ธุรกิจร้านอาหารเฮ! หลังรัฐปลดล็อกเวลาขายแอลกอฮอล์รับไฮซีซั่น

‘ประธานธุรกิจร้านอาหาร’ ขอบคุณรัฐบาลหลังรัฐปลดล็อกเวลาขายแอลกอฮอล์ช่วงบ่าย14.00–17.00 น. มั่นใจช่วยกระตุ้นธุรกิจร้านอาหารทั่วไทย ดันรายได้รับฤดูกาลท่องเที่ยว พร้อมเรียกร้องเดินหน้าปลดล็อกถาวรให้สอดคล้องโลกปัจจุบัน

3 ธ.ค.2568-นายสรเทพ สตีฟ ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมโฮสเทลประเทศไทย เปิดเผยหลังรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล และคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีมติปลดล็อกข้อจำกัดการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงเวลา 14.00–17.00 น. โดยคำนึงถึงบริบทปัจจุบันของประเทศไทยที่เป็นประเทศท่องเที่ยวระดับโลก แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากยุคที่คำสั่งคณะปฏิวัติปี 2515 ออกมาเพื่อป้องกันไม่ให้ข้าราชการออกไปดื่มระหว่างเวลาราชการ ถือเป็นข่าวดีของภาคธุรกิจร้านอาหารทั่วประเทศในช่วงโค้งสุดท้ายของปี

สำหรับการปลดล็อกครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณบวกสำคัญ ทั้งต่อผู้ประกอบการและต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เนื่องจากกฎหมายฉบับที่เพิ่งประกาศใช้ก่อนหน้านี้สร้างความสับสนให้กับธุรกิจจำนวนมาก และยังส่งผลกระทบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซั่นปลายปีที่กำลังมาถึง ที่ผ่านมาสื่อมวลชนต่างประเทศให้ความสนใจและรายงานข่าวเกี่ยวกับโทษของนักท่องเที่ยวที่นั่งดื่มในร้านอาหารช่วงเวลาที่กฎหมายห้าม ทำให้หลายคนเกิดความกังวล และถึงขั้นทบทวนการเดินทางมายังประเทศไทย โดยอาจเปลี่ยนไปเลือกประเทศอื่นในอาเซียนแทน ซึ่งเป็นผลกระทบเชิงภาพลักษณ์ที่ไม่ควรมองข้าม

ทั้งนี้ ในส่วนของภาคธุรกิจร้านอาหาร การเปิดให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงบ่ายจะช่วยเพิ่มรายได้จากการขายอาหารอย่างมีนัยสำคัญ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20% จากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มักรับประทานอาหารกลางวันช้ากว่าคนไทย และนิยมใช้ช่วงบ่ายพักผ่อนในร้านอาหารหรือบาร์เย็น ๆ เพื่อดื่มเบียร์หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การเปิดขายจึงช่วยให้ลูกค้านั่งได้นานขึ้น สั่งอาหารมากขึ้น และยังทำให้ร้านไม่มีช่วงฟันหลอรายได้หายไปถึง 3 ชั่วโมงเหมือนอดีต ซึ่งส่งผลต่อสภาพคล่องของร้านอาหารโดยตรง

นายสรเทพ กล่าวว่าประเทศไทยเป็นเมืองร้อน การเปิดโอกาสให้ร้านอาหารเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ตามความต้องการของนักท่องเที่ยวเป็นการตอบโจทย์ประสบการณ์ท่องเที่ยวอย่างแท้จริง ไม่เพียงกระตุ้นเม็ดเงินให้ธุรกิจร้านอาหาร แต่ยังช่วยสร้างความประทับใจและความสะดวกสบายแก่ผู้มาเยือน เชื่อว่าการแก้กฎหมายครั้งนี้จะช่วยทำให้บรรยากาศท่องเที่ยวช่วงปลายปีและต้นปีคึกคักขึ้น

ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เมื่อข้อจำกัดที่ไม่สอดคล้องกับสภาพสังคมปัจจุบันถูกปลดออก ก็ยิ่งเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านท่องเที่ยวเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน อีกทั้งยังมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากผ่านรายได้ของผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วประเทศ

นายสรเทพ กล่าวย้ำว่า การปลดล็อกครั้งนี้ควรเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น และเห็นควรให้รัฐบาลเดินหน้าปลดล็อกแบบถาวร เพราะกฎหมายเดิมไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ไม่เข้ากับไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยว และไม่ตอบสนองบริบทของโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว การปรับกฎหมายให้ทันยุคจึงเป็นการเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในระยะยาวอย่างแท้จริง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง