EXIM BANK แนะผู้ส่งออกรับมือความเสี่ยงทางการค้าจากวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน

2 มี.ค. 2565 – นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากที่รัสเซียพยายามรุกคืบเข้าถึงกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ทำให้นานาชาติ โดยเฉพาะประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Organisation : NATO) และชาติตะวันตก ประกาศมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจถึงขั้นจะถูกโดดเดี่ยวจากระบบการเงินโลก โดยประกาศตัดรัสเซียออกจากระบบสวิฟต์ (Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication : SWIFT) ซึ่งเป็นระบบการส่งข้อความทางการเงินที่มีความมั่นคงปลอดภัยสูงที่สถาบันการเงินกว่า 11,000 แห่งใช้บริการและครอบคลุมการใช้งานในกว่า 200 ประเทศ กระทบต่อการใช้บริการ SWIFT ของสถาบันการเงินและบริษัทในรัสเซียจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 300 แห่ง ส่งผลให้บริษัทเอกชนของรัสเซียไม่สามารถเข้าถึงธุรกรรมทางการเงินได้อย่างราบรื่น

ทั้งนี้ไทยอาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ในปัจจุบันเท่าไรนัก เนื่องจากไทยส่งออกไปรัสเซียและยูเครนเพียง 0.4% และ 0.05% ของมูลค่าส่งออกรวม สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปรัสเซียและยูเครน ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลไม้กระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และเม็ดพลาสติก อย่างไรก็ตาม ในทางอ้อม ผู้ส่งออกไทยอาจประสบปัญหาต้นทุนการผลิตสูงขึ้นเนื่องจากรัสเซียซึ่งเป็นมหาอำนาจด้านพลังงานของโลก โดยเฉพาะการเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติ น้ำมันดิบ และสินแร่ต่าง ๆ ถูกมาตรการลงโทษ ทำให้ส่งออกสินค้าดังกล่าวยากลำบาก เช่นเดียวกับสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และธัญพืชชนิดต่าง ๆ ซึ่งรัสเซียและยูเครนเป็นผู้ผลิตอันดับต้น ๆ ของโลก เมื่อเกิดปัญหาความตึงเครียดส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ พลังงาน และวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น กระทบต่อต้นทุนการผลิตและต้นทุนโลจิสติกส์สูงขึ้นตาม ซึ่งในที่สุดอาจกระทบต่อกำไรของผู้ประกอบการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ผู้ส่งออกไทยควรต้องบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศและบริหารจัดการต้นทุนการผลิตและการขนส่ง เพื่อป้องกันผลกระทบจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การค้าและการเมืองระหว่างประเทศ ตลอดจนความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งล่าสุดเงินรูเบิลของรัสเซียอ่อนค่าลงถึงราว 30% จากต้นปี 2565 ผู้ประกอบการไทยจึงควรบริหารจัดการความเสี่ยงดังกล่าว รวมถึงการปรับวิธีการชำระเงินค่าสินค้า เป็นต้น โดย EXIM BANK มีบริการให้คำปรึกษาแนะนำเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่เหมาะสมให้แก่ผู้ส่งออก

“EXIM BANK ติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ค้าขายและลงทุนระหว่างประเทศ ทั้งในตลาดรัสเซีย ยูเครน และทวีปยุโรปโดยรวม ซึ่งไทยส่งออกไปยุโรปคิดเป็น 10% ของมูลค่าการส่งออกรวม แม้ว่าปัจจุบันผลกระทบยังอยู่ในวงจำกัด แต่หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น อาจส่งผลต่อภาพรวมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ตลอดจนการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด เนื่องจากนักท่องเที่ยวในประเทศเหล่านี้อาจชะลอการเดินทาง เหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยและการส่งออก ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยังเกิดขึ้นในปีนี้” ดร.รักษ์กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

EXIM BANK มอบเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก อุปกรณ์การศึกษา และอุปกรณ์กีฬา ให้แก่โรงเรียนบ้านปางห้วยตาด และโรงเรียนบ้านปางกว้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

นายชลัช รัตนบุญนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และนายจักริน วังวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท ชาระมิงค์ จำกัด มอบเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก อุปกรณ์การศึกษา และอุปกรณ์กีฬา ให้กับโรงเรียนบ้านปางห้วยตาด และโรงเรียนบ้านปางกว้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้โครงการ “EXIM CSR Strong Synergizer”

การแลกเปลี่ยนเชลยศึกครั้งใหญ่ระหว่างมอสโกและเคียฟลุล่วงแล้ว

นับเป็นการแลกเปลี่ยนเชลยศึกครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มต้นสงครามในยูเครน ในช่วง 3 วันที่ผ่านมามีเชลยศึกเดินทางกลับบ้านของตนแล้วรวมปร

ไทย-เวียดนาม แลกเปลี่ยนความตกลง 8 ฉบับ ตอกย้ำมิตรภาพและความร่วมมือ

นายกฯ ไทย-เวียดนาม เป็นสักขีพยานแลกเปลี่ยนความตกลง 8 ฉบับ ครอบคลุมการค้า การลงทุน ป้องกันยาเสพติด พร้อมแถลงข่าวร่วมกันตอกย้ำมิตรภาพและความร่วมมือ

'บัคห์มุต' จากเมืองสู่ทะเลทราย

บัคห์มุต เมืองในแคว้นโดเนตส์ค อดีตเคยมีประชากรอาศัยอยู่ถึง 75,000 คน ปัจจุบันมันกลายเป็นเมืองทะเลทรายที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วที่มีการสู้รบอย่างดุเดือดที่นี่ และมีทหารเสียชีวิตไปนับไม่ถ้วน

EXIM BANK ชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ถึง 17 เม.ย. นี้

EXIM BANK ตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นของขวัญปีใหม่ไทยแก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs โดยมีกำหนดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าทั่วไปและ SMEs เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี หรือ MRR ของธนาคารพาณิชย์ จาก 6.00% ต่อปี เป็น 6.25% ต่อปี ซึ่งยังคงเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีที่ต่ำที่สุดในระบบ มีผลตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2566 เป็นต้นไป