'โรยัล คานิน' ความสำเร็จกับการขยายฐานคนรุ่นใหม่ เทรนด์ทาสแมวมาแรงดันธุรกิจโต

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสัตว์เลี้ยง ยังคงเป็นดาวเด่นและมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้การแข่งขันในตลาดนี้ดุเดือด มีผู้เล่นเพิ่มขึ้นในทุกปี ขณะเดียวกันการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงสักหนึ่งตัวมีเรื่องต้องคำนึงถึงมากมาย เพราะในยุคนี้เทรนด์ของการเลี้ยงสัตว์เปรียบเสมือนมีเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบตัวที่ต้องดูแลไปทั้งชีวิต และต้องให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ สุขภาพ อาหารการกิน และอื่นๆ อีกมาก โดยเฉพาะเรื่องของ ‘อาหาร’ นับเป็นจุดเริ่มต้นของสุขภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยงอีกด้วย 

ยอดขายโตสองหลักสวนกระแสเศรษฐกิจ

22 พ.ย. 2568 – นายสัตวแพทย์จดล สุวรรณฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรยัล คานิน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ พบว่าเติบโตกว่าที่คิด โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมายอมรับว่ามีความกังวลต่อสภาพเศรษฐกิจที่จะกระทบต่อกำลังซื้อผู้บริโภค พบว่าธุรกิจยังสามารถเติบโตได้สองหลัก โดยมีปัจจัยมาจากการที่ลูกค้าเดิมยังใช้จ่ายอยู่ไม่ได้หายไปไหน อาจจะมีหายบ้างแต่ไม่ได้เยอะมาก

สกาย-นานิ ขยายฐานคนรุ่นใหม่

ขณะเดียวกันการได้ สกาย-วงศ์รวี นทีธร และ นานิ-หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ ในฐานะ Friend of Royal Canin เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ นั้น ทำให้บริษัทสามารถขยายฐายลูกล้าในกลุ่ม Gen Z ได้มากขึ้น ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวรู้จักแบรนด์มากกว่าเดิม ผ่านการทำคอนเทนต์ในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ พบว่ายอดการเข้าถึงต่างๆ เติบโตหลายร้อยเปอร์เซน นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และการนำสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สูตรลูกสุนัขและลูกแมว ควบคู่ไปกับมีการประชาสัมพันธ์ให้เห็นถึงความสำคัญของการเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพของเหล่าสัตว์เลี้ยงที่เริ่มจากตอนที่เขายังเล็กหรือเป็นลูกสุนัขลูกแมวอยู่

“หากสัตว์เลี้ยงมีอายุยืนขึ้น นั่นแสดงว่ามีการเลี้ยงดูที่ดี ซึ่งที่ผ่านมาเราให้ความสำคัญกับการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านโภชนาการอาหารสำหรับน้องแมวน้องหมาที่ถูกต้องผ่านกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพของน้องสี่ขาอย่างยั่งยืน สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว” นายสัตวแพทย์จดล กล่าว

ทาสแมวมาแรงหนุนธุรกิจเติบโต

สำหรับเทรนด์การเลี้ยงสัตว์ในประเทศไทย มองว่าผู้คนจะหันมาเลี้ยงแมวเพิ่มมากขึ้น โดยหากคนจะตัดสินใจเลี้ยงสัตว์ในยุคนี้ จะเลือกแมวมากกว่า เห็นได้จากอัตราการเกิดของลูกแมวในปีนี้เพิ่มขึ้นมากถึง 5% ขณะที่อัตราการเกิดใหม่ของลูกสุนัขน้อยลงเหลือเพียง 2% ในปีนี้ จากปกติจะเติบโต 4- 5% ปัจจัยหลักที่ทำให้คนหันมาเลี้ยงแมวมากขึ้นเป็นเพราะใช้พื้นที่ไม่มากเหมาะกับการเลี้ยงในคอนโดมิเนียม หรือการจะพาไปทำกิจกรรมนอกบ้านหรือท่องเที่ยวก็อาจจะสะดวกกว่าการเลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่

จากปัจจัยข้างต้นทำให้ภาพรวมธุรกิจของบริษัททั้งหมดพบว่าอาหารแมวเติบโตมากถึง 15% ปกติเติบโต 8- 9% เนื่องจากบริษัทได้เอาสินค้าใหม่เข้ามาเพิ่ม รวมถึงจำนวนผู้เลี้ยงใหม่ นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการนำสินค้าสำหรับแมวสูงอายุเข้ามาเพิ่ม ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค มองว่าตลาดนี้จะเป็นอีกหนึ่งตลาดที่น่าสนใจมากขึ้น และอาจจะมีผู้เล่นหันมาทำตลาด

ลุยการตลาดเต็มสูบ-จ่อนำสินค้าใหม่เสริมทัพ

นายสัตวแพทย์จดล กล่าวอีกว่า แนวทางการทำตลาดในปี 2569 บริษัทจะเน้นการสื่อสารไปยังผู้บริโภคผ่านช่องทางสื่อดิจิทัลให้มากขึ้น หลังจากประสบความสำเร็จในปีนี้ โดยเฉพาะแพลตฟอร์ม TikTok ที่ได้รับผลตอบรับที่ดี จะเพิ่มงบการตลาดเชิงรุกกว่าเดิมถึง 30% ขณะที่ออนกราวนด์ยังคงทำอยู่ แต่จะเน้นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์และได้ผลเท่านั้น ควบคู่ไปกับการเสริมพอร์ตในกลุ่มอาหารสัตว์สำหรับคุณหมอ เนื่องจากการรักษาสัตว์อย่างสุนัขและแมวสูงวัยต้องการอาหารที่ประกอบรักษาโรคมากขึ้น จึงมองว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสธุรกิจที่สามารถขยายต่อไปได้ เบื้องต้นจะมีสินค้าใหม่ในทุกกลุ่มประมาณ 12 รายการ ส่วนมากจะเป็นอาหารสำหรับแมวมากกว่าสุนัข