
ฉลุย บอร์ด รฟท.ไฟเขียว ‘อนันต์ โพธิ์นิ่มแดง’ นั่งผู้ว่าการรถไฟคนที่ 21 เดินหน้าเจรจาผลตอบแทน ก่อนเสนอคลังพิจารณา พร้อมชง ครม. ชุดใหม่เคาะ เร่งภารกิจ รถไฟความเร็วสูง–แก้ปมรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน–ยกระดับการให้บริการขนส่งทางราง
26 ธ.ค.2568-รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (บอร์ด รฟท.)แจ้งว่า เมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมฯได้พิจารณาวาระในการสรรหาผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยคนใหม่ ภายหลังนางสาวศุกร์ศิริ อภิญญานุวัฒน์ กรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย ประธานกรรมการสรรหาฯได้ลงนามในประกาศเปิดรับสมัครผู้ว่าการ รฟท. โดยเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 21 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา
สำหรับผลการเปิดรับสมัครพบว่ามีผู้ยื่นใบสมัครจำนวน 2 ราย ประกอบด้วย นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย และผู้สมัครจากภายนอก รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ซึ่งคณะกรรมการสรรหาได้ดำเนินกระบวนการคัดเลือกตามขั้นตอน รวมถึงการแสดงวิสัยทัศน์
แหล่งข่าวระบุว่า จากการแสดงวิสัยทัศน์และคุณสมบัติโดยรวม นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง ได้รับคะแนนสูงสุด ที่ประชุมบอร์ด รฟท. จึงมีมติเห็นชอบให้เสนอชื่อนายอนันต์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย คนที่ 21 สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะเป็นการเจรจาค่าตอบแทนและเงื่อนไขการจ้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน ธ.ค.2568 คาดว่าจะเสนอรายละเอียดเสนอให้ที่ประชุมบอร์ด รฟท. พิจารณาอีกครั้งในช่วงต้นปีหน้า ก่อนเสนอเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาให้ความเห็น จากนั้นจะเสนอผ่านกระทรวงคมนาคม เพื่อเตรียมนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และลงนามในสัญญาจ้างอย่างเป็นทางการต่อไป
สำหรับภารกิจของผู้ว่าการ รฟท. คนใหม่ โดยเฉพาะการกำกับ ดูแล และผลักดันโครงการยุทธศาสตร์ด้านระบบรางของประเทศให้เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย–จีน ช่วงกรุงเทพมหานคร–นครราชสีมา รวมถึงการผลักดันระยะต่อขยายเฟส 2 ให้เป็นไปตามแผน พร้อมทั้งการเร่งแก้ไขปัญหาและอุปสรรคของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง–สุวรรณภูมิ–อู่ตะเภา ซึ่งเป็นโครงการสำคัญในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เป็นต้น
นอกจากนี้ ผู้ว่าการ รฟท. คนใหม่ยังต้องให้ความสำคัญกับการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางราง ทั้งในส่วนของการเดินรถ ความปลอดภัยของผู้โดยสาร พร้อมกับการพัฒนาขบวนรถไฟสถานี และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้มีความทันสมัย สะดวก และตอบโจทย์การใช้งานของประชาชนมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้งภาพลักษณ์และประสิทธิภาพของการรถไฟแห่งประเทศไทยในระยะยาวต่อไป

