ผุดไอเดียรื้อโควตาหวยสมาคม-มูลนิธิคนพิการ ‘ประธานสลากฯ’ โยกจัดสรรแบบดิจิทัลโดยตรง

‘ประธานสลากฯ’ ผุดไอเดียรื้อโควตาหวยสมาคม-มูลนิธิคนพิการ โยกจัดสรรแบบดิจิทัลตรงให้กับคนพิการที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงพม. 2 ล้านราย หวังเพิ่มความโปร่งใส-เป็นธรรม พร้อมเดินหน้าตรวจสอบหลัง ‘สมาคมกีฬาคนตาบอด’ ร้องบริหารโควตาไม่โปร่งใส

13 พ.ย. 2568 – นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ในวันนี้ (14 พ.ย.) ที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ จะมีการหารือถึงแนวทางการจัดการภายหลังจากที่สมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย ได้มีการร้องเรียนว่าสมาคมฯ มีการจัดสรรโควตาสลากฯ ให้แก่นักกีฬาตาบอดอย่างไม่เป็นธรรมและโปร่งใส โดยในหลักการก็จะต้องมีการเข้าไปตรวจสอบว่ามีการจัดสรรโควตาให้กับสมาชิกไม่เป็นไปตามเงื่อนไขจริงหรือไม่ มีการทำผิดจริงหรือไม่ และผิดอย่างไร ต้องมีการลงไปตรวจสอบรายละเอียดอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ ยืนยันว่าสำนักงานสลากฯ ยังไม่เคยพูดถีึงเรื่องการตัดโควตาแต่อย่างใด เพราะตามขั้นตอนและหลักการจะต้องลงไปตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดก่อนว่า องค์กรที่ถูกร้องนั้นมีการกระทำความผิดจริงหรือไม่ วิธีการที่ทำผิดคืออะไร รายละเอียดในส่วนนี้ยังไม่มีความชัดเจน จึงต้องลงไปตรวจสอบก่อน ซึ่งขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมดมีกำหนดชัดเจนอยู่แล้ว หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง ก็อาจจะมีการตักเตือน ปรับโควตา ทั้งหมดมีกลไกของสำนักงานสลากฯ กำหนดไว้ชัดเจนอยู่แล้ว

“สำนักงานสลากฯ พร้อมที่จะมาตรวจสอบ แก้ไข ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นในจุดที่เกี่ยวข้องกับเรา แต่ต้องชี้แจงก่อนว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้มาจากการบริหารจัดการของสมาคม มูลนิธิ และองค์กรพิการต่าง ๆ ที่ได้รับโควตาไป ซึ่งจริง ๆ เมื่อได้รับโควตาไปแล้วก็ควรจะต้องบริหารจัดการให้ดีกับสมาชิกของแต่ละองค์กร มองว่าปัญหาเหล่านี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นเลยหากทุกองค์กรบริหารอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา แต่เมื่อมีการร้องเรียนเข้ามาที่สำนักงานสลากฯ เราก็อยู่เฉยไม่ได้ ต้องลงไปตรวจสอบและทำอะไรสักอย่าง” นายลวรณ กล่าว

นอกจากนี้ จะมีการหารือในที่ประชุมฯ ถึงแนวทางในการจัดสรรโควตาสลากสำหรับผู้พิการใหม่ โดยแนวคิดหนึ่งคือ การดำเนินการผ่านข้อมูลการขึ้นทะเบียนผู้พิการของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จำนวน 2 ล้านกว่าราย โดยจะเป็นการจัดสรรโควตาสลาก 6 หลัก (L6) แบบดิจิทัลตรงให้กับผู้พิการที่ขึ้นทะเบียน ซึ่งข้ามสมาคม มูลนิธิ องค์กรพิการต่าง ๆ ไป ซึ่งตรงนี้จะมีข้อดีในแง่ของความโปร่งใส และเป็นธรรม โดยจะต้องมาหารือกันว่าแนวคิดดังกล่าวสามารถดำเนินการได้หรือไม่ อย่างไร มีผลกระทบต่อสมาคม มูลนิธิ องค์กรพิการต่าง ๆ หรือไม่

อย่างไรก็ดี ในอีกมิติที่ต้องนำมาพิจารณาจากการจัดสรรโควตาแบบดิจิทัล คือ อาจจะขายไม่หมดในทุกงวด ดังนั้นก็ต้องมาดูว่าหากงวดที่ขายไม่หมดจะดำเนินการอย่างไร ตรงนี้มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากที่จะต้องมีการหารือกัน

“การจัดสรรโควตาตรงนั้น มองว่าหากอยากทำก็น่าจะทำได้ แต่เรายังไม่รู้ว่าติดขัดอะไรไหม ตรงนี้เป็นแนวคิด บอร์ดสลากฯ ก็ต้องมาหารือกัน แต่เรามองว่ามันเป็นเรื่องของความโปร่งใส และมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม หากทุกฝ่ายรับได้ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี แต่อีกประเด็นที่ต้องคำนึงถึง คือ หากเพิ่มการจัดสรรของคนพิการที่ขึ้นทะเบียนกับ พม. อีก 2 ล้านกว่าราย คนละ 5 เล่ม ก็เท่ากับต้องเพิ่มสลากดิจิทัลในระบบอีก 10 ล้านใบ ซึ่งปัจจุบันมีสลากดิจิทัลในระบบ 27 ล้านใบอยู่แล้ว ต้องมาดูว่าจะขายหมดหรือไม่ ต้องดูจังหวะ มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะที่ต้องพิจารณา โดยท้ายที่สุดจะต้องพิจารษให้คนที่ได้โควตาได้รับผลกระทบน้อยที่สุด” นายลวรณ กล่าว