
‘คีรี’ เผย กทม. ชำระค่าเดินรถส่วนต่อขยายรวมดอกเบี้ยกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท ใจดี ลดดอกเบี้ยให้ 200 ล้านบาท พร้อมเห็นด้วยแนวคิดรัฐบาลค่าโดยสาร 40 บาทเหมาจ่ายยันพร้อมร่วมมือคาดเพิ่มผู้โดยสารถึง 60–70%
30 ต.ค. 2568 – นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าเรื่องหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า เมื่อวันที่ 30 ต.ค.นี้ บริษัทได้รับการชำระหนี้ ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (O&M) จากกรุงเทพมหานคร(กทม.)ค้างชำระบริษัทรวมทั้งสิ้น 36,444 ล้านบาทนี้ ประกอบด้วยเงินต้น 31,482 ล้านบาท และดอกเบี้ย 4,962 ล้านบาท โดย กทม.ได้เจรจาขอลดดอกเบี้ยและบริษัทฯมีการลดให้ประมาณ 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ เนื่องจาก กทม.ตกลงที่จะจ่ายตามกำหนดเส้นตายที่ได้มีการตกลงกันไว้วันที่ 31 ต.ค.2568 โดยการชำระเงินครั้งนี้ถือเป็นสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุน ผู้ถือหุ้นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ หลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำวินิจฉัยยืนยันความชอบด้วยกฎหมายของสัญญา โดยได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อกำหนดกรอบการชำระหนี้ที่ชัดเจน ว่ากทม. จะจ่ายค่าเดินรถให้บริษัททุกเดือนในวันที่20ของเดือนหลังจากที่บริษัทสรุปยอดให้กทม.ในทุกๆวันที่ 3 ของเดือนโดยไม่ควรมีความล่าช้าในการจ่ายค่าจ้างเดินรถอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากรณีที่มีการค้างชำระหนี้และมีการฟ้องร้องคดีบริษัทไม่ได้มีความต้องการที่จะได้รายได้จากดอกเบี้ยเนื่องจากทราบดีว่าเป็นเงินจากภาษีของประชาชน แต่การดำเนินการตามกฎหมายเป็นไปตามภาระและความจำเป็นในเชิงธุรกิจที่เกิดขึ้นกับบริษัทจริง ๆ ซึ่งหากที่ผ่านมา กทม.มีการจ่ายตามปกติในช่วงที่ผ่านมาก็จะไม่ต้องมีการจ่ายดอกเบี้ยในส่วนนี้ เงินที่ได้รับจากการชำระหนี้ในครั้งนี้บีทีเอสมีแผนที่จะนำไปใช้ชำระหนี้เดิมที่มาจากการกู้ยืม ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่อีก 2 หมื่นล้านบาทเตรียมที่จะมีการนำมาใช้จ่ายหมุนเวียน และลงทุนเพิ่มเติม
นายคีรี กล่าวถึง นโยบายของรัฐบาลเรื่องรถไฟฟ้า 40 บาทเหมาจ่ายทั้งวัน โดยเห็นด้วยกับนโยบายนี้และพร้อมที่จะร่วมมือ เนื่องจากดูแล้วอาจจะถูกกว่ารถไฟฟ้า 20 บาทและน่าจะทำให้มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นได้ถึง 60-70% ส่วนแนวคิดการซื้อคืนสัมปทานของรัฐฯมองว่าแนวทางการรวมรถไฟฟ้าทุกสาย และรฟม.เป็นเจ้าของนั้น ก็ยอมรับว่ามีแนวคิดนี้ ซึ่งเหลือเวลาสัมปทานอีก 4 ปี หรือหมดสัมปทานปี 2572 แต่การซื้อคืนจะต้องใช้เงินจำนวนมาก จะมีวิธีการดำเนินการอย่างไร ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการเจรจาจากภาครัฐ และส่วนตัวก็ยังไม่ได้คำนวนต้นทุนหากรัฐจะซื้อคืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘เอกนิติ’แจงศก.ไทยรับไม่ได้หลังบาทแข็งโป๊ก ถกธปท.ดูแลใกล้ชิด
‘เอกนิติ’ แจงเศรษฐกิจไทยรับไม่ได้หลังบาทแข็งโป๊ก เร่งหารือแบงก์ชาติ ประสานนโยบายดูแลใกล้ชิด พร้อมมอบนโยบายคลังช่วยบรรเทา โยนส่วนราชการ-รัฐวิสาหกิจพิจารณานำเข้าวัตถุดิบที่จำเป็น กระทุ้ง สบน. เร่งคืนหนี้ต่างประเทศ

