก (29 ต.ค.68) ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างดี โดยโครงกานี้จะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และช่วยทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศคึกคักมากขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการคนละครึ่ง พลัส เฟส2 นั้น รัฐบาลยืนยันว่ามีการดำเนินการอย่างแน่นอน โดยขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสม หลักเกณฑ์ เงื่อนไข รวมถึงลูกเล่นที่จะช่วยดึงดูดความสนใจของประชาชนเพิ่มมากขึ้น
“คนละครึ่ง พลัส เฟสแรกจะต้องใช้จ่ายภายในวันที่ 11 พ.ย. 2568 หากไม่ใช่จ่ายตามที่กำหนดจะถูกตัดสิทธิ ซึ่งฝ่ายนโยบายกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะนำเงินในส่วนนี้ไปใช้ดำเนินการในเฟสต่อไป หรือไม่ อย่างไร” ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'วิโรจน์' ขีดเส้น 2 สัปดาห์ต้องยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายคนไทยที่ร่วมขบวนการ 'เบนสมิธ' เพิ่มเติม
'วิโรจน์' ลั่น เส้นทางการเงินการลากคอคนไทยตัวใหญ่มาลงโทษสำคัญกว่าภาพถ่าย'เบนสมิธ' กับบุคลสำคัญ ร่วมกับ 'อนุทิน' ขีดเส้น 2 สัปดาห์ต้องยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายคนไทยที่ร่วมขบวนการได้เพิ่มเติมอีก


