ทอท. เชื่อฟื้นการบิน 'ไทย-ซาอุฯ' ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ -ท่องเที่ยวของไทย

ทอท.ชี้แจงกรณีสายการบิน “Saudi Arabian Airlines”กลับมาทําการบินอีกครั้ง ในรอบ32ปีมั่นใจจะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การลงทุน ของประเทศไทย คาดจะสร้างรายได้ให้แก่ ทอท. เพิ่มมากขึ้นในอนาคต

2 มี.ค.2565 – นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อํานวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีผู้ไลฟ์สดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ไม่เห็นด้วยที่สายการบิน Saudi Arabian Airlines ได้กลับมาเปิดเส้นทางบินตรงจากประเทศซาอุดีอาระเบียมายังประเทศไทย ซึ่งการไลฟ์สดดังกล่าวมีเนื้อหาที่อาจทํา ให้สาธารณชนเกิดความเข้าใจผิดและสร้างความสับสนได้

นายกิตติพงศ์ กล่าวว่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ขอชี้แจง ว่า การที่สายการบิน Saudi Arabian Airlines ได้กลับมาเปิดเส้นทางบินตรงมายังประเทศไทยอีกครั้ง เป็นผลมา จาก นโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ได้เดินทาง เยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้เพื่อฟื้นความสัมพันธ์ ระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบียนํามาสู่การฟื้นฟูความร่วมมือของทั้ง 2 ประเทศในหลายด้าน รวมถึงส่งผลดี ต่อการดําเนินงานของ ทสภ. และ ทอท. โดยในส่วนของ ทสภ. เมื่อสายการบิน Saudi Arabian Airlines มีการเปิดให้บริการเที่ยวบินประจํา เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งจะส่งผลให้มีผู้โดยสารเดินทางจาก ประเทศซาอุดีอาระเบียจากการที่หยุดทําการบินมากว่า 32 ปี และคาดว่าจะสร้างรายได้ให้แก่ ทอท. เพิ่มมาก ขึ้นในอนาคต

นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า ในส่วนของประเทศไทยจะยิ่งมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้น จากการที่มีกลุ่ม นักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากประเทศซาอุดีอาระเบียเข้ามา โดยกลุ่มหลักเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มรักษาพยาบาล กิจกรรมท่องเที่ยวทางทะเล นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และกิจกรรมช้อปปิ้ง จุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต พัทยา พังงา กระบี่ เกาะสมุย และเชียงใหม่ ซึ่งคาดการณ์ว่าในอีก 1 ปีจะมี เม็ดเงินเข้ามาหมุนเวียนในประเทศหลายพันล้านบาท

นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า ดังนั้น การที่สายการบิน Saudi Arabian Airlines กลับมาทําการบินที่ ทสภ. จะส่งผลดีในแง่ของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ถือเป็นนิมิตหมายอันดีในการเชิญชวนและส่งเสริมให้ นักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบียเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นปัจจัยสําคัญที่จะส่งเสริม ในการขยายตลาดนักท่องเที่ยว ก่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

’สุวรรณภูมิ‘ พร้อมรับคนเดินทางช่วงตรุษจีนคาดใช้บริการวันละ 1.8 แสนคน

‘สนามบินสุวรรณภูมิ’คาดผู้โดยสารเดินทางช่วงตรุษจีน 4-16 ก.พ. วันละ 182,000 คน เตรียมแผนรองรับการเดินทางให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ลุ้นฟรีวีซ่าไทย-จีน หนุนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น

สุวรรณภูมิเตรียมพร้อมรับแรงงานไทยกลับบ้าน

“ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ”ลุยภารกิจอพยพคนไทยจากอิสราเอล พร้อมแผนรับคนไทยกลุ่มที่สองโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศจะถึงกรุงเทลอาวีฟในวันที่ 16 ต.ค.นี้ พร้อมจัดเที่ยวบินพาณิชย์เพิ่มเติมสำหรับกลุ่มถัดไปตามแผนการอพยพของทางการ 13 ต.ค. 2566 - นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.)เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ในประเทศอิสราเอล และมีชาวไทยในประเทศอิสราเอลแสดงความประสงค์ขอเดินทางกลับประเทศไทยนั้น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้ติดตามสถานการณ์และประสานการทำงานกับหน่วยงานเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ซึ่งในการนี้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ได้มีข้อสั่งการให้ทสภ. ร่วมสนับสนุนภารกิจอพยพชาวไทยตามนโยบายของรัฐบาลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ ทสภ. ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศในการปฏิบัติภารกิจรับชาวไทยเดินทางกลับจากประเทศอิสราเอลกลุ่มแรกซึ่งเป็นแรงงานที่ได้รับบาดเจ็บและแรงงานที่อพยพจากพื้นที่เสี่ยงภัย กำหนดถึง ทสภ. ในวันที่ 12 ตุลาคม 2566 โดยสายการบินแอล อัล อิสราเอลแอร์ไลน์ เที่ยวบิน LY 083 เดินทางถึงไทยในเวลา 11.16 น. โดยมีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสุทิน คลังแสงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสันติ พร้อมพัฒน์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมในการต้อนรับด้วย โดย ทสภ. ได้ประสานหน่วยงานที่ปฏิบัติงาน ณ ทสภ. อาทิ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 สำนักงานศุลกากรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ร่วมกันอำนวยความสะดวกชาวไทยรวมถึงการส่งต่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บให้ได้รับการรักษาต่อไป นายกิตติพงศ์ กล่าวต่อว่า กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมว่า ภารกิจอพยพคนไทยกลับจากอิสราเอลกลุ่มที่สองโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศจะถึงกรุงเทลอาวีฟในวันที่ 16 ตุลาคม 2566 และจะจัดเที่ยวบินพาณิชย์เพิ่มเติมสำหรับกลุ่มถัดไปตามแผนการอพยพคนไทยของทางการ ซึ่ง ทสภ. จะประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดเพื่อร่วมสนับสนุนภารกิจในการช่วยเหลือคนไทยกลับบ้านให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามนโยบายของรัฐบาล สำหรับผู้ที่ต้องการทราบเกี่ยวกับเที่ยวบินอพยพคนไทยจากอิสราเอล ขอให้ติดตามข้อมูลที่เป็นทางการ จากกระทรวงการต่างประเทศต่อไป

แรงงานไทยใน อิสราเอล ล็อต 2 กลับถึงไทยเย็นนี้

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ช่วยอำนวยความสะดวกแรงงานไทยซึ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สงครามและหลบหนีมาจากพื้นที่อันตราย จำนวน 19 คน

'บิ๊กทิน' ยันทัพฟ้าเตรียมเครื่องบินอพยพคนไทยพร้อมแล้ว

รมว.กลาโหมร่วมต้อนรับแรงงานไทยกลับบ้าน ย้ำสั่งกองทัพอากาศ เตรียมเครื่องบินพร้อมแล้ว เล็งประสานเช่าสายการบินพาณิชย์สำรอง หากมีความประสงค์เพิ่ม

อึ้ง! พิพัฒน์แจงตัวเลขอิสราเอลเยียวยาแรงงานไทยส่วนรัฐบาลยังไม่เคาะ!

'3รมต.-1รมช.' พร้อมใจมารับแรงงานไทย 'พิพัฒน์'เผยประสานรัฐบาลอิสราเอลวางแนวทางเยียวยาแล้ว ด้าน 'แรงงาน' สมทบเพิ่ม ผู้เสียชีวิต 40,000 บาท บาดเจ็บ 15,000 บาท